LINE


แนะนำ 10 มัลติเอฟเฟคน่าใช้ปี 2022

ไปซื้อ แนะนำ 10 มัลติเอฟเฟคน่าใช้ปี 2022ที่สาขา

มัลติเอฟเฟค (Multi Effect) ของกีต้าร์ไฟฟ้านั้น จะเป็นการจำลองเสียงโดยใช้ระบบดิจิตอล จำลองเสียงต่างๆขึ้นมาจากอุปกรณ์อนาล็อคจริงๆ ทั้งแอมป์รวมไปถึงเอฟเฟคก้อนที่ให้เสียงต่างๆกันไป ดังนั้นคุณภาพเสียงที่ได้นั้นอาจจะยังไม่เหมือนกับการใช้เอฟเฟคก้อน แต่ในปัจจุบันนั้นในมัลติเอฟเฟคที่มีราคาสูงๆ นั้นสามารถจำลองได้เรียกว่าแทบจะแยกกันไม่ออกเลยทีเดียว

มัลติเอฟเฟคนั้นคือการนำเอฟเฟคที่ให้เสียงต่างๆ มาใส่รวมไว้ในอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว ซึ่งในปัจจุบันมีการจำลองไม่ว่าจะเป็นตู้แอมป์ และเอฟเฟค นั้นรวมเข้าไปด้วยกัน ทำให้สามารถปรับเสียงได้หลากหลายมากๆเรียกว่า ครบทุกแนวเพลง

ในปัจจุบันมีมัลติเอฟเฟคกีต้าร์หลายรุ่นหลายยี่ห้อ ที่สามารถต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ได้และมีโปรแกรมปรับแต่งให้ ทำให้สามารถปรับแต่งบทคอมพิวเตอร์ได้ เราก็จะสามารถใช้โปรแกรมเรานั้นปรับแต่งได้ง่ายกว่าการปรับแต่งบนตัวเครื่องอีกด้วย

วันนี้ Music Arms จะพาไปรู้จักกับมัลติเอฟเฟค 10 รุ่นยอดฮิตที่น่าใช้แห่งปี 2020 ว่ามีรุ่นไหนกันบ้าง ไล่กันตั้งแต่ราคาเบาๆสำหรับมือใหม่ ไปจนถึงราคาแรงๆแต่คุณภาพคับแก้วแบบมืออาชีพ ไปชมกันได้เลย

ดูมัลติเอฟเฟคทั้งหมด คลิกที่นี่

1. Nux MG-30

ราคา : 9,900 บาท
11,000 บาท
ประหยัด10%
Face cover Nux-MG-30

เอฟเฟคกีตาร์ Nux MG-30 รุ่นที่มีการปรับแต่งจากตัว MG-300 ให้มีความกะทัดรัด แต่มากด้วยคุณภาพที่เพิ่มขึ้น และจุดเด่นคือการอัพเกรดความคมชัดที่ดีขึ้นจาก HD เป็น 2K ให้การตอบสนองและความสามารถในการเล่นของแอมป์ที่สมจริงมากขึ้น รุ่นนี้สามารถจำลองเสียงแอมป์ได้มากถึง 25 แอมป์ไฟฟ้า, 3 แอมป์เบส และ 2 แอมป์โปร่ง ซึ่งจะเป็นรุ่นดังของทาง Nux ทั้งสิ้น พร้อมการปรับแต่งได้อย่างอิสระผ่านทางหน้าจอ LCD สีสันสดใสขนาดใหญ่ 4 นิ้ว

ระบบเสียงของ MG-30 จะใช้เป็นโปรเซสเซอร์NXP® RT ซึ่งจะมีค่าดีเลย์ที่ต่ำมากเพียงแค่ 2ms หรือ 2 มิลลิวินาที เรียกว่ากดปุ๊บมาปั๊บ ตอบสนองได้อย่างทันใจ ตัวเอฟเฟคนั้นมีครบครันที่นักดนตรีต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Modulation, Tape, Reverse, EFX และ Wah ตั้งค่าการกดได้มากถึง 11 บล็อคพร้อมใช้งาน โดยจะรองรับระบบ Parallel EFX หรือวงจรขนานอีกด้วย มีตัว I / O ที่ใช้งานได้หลากหลาย ต่อพ่วงกับเอฟเฟคอื่นได้อีก

จุดเด่นอีกอย่างของ Nux MG-30 คือการเชื่อมต่อแบบ IR (Impulse Response) เข้ากับเอาท์พุตภายนอก ซึ่งจะเลือกแพทแต่ละ User เก็บไว้ได้ที่ความละเอียด 1024 จึงได้ประสิทธิภาพเสียงคุณภาพสูง ใช้งานกับแอป QuickTone พร้อมการอัพเดตเฟิร์มแวร์ หรือแอปอื่นๆได้ ตั้งค่าเป็นสตูดิโอทำเพลงในตัวได้กับการจำลองเสียงไมค์ 8 แบบ ถือว่ามีความครบเครื่องมากที่เอฟเฟคกีต้าร์จะให้ได้ เมื่อเทียบกับราคาแล้วบอกเลยว่าสุดคุ้มและน่าใช้อย่างมาก

ข้อดี Nux MG-30

  • ขนาดเล็กกระทัดรัด
  • ความคมชัดจาก HD เป็น 2K
  • สามารถจำลองการจ่อไมค์ที่แอมป์กีต้าร์ได้
  • สามารถปรับผ่าน แอปพลิเคชั่นได้
  • ราคาจับต้องได้

สรุป

Nux MG-30 คือเอฟเฟคกีต้าร์ที่สร้างมาเพื่อความสะดวกสบายของมือกีต้าร์ ด้วยขนาดที่เล็ก ฟังก์ชั่นจัดเต็ม และยังสามารถ ปรับเสียงผ่านแอปพลิเคชั่น ได้อย่างอิสระ มาพร้อมความละเอียด 2K แต่ราคาไม่สูง จึงเหมาะกับมือกีต้าร์ที่เป็นผู้เล่น มือใหม่ หรือ มืออาชีพ

สเปค : 

รายละเอียด เอฟเฟคกีตาร์ Nux MG-30

  • สามารถจำลองเสียงแอมป์พร้อมการปรับแต่งได้อย่างอิสระ
  • ปรับแต่งบล็อคสัญญาณได้ 11 บล็อค รองรับรูปแบบวงจร Parallel EFX
  • จอ LCD สีสันสดใสขนาดใหญ่ 4 นิ้วพร้อม UI ที่ใช้งานง่าย
  • 1024 ตัวอย่างความละเอียด IR และสล็อตตัวโหลด IR สำหรับเชื่อมต่อเอาท์พุตที่ 3 โดยเลือกแพทแต่ละ User ได้
  • แอพพลิเคชั่นที่หลากหลายและการตั้งค่าโดยรวม
  • การดีเลย์ประมวลผลข้อมูลที่ต่ำมาก (2ms) และ 2 DSP ที่ทรงพลัง
  • เชื่อมต่อฟุตสวิทช์รุ่น NMP-2 ได้
  • อินเตอร์เฟสการบันทึก USB
  • สามารถใช้งานแอป QuickTone พร้อมการอัพเดตเฟิร์มแวร์


2. Valeton GP-200

ราคา : 12,500 บาท
ประหยัดพิเศษ
Valeton GP-200 ร้านขาย

มัลติเอฟเฟคจาก Valeton ที่พัฒนามาต่อเนื่องจากรุ่น 100 โดยการนำเทคโนโลยีการสร้างแบบจำลองดิจิทัล HD ที่สั่งสมมาเป็นเวลาหลายปีของความพยายามอย่างขยันขันแข็งของทีม Valeton มอบโทนเสียงหลายร้อยรุ่นจากแอมพลิฟายเออร์คลาสสิกระดับโลกและเอฟเฟคเสียงสตรอมบ็อกซ์อีกมากกว่า 100 รายการในตัวเดียว รับประกันเสียงที่ยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอของคุณบนเวที ยกระดับเพื่อให้เหมาะกับบทบาทของคู่หูบนเวทีในอุดมคติของคุณ

คุณภาพเสียงในรูปแบบ 24 บิต 44.1kHz ซาวด์คมชัดทุกจุด สวิตช์เท้าสีสันสดใสมากถึง 8 ตัวสามารถกำหนดฟังก์ชั่นได้ดังใจ ออกแบบการป้องกันเฉพาะสำหรับสวิตช์เท้าแถวบนเพื่อป้องกันการเปิดใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจ ปุ่มโมดูลช่วยให้เปิด/ปิดโมดูลเอฟเฟคที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ออปติคัล แป้นเหยียบจะมีสัมผัสที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ พร้อมปุ่มเรียกใช้งานด่วนหากตั้งค่าไว้ก่อนหน้าแล้ว มีรูปแบบชุดกลองและจูนเนอร์ เลือกเอฟเฟค Chain หรือห่วงโซ่ได่ถึง 11 แบบ เหมือนมีเอฟเฟคก้อนมากมายบนเวทีได้ในตัวเดียว ครบเครื่องแบบนี้บอกเลยว่าสุดคุ้ม

ข้อดี Valeton GP-200

  • น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับพกพา
  • เทคโนโลยีการสร้างแบบจำลอง HD ที่ดำเนินการโดยแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ซึ่งให้โทนเสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • ตัวเครื่องโลหะหล่อแข็งแรงทนทาน
  • สามารถปรับผ่าน แอปพลิเคชั่นได้
  • ราคาจับต้องได้

สรุป

สำหรับใครที่กำลังมองหามัลติเอฟเฟคราคาไม่แรง พร้อมด้วยฟั่งชั่นที่ให้มา คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม ใช้งานง่าย จอภาพคมชัด ซึ่งในราคานี้หาในเอฟเฟคแบรนด์อื่นๆ ยากมาก จึงทำให้ใครที่ได้เอฟเฟครุ่นนี้ไปรับรองได้ว่า คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน

สเปค : 

รายละเอียด Valeton GP-200

  • เทคโนโลยีการสร้างแบบจำลอง HD ที่ดำเนินการโดยแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ซึ่งให้โทนเสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • การแปลงเสียง 24 บิต 44.1kHz
  • เอฟเฟคคุณภาพสูงกว่า 240 รายการ
  • จำแอมป์กีตาร์/เบส/อะคูสติกในตำนานกว่า 140 รายการ
  • เอฟเฟคไดนามิก / distortion / frequency / modulation / delay / reverb รวมกว่า 100 รายการ
  • รองรับการจัดเก็บข้อมูล IR ของผู้ใช้ 20 ราย
  • 256 ช่องแพตช์ (100 โรงงาน, 156 ผู้ใช้)
  • โมดูลที่เคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระสูงสุด 11 โมดูลในห่วงโซ่เอฟเฟคสามารถทำงานได้พร้อมกัน
  • ตัววนลูป 180 วินาที
  • 100 รูปแบบกลองคุณภาพสูง
  • จูนเนอร์ในตัวที่แม่นยำ
  • จอ TFT LCD ขนาด 4.3 นิ้ว นำเสนอ UI หลายภาษาที่ใช้งานง่าย
  • สวิตช์เหยียบ LED ที่ปรับแต่งได้ 8 ตัวพร้อมเทมเพลตสวิตช์เท้า 3 แบบ ใช้ได้กับสถานการณ์ต่างๆ
  •  แป้นเหยียบในตัวควบคุมพารามิเตอร์เอฟเฟคสูงสุด 3 รายการ
  • ปุ่มลัดมากมายช่วยให้การปรับแต่งมีประสิทธิภาพ
  • I/O ที่หลากหลาย
  • อินเทอร์เฟสเสียงการเชื่อมต่อ USB Type-C เข้ากันได้กับระบบ Win/Mac/iOS/Android
  • ตัวแก้ไข Win/Mac ที่ใช้งานง่าย
  • ตัวเครื่องโลหะหล่อแข็งแรงทนทาน
  • แหล่งจ่ายไฟ DC 9V


3. Zoom G6

ราคา : 16,000 บาท
20,000 บาท
ประหยัด20%
Face cover Zoom-G6-Multi-Effects-Processor

มัลติเอฟเฟครูปแบบใหม่ที่ทำออกมาตอบโจทย์โลกดนตรีปัจจุบัน ขับเคลื่อนด้วยแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่ายผ่านทางหน้าจอสัมผัสสีขนาด 4.3 นิ้วของ G6 เพียงแค่ลากแล้ววางหรือปัดก็จะเปลี่ยนเสียงเอฟเฟคทันที ภายในตัวเครื่องบรรจุโทนเสียงกีตาร์ในตำนานของ Zoom รวมถึงเอฟเฟค Distortion และ Modulation ใหม่ล่าสุด มีพื้นที่สำหรับ 240 Patches รวมถึง 100 Presets เพื่อสร้างรูปแบบเอฟเฟคส่วนตัวที่จำเป็นการต่อการใช้งานในแต่ละบทเพลง ซึ่งจะใช้งานได้สูงสุดถึง 7 เอฟเฟคพร้อมกัน

นอกจากสร้างเสียงเอฟเฟคด้วยตัวเองแล้ว รุ่นนี้ยังตอบโจทย์คนชอบการจำลองเสียงลำโพงด้วย เพราะตอบสนองอิมพัลส์ (IR) ที่บันทึกไว้ล่วงหน้า 70 รายการ จากเสียงแอมป์กีต้าร์ยอดนิยมตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมากมาย มี Looper ในตัวซึ่งสร้างลูปได้นานถึง 2 ชั่วโมงโดยบันทึกลงในการ์ด SD (ไม่ใช้การ์ด Loop ได้ 45 วินาที) การเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB, Aux in และหูฟัง รวมถึงใช้งานแอพ Handy Guitar Lab ผ่าน Bluetooth ได้ ฟังก์ชั่นมาครบแบบนี้ มือกีต้าร์คนไหนยังไม่มีเอฟเฟคคู่กาย ได้รุ่นนี้ไปจบในตัวเดียวแน่นอน

ข้อดี Zoom G6

  • บอร์ดเอฟเฟคพร้อมสวิทช์เท้า 6 ตัวและแป้นเหยียบคุมระดับเสียง
  • การควบคุมแบบไร้สายผ่าน Bluetooth (BTA-1) พร้อมแอพ Handy Guitar Lab
  • ฟังก์ชั่นโหลดการตอบสนองของอิมพัลส์สำหรับการจำลองลำโพง
  • หน้าจอเป็นแบบ Touchscreen ขนาด 4.3 นิ้ว
  • ราคาถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพ

สรุป

Zoom G6 Multi-Effects Processor ด้วยฟั่งชั่นที่ให้มา คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงหน้าจอแบบ Touchscreen ซึ่งในราคานี้หาในเอฟเฟคแบรนด์อื่นๆ ยากมาก จึงทำให้ใครที่ได้เอฟเฟครุ่นนี้ไปรับรองได้ว่า คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน

สเปค : 

รายละเอียด Zoom G6 Multi-Effects Processor

  • บอร์ดเอฟเฟคพร้อมสวิทช์เท้า 6 ตัวและแป้นเหยียบคุมระดับเสียง
  • จำลองเสียงแอมป์ได้
  • หน้าจอสีแบบสัมผัส LCD ขนาด 4.3 นิ้ว
  • 240 Patches
  • 100 Presets
  • สามารถตั้งค่าใช้งานเอฟเฟคได้ถึง 7 แบบพร้อมกัน
  • ฟังก์ชั่นโหลดการตอบสนองของอิมพัลส์สำหรับการจำลองลำโพง
  • อินเตอร์เฟสเสียง USB ในตัว (2 อินพุตและ 2 เอาต์พุต)
  • 68 รูปแบบจังหวะ
  • มี Looper
  • สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ Zoom Guitar Lab
  • การควบคุมแบบไร้สายผ่าน Bluetooth (BTA-1) พร้อมแอพ Handy Guitar Lab
  • อินพุต: แจ็ค 6.3 มม
  • เอาต์พุตสเตอริโอ: แจ็ค 6.3 มม. 2 ช่อง
  • ช่อง Send / Return 6.3 มม. 2 ช่อง
  • แจ็คควบคุม 6.3 มม
  • อินพุต AUX
  • ช่องเสียบ SD
  • แหล่งจ่ายไฟพร้อมอะแดปเตอร์ไฟ DC


4. Line 6 Pod Go

ราคา : 19,900 บาท
21,900 บาท
ประหยัด9%
Face cover Line-6-Pod-Go

มัลติเอฟเฟคที่ทำออกมาตอบสนองความต้องการของมือกีต้าร์รุ่นใหม่อย่างมาก โดยหลักๆจะยึดเอาฟังก์ชั่นของ Helix Stomp ซึ่งเป็นรูปแบบยอดนิยมของเอฟเฟค Line 6 เป็นพื้นฐาน เอฟเฟคต่างๆจะเหมือนตัว Helix Stomp ไม่ว่าจะเป็น Reverb, Delay, Chorus แต่จะมีฟังก์ชั่นจำลองเสียงแอมป์ Helix/Legacy เพิ่มเติมมาด้วย สามารถ Preset ได้ถึง 270 แบบในสองโหมด HX และ Legacy พร้อมเรียกใช้งาน ช่องต่อครบครันไม่ว่าจะฟุตสวิทช์หรือหูฟัง รวมถึงต่อ USB ได้ รองรับการทำเพลงด้วยแอป POD Go Edit App ใครหาเอฟเฟคดีๆหรือเคยถูกใจกับ Helix Stomp มาแล้ว รุ่นนี้ไม่มีผิดหวัง

ข้อดี Line 6 Pod Go

  • Preset ได้ 270 แบบ ในโหมด HX และ Legacy
  • สามารถใช้ซอฟแวร์ POD Go Edit App ที่ใช้งานได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น
  • มีปุ่มหลากหลาย ใช้ได้ทั้งเป็นโหมด Preset และ โหมดก้อนได้
  • มีโหมด Snapshot สำหรับเลือกเปิดหรือปิดเอฟเฟคใน 1 snapshot ได้
  • น้ำหนักเบา พกพาง่ายสะดวก

สรุป

Line 6 Pod Go เป็นมัลติเอฟเฟค แห่งยุคที่จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวที่ยอดนิยมที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยเสียงที่ใกล้เคียงกับระบบ Analog และการใช้งานที่แสนจะยืดยุ่น และใช้ง่ายง่ายมากๆ แถมยังมี ระบบพระเอกอย่าง Snapshot ที่ทำให้หมดปัญหากระตุก ของมัลติเอฟเฟค หากใครกำลังสนใจ มัลติเอฟเฟค ที่ตัวเดียวจบ เหมาะกับงานบันทึกเสียงในสตูดิโอ และ เล่นคอนเสริต จะงานเล็กงานใหญ่ก็ถือว่าเอาอยู่ สบายๆ หากใครกำลังสนใจ

สเปค : 

รายละเอียด Line 6 Pod Go

  • ประเภทมัลติเอฟเฟค
  • รูปแบบดิจิตอล
  • Preset ได้ 270 แบบ ในโหมด HX และ Legacy
  • รูปแบบเอฟเฟค Helix Stomp
  • สามารถจำลองเสียงแอมป์ Helix/Legacy
  • ช่อง Input แบบ 1/4 นิ้ว 2 ช่อง (อุปกรณ์ดนตรี และ FX Return)
  • ช่อง Output 4 ช่อง แบบ 1/4 นิ้ว
  • ต่อฟุตสวิทช์ได้
  • ต่อหูฟังได้
  • มีช่องเสียบ TRS I/O
  • ต่อ USB ได้
  • หน้าจอ LCD 4.3
  • สามารถใช้ซอฟแวร์ POD Go Edit App
  • รองรับ Windows, Mac OS
  • ใช้อแดปเตอร์ DC9V


5. Boss GX-100

ราคา : 24,000 บาท
30,000 บาท
ประหยัด20%
Boss GX-100 ด้านหน้า

มัลติเอฟเฟค Touch Screen สุดล้ำสร้างแรงบันดาลใจมอบประสิทธิภาพระดับสูงสุด ให้โทนเสียงที่เหนือกว่าและความรู้สึกแอมป์หลอดที่เป็นธรรมชาติในทุกสถานการณ์การเล่น ด้วยเทคโนโลยี AIRD ที่ได้รับการสนับสนุนโดยแนวทาง Tube Logic ที่ปรับปรุงใหม่ เอาต์พุต AIRD Select ให้คุณปรับแต่งเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ Preamp มากถึง 23 แบบ และเอฟเฟคในตัวกว่า 150 เสียงโดยได้ต้นแบบจาก GT-1000 สามารถใช้งานบล็อคเอฟเฟคได้พร้อมกันสูงสุดถึง 15 รายการ รวมถึงเอฟเฟคคลาสสิกของ BOSS เช่น Slow Gear, Octave และอีกมากมาย

ข้อดี Boss GX-100

  • จอแสดงผล LCD หน้าจอสัมผัส
  • สามารถปรับเสียงต่างๆผ่านแอพของ Boss ผ่านคอมพิวเตอร์ ที่ใช้งานได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น
  • จำลองเสียงเอฟเฟคก้อน Boss ทั้งหมดในตัวเดียว
  • ให้โทนเสียงที่เหนือกว่าและความรู้สึกแอมป์หลอดที่เป็นธรรมชาติในทุกสถานการณ์การเล่นด้วยเทคโนโลยี AIRD ของทาง Boss

สรุป

Boss GX-100 เอฟเฟคุณภาพสูง ให้รายละเอียดเสียงและการแสดงของคุณได้เต็มประสิทธิภาพ มาพร้อมฟีเจอร์ที่หลากหลาย พรีเซทให้เลือกเล่นอีกเยอะมากๆ ระบบที่ซัพพอร์ท และเอาต์พุตที่มีให้เลือกในการใช้งาน หน้าตาทันสมัย เหมาะสำหรับมือกีตาร์ที่อยากได้เอฟเฟคครบครันจบในตัวเดียว

สเปค : 

รายละเอียด Boss GX-100

  • ความถี่ Sampling 48 kHz
  • การแปลง AD 24 บิต + วิธี AF
    วิธี AF (วิธีปรับโฟกัสอัตโนมัติ) นี่เป็นวิธีการที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Roland & BOSS ที่ปรับปรุงอัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน (SN) ของตัวแปลง AD และ DA อย่างมาก
  • การแปลง DA 24 บิต
  • กำลังประมวลผล 32 บิต
  • เอฟเฟค 154 ประเภท
  • จำนวนเอฟเฟคสูงสุด15+3 (DIVIDER/MIXER, SEND/RETURN, PHRASE LOOP) *แล้วแต่สถานการณ์
  • เมมโมรี่ 200 (ผู้ใช้) + 100 (พรีเซ็ต)
  • Loop 38 วินาที (โมโน), 19 วินาที (สเตอริโอ)
  • ความแม่นยำจูนเนอร์ +/-0.1 เซ็นต์
  • ระดับอินพุตที่กำหนด
    อินพุต: -10 dBu
    Return : -10 dBu
  • ระดับอินพุตสูงสุด
    อินพุต: +18 dBu
    Return1: +8 dBu
  • อิมพีแดนซ์อินพุต
    อินพุต: 1 M โอห์ม
    Return: 1 M โอห์ม
  • ระดับเอาต์พุตที่กำหนด
    OUTPUT (L/MONO, R): -10 dBu
    PHONES: -10 dBu
    SEND: -10 dBu
  • อิมพีแดนซ์เอาต์พุต
    OUTPUT (L/MONO, R): 1 k โอห์ม
    PHONES: 44 โอห์ม
    SEND: 1 k โอห์ม
  • อิมพีแดนซ์โหลดที่แนะนำ
    OUTPUT (L/MONO, R): 10 k โอห์ม หรือมากกว่า
    PHONES: 44 โอห์มขึ้นไป
    SEND: 10 k โอห์ม ขึ้นไป
  • การควบคุม
    สวิตช์ BANK DOWN, สวิตช์ BANK UP, สวิตช์ CTL1, สวิตช์ CTL2/TUNER, สวิตช์ 1-4 สวิตช์, สวิตช์ POWER, สวิตช์ EXP1, สวิตช์ GND LIFT
    ปุ่ม EFFECTS, ปุ่ม CTL/EXP, ปุ่ม MENU, ปุ่ม EXIT, ปุ่ม WRITE, ปุ่ม IN/OUT SETTINGS, ปุ่ม PAGE, ปุ่ม 1-4
    ปุ่ม SELECT, ปุ่มปรับระดับเอาต์พุต, แป้นเหยียบ EXP1
  • จอแสดงผล LCD (480 x 272 dots) หน้าจอสัมผัส
  • ตัวเชื่อมต่อ
    แจ็ค INPUT, แจ็ค OUTPUT (L/MONO, R), แจ็ค SEND, แจ็ค RETURN: ประเภทโทรศัพท์ 1/4 นิ้ว
    แจ็คโทรศัพท์: ประเภทโทรศัพท์สเตอริโอ 1/4 นิ้ว
    CTL3, แจ็ค 4/EXP2, AMP CTL1, 2 แจ็ค: ประเภทโทรศัพท์ TRS ขนาด 1/4 นิ้ว
    ขั้วต่อ MIDI (IN, OUT)
    พอร์ต USB คอมพิวเตอร์: ประเภท USB B
    ขั้วต่อ Bluetooth ADAPTER: ขั้วต่อเฉพาะ
    แจ็ค DC IN
  • อะแดปเตอร์ AC กำลังไฟ1.2 A
  • ขนาด 460 x 193 x 73 มม.
  • น้ำหนัก 3.5 กก.


6. Mooer GE300

ราคา : 22,900 บาท
ประหยัดพิเศษ
Mooer-GE300.jpg-3

มัลติเอฟเฟครุ่นใหม่จากทาง Mooer ที่สร้างความฮืฮาในงาน NAMM Show ปี 2019 รุ่นนี้จะมีการปรับฟังก์ชั่นต่างๆให้ใช้งานได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟคในตัวที่มากถึง 164 แบบ โดยที่เสียงหลักๆอย่าง Drive, Modulation, Pitch, Reverb และ Delay มีมาให้ครบครัน การจำลองเสียงแอมป์เพิ่มมาเป็น 108 แบบ เช่นเดียวกับจำลองเสียงคาบิเน็ตได้ถึง 43 แบบ นอกจากนี้ยัง Loop ได้ในระบบดิจิตอล และนานสุดมากถึง 30 นาทีเลยทีเดียว เรื่องซาวด์ต่างๆปรับคุณภาพให้มีความชัดเจนมากขึ้น งานดีแบบนี้เชื่อว่าหลายคนอยากเป็นเจ้าของ

ข้อดี Mooer GE300

  • จำลองเสียงแอมป์คุณภาพชั้นนำของโลกมาให้เลือกได้หลายหลายตามความต้องการของผู้ใช้
  • ควบคุมภาค OUTPUT ต่างๆอย่างง่ายดาย
  • มีเสียง polyphonic synthesizer
  • Loop นานถึง 30 นาที
  • ลดความหน่วงของสัญญานเมื่ออัดเสียงผ่านคอมพิวเตอร์ด้วยระบบ Direct, low latency USB audio.
  • ตัวTop ราคาสูง แต่ฟังชั่นครบ เสียงดี ซื้อแล้วจบแน่นอน

สรุป

สำหรับใครที่กำลังมองหาเอฟเฟคมัลติที่ใช้งานได้หลากหลาย มีลูกเล่นที่ไม่ซ้ำใคร หรือต้องการใช้ฟังชั่น TONE CABTURE ในการจำลองแอมป์ เอฟเฟคหรือกีตาร์ทรงต่างๆ ที่จะช่วยให้การเล่นดนตรีของคุณไม่มีความน่าเบื่ออีกต่อไป รวมไปถึงความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ด้วยการขนเอฟเฟคมัลติเพียงตัวเดียวแทนการขนกีตาร์หลายๆตัว งานดีแบบนี้ใครที่ได้เป็นเจ้าของรับรองว่าเล่นจนวางไม่ลงแน่นอน

สเปค : 

รายละเอียดมัลติเอฟเฟค Mooer GE300

  • ทำเสียงเอฟเฟคได้ถึง 164 แบบ
  • ตั้งค่า Preset ได้ถึง 200 แบบ
  • มีช่องเสียบ Input และ Output แบบโมโนขนาด 1/4 นิ้ว
  • มีช่องเสียบ Aux in และหูฟังแบบสเตอริโอขนาด 1/8 นิ้ว
  • มีช่องเสียบเคเบิ้ลแบบ EXP2 ขนาด 1/4 นิ้ว เป็นแบบสเตอริโอ
  • สามารถจำลองเสียงแอมป์แบบคุณภาพสูงได้ถึง 108 แบบ
  • สามารถจำลองเสียงลำโพงแบบ IR ได้ถึง 43 แบบ
  • Loop ได้ถึง 30 นาที พร้อมเอฟเฟครีเวิร์ปในตัว
  • มีเอฟเฟค Drive, Modulation, Pitch, Reverb และ Delay รวมถึงระบบตัดเสียงรบกวน
  • ตั้งค่าเสียงกลองได้ 40 รูปแบบ เสียงเมโทรโนมถึง 10 แบบ
  • เชื่อมต่อ USB เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้


7. Zoom G11

ราคา : 28,800 บาท
36,000 บาท
ประหยัด20%
Face cover Zoom-G11-Multi-Effects-Processor

เอฟเฟคสำหรับผู้สร้างสรรค์ Zoom เป็นแบรนด์ที่ออกแบบเอฟเฟคกีต้าร์มามากกว่า 30 ปี ด้วยประสบการณ์ที่ยาววนาน G11 จึงเป็นผลงานที่สามารถแสดงให้เห็นถึงแรงบันดาลใจและวิศวกรรมศาสตร์ขั้นสูง chain เอฟเฟคและแอมป์ 9 อัน IR จำลองแบบ built in 70 ตัว บวก 130 slots พร้อมใช้งานเพื่อ user uploaded IR’s โดยเฉพาะ เอฟเฟค loop send/return 2 ตัว ที่มาพร้อมกับ MIDI in/out และ USB audio interface ให้คุณได้บันทึกการทำงานของคุณไปสู่ DAW ได้โดยตรง pedal board, amp modeling panel, สวิตช์ stomp 5 ตัว และ expression/volume Control นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบการแสดงผลอัจฉริยะด้วยหน้าจอแบบ Touchscreen interface สีสันสดใสด้วย color LCD ใช้งานฟังก์ชันได้ง่ายและไวกว่าด้วยการลากวาง

ข้อดี Zoom G11

  • จำลองเสียงแอมป์คุณภาพชั้นนำของโลกมาให้เลือกได้หลายหลายตามความต้องการของผู้ใช้
  • หน้าจอเป็นระบบ Touchscreen
  • ดีไซน์หรือฟังก์ชั่น ทันสมัย
  • มี loop send/return 2 ตัว
  • มีปุ่มหลากหลาย ใช้ได้ทั้งเป็นโหมด Preset และ โหมดก้อนได้

สรุป

Zoom G11 คือ เอฟเฟคที่มาแรงในยุคนี้ หน้าจอเป็นระบบ Touchscreen ทำให้ใช้งานได้สบายยิ่งขึ้น มี amp modeling ที่ให้เสียงสมจริง ไม่ว่าจะเป็นเสียงคลีน หรือเสียงแตก สำหรับใครที่กำลังมองหามัลติเอฟเฟคดีๆสักตัวไว้ใช้งาน แอดมินขอแนะนำตัวนี้เลยครับ

สเปค : 
  •  เอฟเฟคจำลอง : แอมป์ + เอฟเฟค 9 อัน
  • ผู้ใช้ปรับแต่งได้ 240 แบบ
  • ความถี่ในการแซมปิงอยู่ที่ 44.1 kHz
  • A/D CONVERSION: 24-bit 128× oversampling
  • D/A CONVERSION: 24-bit 128× oversampling
  • SIGNAL PROCESSING: 32-bit
  • FREQUENCY CHARACTERISTICS: 20 Hz – 20 kHz (+1 dB/−2 dB) (10kΩ load)
  • การแสดงผล 5″ TFT แบบ color LCD (800×480) Dot-matrix LCDs (128×32) (6)
  • INPUT: สายแจ๊ค Standard mono phone jack
  • ระดับอัตราการ  input : -20
  • ความต้านทานสาย dBu Input : 500 kΩ
  • RETURN :สายแจ๊ค Standard mono phone jacks (2 สาย)
  • ระดับอัตราการ  input : -20
  • ความต้านทานสาย dBu Input : 1 MΩ
  • AUX IN: สาย Stereo mini jack
  • ระดับอัตราการ  input :-10 dBuInput impedance (line): 10 kΩ
  • ซ้าย/ขวา : สาย Standard mono phone jack
  • ระดับการ output สูงสุด : INST/LINE +11.4 dBu/+19 dBu (เมื่อ output มีความต้านทาน 10 kΩ หรือสูงกว่า)
  • เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ : สายแจ๊ค Standard stereo phone jack
  • ระดับการ output สูงสุด : Line +11.4 dBu (เมื่อ output มีความต้านทาน 10 kΩ หรือสูงกว่า) หูฟัง 24 mW + 24 mW (ที่ 32Ω load)
  • SEND : สายแจ๊ค Standard mono phone jacks (2 สาย)
  • ระดับการ output สูงสุด : Line +11.4 dBu (เมื่อ output มีความต้านทาน 10 kΩ หรือสูงกว่า)
  • INPUT S/N : 123 dB
  • NOISE FLOOR (RESIDUAL NOISE): Left/Right : INST/LINE −99.5 dBu/−92.5 dBuSEND: -99.0 dBu
  • MIDI IN/OUT: สายแจ๊ค 5-pin DIN jacks
  • CONTROL INPUT : FP02M input
  • เชื่อมต่อกับ USB : USB2.0 Type-C รองรับสายแบบ Type-C cable GuitarLab:
  • USB1.1 Full SpeedAudio Interface: USB2.0 High Speed, 44.1 kHz/32-bit 4in 4out• ใช้สายเคเบิลในการถ่ายโอนข้อมูล ไม่รองรับ USB bus power
  • USB HOST: เชื่อมด้วย USB2.0 Type-A / Standard: USB 2.0 High Speed • ใช้กับหัว USB thumb
  • REMOTE : ZOOM BTA-1 หรืออะแดปเตอร์ dedicated wireless
  • ขนนาด : 253 mm (ความลึก) × 495 mm (ความกว้าง) × 64 mm (ความสูง)
  • น้ำหนัก : 2.8 kg


8. Line 6 HX Stomp XL

ราคา : 31,000 บาท
34,000 บาท
ประหยัด9%
Face cover Line-6-HX-Stomp-XL

เอฟเฟคกีตาร์ Line 6 HX Stomp XL ที่รวบรวมเอาเพื่อนๆในตระกูล Helix มาไว้ในตัวเดียว เนื่องจากรุ่นนี้สามารถจำลองเสียงแอมป์ออนบอร์ด, คาบิเน็ตมากกว่า 300 รุ่นจากตระกูล Helix, M-series และผลิตภัณฑ์ Line 6 รุ่นเก่า เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการทำงานของ 8 สวิทช์ที่ใช้งานง่าย ตั้งค่าปุ่มควบคุมเป็น 8 บล็อค และเพิ่มสแนปช็อต 4 แบบต่อการตั้งค่าล่วงหน้าเพื่อความยืดหยุ่นของเสียงที่ดียิ่งขึ้น

ตัวเอฟเฟคจะตั้งค่าได้มากถึง 128 Preset และทำเป็น Loop สวิทช์ได้มากถึง 6 ตัว การตั้งค่าล่วงหน้าจะจัดเรียงตามเครื่องดนตรี ค้นหาโทนเสียงได้อย่างรวดเร็วและใช้งานง่าย ตัวเอฟเฟคมีมาให้ทั้ง drives, EQs, filters, wahs, fuzzes, delay, reverb, และ modulation เรียกว่าครบครัน เอ็นจิ้นเสียง 24/96 สร้างเสียงจำลองที่สมจริง และจำลองเสียงแอมป์ได้ถึง 4 สาย หน้าจอ 2.4 นิ้วในตัว ออกแบบมาได้ลงตัวและครบเครื่อง ครบทุการใช้งานในเครื่องเดียว

ข้อดี Line 6 HX Stomp XL

  • มี8 สวิทช์ที่ใช้งานง่าย ตั้งค่าปุ่มควบคุมเป็น 8 บล็อค และเพิ่มสแนปช็อต 4 แบบ
  • มีการจำลองเสียงของหลอดในแอมป์หลอดมาไว้ด้วย
  • ดีไซน์หรือฟังก์ชั่น ทันสมัย
  • ขนาดกระทัดรัด พกพาง่าย
  • 128 Preset ที่ตั้งได้ล่วงหน้าเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานจริง

สรุป

Line 6 HX Stomp XL เป็นมัลติเอฟเฟค แห่งยุคที่จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวที่ยอดนิยมที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยเสียงที่ใกล้เคียงกับระบบ Analog และการใช้งานที่แสนจะยืดยุ่น และใช้ง่ายง่ายมากๆ แถมยังมี ระบบพระเอกอย่าง Snapshot ที่ทำให้หมดปัญหากระตุก ของมัลติเอฟเฟค หากใครกำลังสนใจ มัลติเอฟเฟค ที่ตัวเดียวจบ เหมาะกับงานบันทึกเสียงในสตูดิโอ และ เล่นคอนเสริต จะงานเล็กงานใหญ่ก็ถือว่าเอาอยู่ สบายๆ

สเปค : 

รายละเอียด เอฟเฟคกีตาร์ Line 6 HX Stomp XL

  • พลังการประมวลผลของตระกูล Helix ในสวิทช์ 8 ตัวที่ใช้งานง่าย
  • อุปกรณ์เดินทางแบบสแตนด์อโลนที่ดีที่สุด ช่วยให้การตั้งค่าบอร์ดหรือแอมป์เป็นไปอย่างสมดุล
  • ความสามารถของ MIDI ที่กว้างขวางเปลี่ยน HX Stomp XL ให้เป็นศูนย์บัญชาการเรื่องเสียง
  • จำลองเสียงแอมป์ออนบอร์ด, คาบิเน็ตมากกว่า 300 รุ่นจากตระกูล Helix, M-series และผลิตภัณฑ์ Line 6 รุ่นเก่า
  • เอฟเฟคการเปลี่ยนพิทช์โพลีโฟนิกระดับโลก
  • 128 Preset ที่ตั้งได้ล่วงหน้าเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานจริง
  • เลือกได้สูงสุด 8 บล็อกต่อการตั้งค่าล่วงหน้า
  • บันทึก 4 สแนปชอตต่อการตั้งค่าล่วงหน้าและสลับไปมาระหว่างกันอย่างราบรื่น
  • เอ็นจิ้นเสียง 24/96  มอบคุณภาพที่ยอดเยี่ยมและการสร้างเสียงจำลองที่สมจริง
  • จอแสดงผลสีเต็มขนาด 2.4 นิ้วที่ยอดเยี่ยม
  • FX loop ในตัว
  • ประสิทธิภาพเสียงสเตอริโอจากอินพุตไปยังเอาต์พุต
  • ความสามารถ MIDI สำหรับสวิตช์แบบดั้งเดิมและประสิทธิภาพขั้นสูง
  • อินเทอร์เฟสเสียง USB พร้อมความสามารถในการรีแอมป์
  • ระบบ True bypass
  • อัพเดทแพทช์บนคอมพิวเตอร์และอัพเกรดเฟิร์มแวร์ได้ง่าย
  • รองรับ IRs


9. Boss GT-1000

ราคา : 36,800 บาท
46,000 บาท
ประหยัด20%
Boss-GT-1000

สุดยอดมัลติเอฟเฟคที่ทำให้สาวกสิ้นสุดการรอคอย 6 ปี หลังจากออกรุ่น GT-100 มาเมื่อปี 2012 สำหรับรุ่นนี้มีการปรับแต่งมากมาย อย่างแรกคือปุ่มเหยียบแบบใหม่ ระบบซาวด์ปรับมาเป็น 32 บิท ซึ่งถือว่าล้ำสมัยมากเพราะหลายค่ายยังเป็นระบบ 24 บิท มาพร้อมระบบ AIRD สามารถจำลองเสียงแอมปืได้หลายแบบ จำนวนเอฟเฟคมากถึง 116 แบบในตัว ครบเครื่องไม่ว่าเสียงหลักๆอย่างเสียงแตก, ดีเลย์ คอรัส อีกทั้งยังเล่น Loop ได้ด้วย เชื่อมต่อได้ครบทั้ง MIDI, USB และหูฟัง ซาวด์ดี ฟังก์ชั่นล้ำแบบนี้ เรียกว่าสมกับการรอคอย

ข้อดี Boss GT-1000

  • โปรเซสเซอร์แอมป์ / เอฟเฟก คุณภาพเสียงที่เหนือชั้น
  • บลูทูธสำหรับการแก้ไขแบบไร้สายผ่านแอพ BOSS Tone Studio สำหรับอุปกรณ์มือถือ iOS และ Android
  • รองรับการควบคุมภายนอกผ่านสวิทช์เท้าเหยียบ MIDI และ USB
  • จูนเนอร์ความละเอียดสูงพร้อมโหมดการแสดงผลสองโหมดและการทำงานแบบโมโนหรือโพลีโฟนิก
  • จำลองเสียงเอฟเฟคก้อน Boss ทั้งหมดในตัวเดียว
  • สมารถดึงเสียงจำลอง IR ของศิลปินชั้นนำระดับโลกมาใส่ในเอฟเฟคของตัวเองได้

สรุป

Boss GT-1000 เอฟเฟคุณภาพสูง ให้รายละเอียดเสียงและการแสดงของคุณได้เต็มประสิทธิภาพ มาพร้อมฟีเจอร์ที่หลากหลาย พรีเซทให้เลือกเล่นอีกเยอะมากๆ ระบบที่ซัพพอร์ท และเอาต์พุตที่มีให้เลือกในการใช้งาน

สเปค : 

รายละเอียดเอฟเฟค Boss GT-1000

  • เอฟเฟคประเภทมัลติ
  • จำนวนเอฟเฟค 116 แบบในตัว
  • ประเภทเอเฟเฟค Reverb, Delay, Pitch Shifter, Octave, Flanger, Phaser, Tremolo, Vibrato, Harmonist, Chorus และ Wah Wah
  • จำลองเสียงแอมป์ได้
  • Loop ได้ 38 วินาที
  • ช่อง Input และ Output ขนาด 1/4 นิ้ว
  • มีช่อง Return
  • เชื่อมต่อ MIDI ได้
  • ใช้ USB แบบ B
  • ต่อ Bluetooth ได้
  • ต่อหูฟังได้
  • ใช้ได้กับระบบ PC, Android, iOS
  • ใช้กับอแดปเตอร์ DC 9V


10. Line 6 Helix Floor

ราคา : 65,000 บาท
69,000 บาท
ประหยัด6%
Face cover Line-6-Helix-Floor

มัลติเอฟเฟคสายพันธ์ใหม่ที่รวมแอมป์ คาบิเนต ไมโครโฟน และเอฟเฟคกีต้าร์เอาไว้มากมาย ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ให้เสียงสมจริงมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะมีซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเอง ไม่มีปัญหา เพราะสามารถปรับแต่งเสียงที่ต้องการได้อย่างใจต้องการ ใช้ได้ทั้งบนเวทีและในห้องอัดได้อย่างดีเยี่ยม จุดเด่นของรุ่นนี้ยังเป็นเรื่องการจำลองเสียงแอมป์ที่จัดมาเต็มรูปแบบถึง 45 รุ่น และยังจำลองเสียงคาบิเนตได้อีกด้วย ช่องเสียบเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆมาอย่างครบครันทั้ง USB หูฟัง ซื้อเอฟเฟคตัวเดียวได้ซาวด์มาครบแบบนี้ คุ้มค่าอย่างมาก

ข้อดี Line 6 Helix Floor

  • หน้าตาและดีไซต์ ทันสมัย
  • ให้เสียงที่ คมชัด คุณภาพ
  • ดีไซน์หรือฟังก์ชั่น ทันสมัย
  • จำนวนเสียง 45 แอมป์, 30 คาบิเนท, 16 ไมค์ และ 70 เอฟเฟค
  • การปรับอิสระตามต้องการ โดยเฉพาะต่อผ่านคอมพิวเตอร์ใช้แอพลิเคชั่นของ Line 6
  • ทำเสียง Loop ได้ 60 วินาทีในระบบโมโน และ 30 วินาทีในระบบสเตอริโอ
  • มาพร้อมกับ12 สวิตช์ ที่ตอบสนองต่อการเหยียบสัมผัส และเเข็งแรง

สรุป

Line 6 Helix เป็นมัลติเอฟเฟค แห่งยุคที่จัดได้ว่าเป็นตัวที่ยอดนิยมที่สุดเลบก็ว่าได้ เพราะด้วยเสียงที่ใกล้เคียงกับระบบ Analog และการใช้งานที่แสนจะยืดยุ่น และใช้ง่ายง่ายมากๆ แถมยังมี ระบบพระเอกอย่าง Snapshot ที่ทำให้หมดปัญหากระตุก ของมัลติเอฟเฟค หากใครกำลังสนใจ มัลติเอฟเฟค ที่ตัวเดียวจบ เหมาะกับงานบันทึกเสียงในสตูดิโอ และ เล่นคอนเสริต จะงานเล็กงานใหญ่ก็ถือว่าเอาอยู่ สบายๆ หากใครกำลังสนใจ

สเปค : 
  • ระบบใหม่จาก LINE Dual DSP-powered HX modeling เป็นระบบที่สามารถต่อซิกเนลโพร์ได้
  • เป็นประเภทแอมป์โมเดลลิ่งสามารถจำลองเสียงแอมป์ได้
  • จำนวนเสียง 45 แอมป์, 30 คาบิเนท, 16 ไมค์ และ 70 เอฟเฟค
  • 12 สวิตช์ ที่ตอบสนองต่อการเหยียบสัมผัส และเเข็งแรง
  • การปรับอิสระตามต้องการ
  • การดีไซด์สวิชท์ให้ควบคุมง่ายไม่ห่างกันเกินไป
  • สามารถต่อฟุตสวิทช์เพิ่มได้อีกถึง 3 ช่อง
  • ทำเสียง Loop ได้ 60 วินาทีในระบบโมโน และ 30 วินาทีในระบบสเตอริโอ
  • ช่องเสียบแจ็คกีต้าร์ขนาด 1/4 นิ้ว 1 ช่อง และช่องเสียบรีเทิร์นขนาด 1/4 นิ้ว 2 ช่อง
  • สแนปชอต 8 ต่อพรีเซ็ต
  • ฟุตสวิตช์สัมผัสแบบ capacitive 12 อัน
  • USB อินเทอร์เฟส : 8 อิน 8 เอาท์
  • ช่องหูฟัง ¼ สเตอริโอ
  • อินพุต 1/4 กีตาร์, Aux, รีเทิร์น 1-4
  • เอาต์พุตหลัก 1/4 L/R, ส่งรีเทิร์น 1-4
  • XLR อินพุต Mic pre พร้อมพลัง Phantom
  • XLR เอาต์พุตหลัก L/R
  • ความสูง (นิ้ว/ซม.) 3.61/9.2
  • ความกว้าง (นิ้ว/ซม.) 22.05/56.0
  • ความลึก (นิ้ว/ซม.) 11.87/30.1
  • น้ำหนัก (ปอนด์/กก.) 14.6/6.6


ผ่านไปแล้วกับมัลติเอฟเฟคที่มาแนะนำกันไปในบทความนี้ หวังว่าจะเป็นบทความที่จะช่วยผู้ที่เริ่มเล่นกีต้าร์หรือกำลังมองหามัลติเอฟเฟคอยู่ ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหน สิ่งสำคัญก็คือเราควรจะต้องได้ไปทดลองเล่นกับของจริง ก่อนจะซื้อว่าเราชอบหรือไม่ อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากก่อนที่จะซื้ออุปกรณ์ดนตรีอะไรก็ตาม เอฟเฟคกีต้าร์ ถือว่าเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะทำให้การเล่นของเราสมบูรณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียงหรือการฝึกซ้อมที่จะมาช่วยผู้เล่นได้

หากใครกำลังสนใจ สามารถ สอบถามได้ที่ Music Arms ทุกสาขา หรือติดตามดูข่าวสารข้อมูลได้ทาง Facebook Musicarms และรีวิวสินค้าต่างๆได้ที่ช่องทาง Youtube Musicarms ครับ

×