กลองไฟฟ้า Electronic Drums
กลองไฟฟ้า Electronic Drums
เรามีกลองไฟฟ้าตั้งแต่หลักพัน ถึงหลักแสน เรายินดีแนะนำรุ่นที่มีฟังก์ชั่นและราคาที่เหมาะสมคุณ มีรีวิวและสาขาให้คุณสัมผัสของจริง รับประกันสินค้าและบริการหลังการขาย
- กลองไฟฟ้าเหมาะกับใคร
- การดูแลรักษากลองไฟฟ้า
- กลองไฟฟ้าในช่วงราคาที่แนะนำ
- ยี่ห้อกลองไฟฟ้าที่แนะนำ
- วิธีการเลือกซื้อกลองไฟฟ้า
- ทำไมถึงต้องเลือกซื้อกลองไฟฟ้า
กลองไฟฟ้า Electronic Drums มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น Roland / Yamaha / Midiplus / Nux / Carlsbro / Medeli / Korg / Sound King / XM และอื่นๆ โดยรุ่นที่น่าสนใจนั้นมีเยอะมาก แต่ถ้าจะให้แนะนำจริงๆ ก็คงจะเป็น Yamaha DTX432K กลองขนาด 5 ชิ้นที่มาพร้อมฉาบ 2 ใบ สามารถเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้ง่ายๆ ด้วย USB Roland TD-1DMK ที่มีความโดดเด่นเรื่องของ Head pads หูฟังที่เชื่อมต่อกับกลองได้โดยตรง ทำให้สามารถตีกลองๆ หรือฝึกซ้อมได้ทุกที่ทุกเวลา หรือแม้แต่กลอง Alesis ที่เน้นขายกลองแพดไฟฟ้าโดยเฉพาะก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
กลองไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ดนตรีประเภทตีกระทบที่พัฒนาต่อมาจากกลองชุดตามวิวัฒนาการ โดยกลองไฟฟ้าจะให้เสียงจากลำโพงและมีแป้นตีเป็นยาง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการถนอมหนังกลองแต่อย่างใด เสียงที่ได้จากกลองไฟฟ้าจะเป็นลักษณะซาวด์สังเคราะห์เพราะสามารถใส่เอฟเฟคต่างๆลงไปในเสียงกลองได้ อีกทั้งยังสามารถปรับเสียงได้หลากหลายรูปแบบตามที่ตัวกลองไฟฟ้าให้มา กลองไฟฟ้าจึงเป็นที่นิยมทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ เนื่องจากสามารถควบคุมเสียงไม่ได้ดังเกินไปได้จึงซ้มอในบ้านได้อย่างสะดวก และที่สะดวกสบายที่สุดคือยามอัดเพลงลงกับคอมหรือ MP3 จะทำได้ง่ายกว่ามากเนื่องจากกลองไฟฟ้าทุกรุ่นจะมีช่องต่อเชื่อมอุปกรณ์ประเภทนี้อยู่แล้ว ทำให้ปัจจุบันกลองไฟฟ้าเป็นที่นิยมไม่น้อยไปกว่ากลองชุดปกติกันเลย
ยี่ห้อกลองไฟฟ้าที่แนะนำ
- กลองไฟฟ้า Roland
บริษัทเรื่องดนตรีชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นที่ผลิตกลองไฟฟ้าตั้งแต่ 1985 ก่อนจะมาพัฒนากลองไฟฟ้า V-Drum ในปี 1997 และกลายเป็นหนึ่งในยี่ห้อชั้นนำที่มือกลองทั่วโลกไว้วางใจ จุดเด่นของทาง Roland คือเป็นแบรนด์ที่เน้นเรื่องเสียงที่มีความสมจริง ด้วยซาวด์โมดูลที่คิดค้นมาให้เสียงใกล้เคียงกลองชุดถูกใส่มาในซีรี่ย์ V-Drum และได้รับความนิยมสูง ทาง Roland จึงมีหลัก 3 อย่างในการผลิตกลองไฟฟ้าให้ได้คุณภาพสูงตลอดเวลานั่นคือ อินเตอร์เฟส / ส่วนประกอบทางกายภาพของชุดกลองและเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ขั้นสูง จึงครบเครื่องทั้งเรื่องเสียงและความทันสมัย มีรุ่นยอดนิยม เช่น Roland TD-17 KV ชุดกลองไฟฟ้าคุณภาพจัดเต็ม ควบคุมง่ายด้วยแผงคอนโทรล TD-17 โดยจะมีสแนร์มาให้ 1 ชิ้น และ กลองทอม 3 ชิ้น ตัวไฮแฮทและฉาบให้เสียงทองเหลืองสมจริง รวมถึงรุ่นอื่นๆอีกมากมายที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
- กลองไฟฟ้า Yamaha
แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่ผลิตเครื่องดนตรีครบวงจร โดยกลองไฟฟ้าก็เป็นอีกสินค้าขึ้นชื่อจากทาง Yamaha เพราะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบเครื่อง รวมถึงการพัฒนาจากผู้ผลิตอย่างไม่หยุดยั้ง และมีศูนย์บริการมากมาย ซีรี่ย์ยอดฮิตของทาง Yamaha คือ DTX ครอบคลุมทุกระดับตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงมืออาชีพ กลองไฟฟ้าของทาง Yamaha จะใช้วิธีการจำลองเสียงกลองจริง และแต่ละชุดสามารถบันทึกเสียงได้ด้วยตัวเอง รองรับแอพพลิเคชั่นต่างๆมากมาย มีรุ่นยอดนิยม เช่น Yamaha DTX920K ที่ให้สัมผัสความรู้สึกและความสามารถในการเล่นขั้นสูงสุดของกลองไฟฟ้า เพราะทาง Yamaha ใส่ใจในเรื่องเสียงควบคู่ไปกับเทคโนโลยีต่างๆ โดยมีมือกลองอาชีพร่วมพัฒนาออกแบบเพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุดจากประสบการณ์ผู้ใช้งานจริง
- กลองไฟฟ้า Nux
เปิดตัวในอุตสาหกรรมดนตรีเมื่อปี 2002 ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความที่ทาง Nux มีสินค้าเกี่ยวกับเอฟเฟคและแอมป์ ทำให้มีทีมงานที่พัฒนาในเรื่องของซาวด์อยู่ตลอดเวลา รวมถึงนำซาวด์หรือเอฟเฟคมาใส่ในตัวกลองไฟฟ้าด้วย กลองไฟฟ้าของ Nux มีจุดเด่นในเรื่องของเสียงและได้มาตรฐานในราคาที่ย่อมเยา หากต้องการกลองไฟฟ้าราคาถูกมีให้เลือกหลายรุ่น เช่น Nux DM-210 ชุดสุดคุ้มที่ได้ทั้งการซ้อม, เรียน และบันทึกเสียงในตัวเดียว จบปัญหาการมีพื้นที่ไม่พอจะวางกลองชุด หรือเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน แป้นกลองมีขนาดใหญ่ตีมันส์ หรือจะเป็น Nux DM-5S กลองไฟฟ้ามาพร้อมกับเสียงกลองที่สมจริงถึง 232 ประเภท ตัวแป้นทั้งหมดรวมถึงแฉ ไวต่อสัมผัส สามารถปรับแต่งได้ง่าย เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่คุ้มค่าน่าใช้
- กลองไฟฟ้า Hampback
อีกแบรนด์ราคาย่อมเยาขวัญใจมือกลอง เพราะกลองไฟฟ้า Hampback นอกจากจะราคาถูกแล้ว ยังได้เนื้อเสียงที่ใกล้เคียงกับกลองชุด รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายตอบโจทย์ดนตรี และยังมีให้เลือกทั้งแบบแป้นยางหรือแป้นหนังมุ้ง เช่น Hampback MK 7X กลองทุกชิ้นจะเป็นหนังมุ้ง ตีได้มันส์และทนทาน ให้สัมผัสที่ใกล้เคียงกลองจริง และปรับขนาดแป้นให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม หรือหากใครต้องการกลองไฟฟ้าที่มีราคาไม่สูงมากก็ยังมี Hampback TD-PKS เป็นอีกรุ่นทางเลือกกับราคาไม่ถึงหมื่น คุณภาพเยี่ยมออกแบบมาพร้อมใช้งานทั้งการซ้อมและอัดเพลงในสตูดิโอ เป็นยี่ห้อที่ดีจนต้องแนะนำสำหรับคนมองหากลองไฟฟ้าใช้งานแบบสุดคุ้ม - กลองไฟฟ้า Midiplus
เป็นแบรนด์ที่เริ่มจากการทำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ MIDI ตามชื่อบริษัทซึ่งเปิดตัวมาเมื่อปี 1994 จนขยายขอบเขตธุรกิจมาสู่สินค้าอื่นรวมถึงกลองไฟฟ้า ความตั้งใจและจุดเด่นของแบรนด์ Midiplus คือเป็นเลิศในด้านเทคโนโลยี ตัวกลองไฟฟ้าของ Midiplus จึงเปี่ยมด้วยลูกเล่นต่างๆมากมาย รวมถึงการเชื่อมต่อที่เป็นจุดเด่น อย่าง Midiplus ED9 Pro เชื่อมต่อได้ทั้ง Mp3 หูฟัง และคอมพิวเตอร์ จะซ้อมหรือทำเพลง เพียงมีกลองชุดนี้ชุดเดียวทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่าย และเป็นแบรนด์ที่ราคาไม่สูงมาก สามารถใช้งานได้ทั้งผู้เริ่มต้นที่มองหากลองไฟฟ้าดีๆไปจนถึงมืออาชีพ
กลองไฟฟ้าในช่วงราคาที่แนะนำ
กลองไฟฟ้าราคาไม่เกิน 10,000 บาท
- Hampback TD-PKS
กลองไฟฟ้าคุณภาพเยี่ยมที่ออกแบบมาพร้อมใช้งานทั้งการซ้อมและอัดเพลงในสตูดิโอ สามารถต่อ Output แบบโมโน Aux in และหูฟังได้ รวมถึงรองรับ USB และ MIDI เรียกว่าช่องต่อครบครันทำเพลงกันได้สบายๆ ซาวด์กลองเยี่ยมใกล้เคียงกลองชุดจริง - Carlsbro CSD-120
กลองไฟฟ้าที่ได้แรงบันดาลใจจากยุค 60 ความโดดเด่นใน “British Tone” ซาวด์ดนตรีแนวบริติช ที่ถูกใส่มาในรุ่นนี้ ใส่เทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไปเสริมเพื่อให้ได้กลองไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบในราคาย่อมเยา - Nux DM1
กลองไฟฟ้ารุ่นเล็กแต่ฟังก์ชั่นรวมถึงแป้นกลองที่ให้มานั้นครบครัน เพราะจะมีจำนวนแพดแทบไม่แตกต่างจากชุดใหญ่เลยเพียงแต่ขนาดจะเล็กลงและเป็นแป้นยางมีน้ำหนักเบาและกะทัดรัดที่สุด พร้อมฟังก์ชั่น OneKnob ช่วยให้ผู้เล่นแต่งสีเสียงได้แบบเรียลไทม์
กลองไฟฟ้าราคาไม่เกิน 20,000 บาท
- Hampback MK-5L
กลองไฟฟ้าหนังมุ้ง ฟังก์ชั่นจัดเต็ม ไวต่อการตอบสนอง ให้ความรู้สึกสมจริงต่อการเล่น สามารถปรับความตึงได้ มีทัชชิ่งทุกใบ ปรับเพิ่มลดเสียงแต่ละใบได้ง่าย ไม่ต้องเข้าเมนู มาพร้อมขาไฮแฮทที่เป็นขาไฮแฮทจริง - Carlsbro CSD-210
กลองไฟฟ้าที่มีความคุ้มค่า สเปคและฟังก์ชั่นครบครัน พร้อมสำหรับการใช้งานตัวแป้นกลองทั้งหมดจะเป็นแบบรับสัญญาณเสียงได้ 2 ตำแหน่ง รองรับระบบสองกระเดื่องหากต้องการเพิ่มสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในสตูดิโออย่างเต็มตัว - Roland TD-1K
กลองไฟฟ้าคุณภาพควบคุมง่ายด้วยแผงคอนโทรล TD-1 เล่นได้ทุกแนวเพลงไม่ว่าจะเป็นร็อค, แจ๊ส, บลูส์ ชุดเสียงกลองในตัวถึง 15 แบบ และฟังก์ชั่นอีก 10 แบบ เชื่อมต่อ USB สามารถเสียบหูฟังซ้อมส่วนตัวได้ ซาวด์ใกล้เคียงกลองจริงอย่างมาก - Nux DM-5S
กลองไฟฟ้าที่ตัวสแนร์จะเป็นหนังมุ้ง ให้สัมผัสในการตีที่ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น แป้นกลองมีขนาดใหญ่มาก มาพร้อมกับเสียงกลองที่สมจริงถึง 232 ประเภท ตัวแป้นทั้งหมดรวมถึงแฉ ไวต่อสัมผัส สามารถปรับแต่งได้ง่ายดาย
กลองไฟฟ้าราคาไม่เกิน 30,000 บาท
- Hampback MK-5X
กลองไฟฟ้าหนังมุ้ง ฟังก์ชั่นจัดเต็ม ไวต่อการตอบสนอง ให้ความรู้สึกสมจริงต่อการเล่น แป้นกลองทอมขนาดใหญ่ถึง 10 นิ้ว แฉและไฮแฮทขนาด 14 นิ้ว แฉ Ride ตีได้ 3โซน สามารถปรับความตึงได้ มีทัชชิ่งทุกใบ - Midiplus ED9 Pro
กลองไฟฟ้าเซ็ทใหญ่สำหรับผู้ที่ชอบเพิ่มลูกเล่นในตัวกลองมากขึ้น ซาวด์ใกล้เคียงกับเสียงกลองจริง ตัวกลองใช้หนังมุ้งทุกชิ้นตั้งค่าสัมผัสหน้ากลองได้ ตัวกระเดื่องสามารถปรับค่า Sensitive เล่นสองกระเดื่องได้สบาย - Roland TD-07KV
กลองไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด สะดวกในราคาประหยัด สร้างสรรค์ดนตรีที่เหนือกว่ากลองชุดใด มี onboard Bluetooth เพื่อเล่นพร้อมกับแทร็กเพลงและบทเรียน มี USB เพื่อเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และอีกมากมาย - Hampback MK 7X
กลองไฟฟ้าซึ่งทุกชิ้นจะเป็นหนังมุ้ง ตีได้มันส์และทนทาน ให้สัมผัสที่ใกล้เคียงกลองจริง และปรับขนาดแป้นให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ให้แฉมาถึง 3 ใบ เสียงในตัวมากถึง 880 เสียงและตั้งค่าได้ 50 Preset หน้าจอสัมผัสใช้งานง่าย
กลองไฟฟ้าเหมาะกับใคร
- นักเรียนดนตรีผู้ที่ต้องการสร้างทักษะในการจับจังหวะ หรือคนที่เรียนพื้นฐานกลอง
- ผู้ที่ต้องการกลองไว้ซ้อมส่วนตัวแต่มีปัญหาเรื่องพื้นที่หรือเสียงที่อาจจะรบกวนผู้อื่นๆ เพราะกลองไฟฟ้าสามารถปรับระดับเสียงหรือใส่หูฟังได้ รวมถึงใช้พื้นที่น้อยกว่ากลองชุด
- นักดนตรีอาชีพที่ต้องการฟังก์ชั่นเพิ่มเติมจากกลองชุด เช่น การบันทึกเสียง หรือการเชื่อมต่อกับแบ็คกิ้งแทร็คเพื่อการฝึกซ้อมที่ดียิ่งขึ้น
การดูแลรักษากลองไฟฟ้า
- ระมัดระวังเรื่องกระแสไฟ เพราะจะมีผลกระทบกับการทำงานได้ ควรใช้เต้ารับที่ได้คุณภาพ ไม่ควรให้กลองไฟฟ้าโดนน้ำ
- ทำความสะอาดกลองไฟฟ้าอยู่เสมอ โดยผ้าที่ใช้เช็ดกลองไฟฟ้าควรเป็นผ้าที่บิดหมาดๆ
- หลังจากการเล่นทุกครั้งควรปิดซาวด์โมดุลเสมอ
- พยายามตรวจเช็คอะไหล่กลองเป็นประจำ
วิธีการเลือกซื้อกลองไฟฟ้า
- ดูจำนวนชิ้นส่วนกลองไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการเล่นหรือตอบโจทย์แนวดนตรีที่ต้องการ
- ชนิดแพดที่ใช้ตี ซึ่งปกติกลองไฟฟ้าจะมี 2 แบบคือแป้นยางและแป้นหนังมุ้ง โดยหนังมุ้งจะดีกว่าตรงที่ปรับทัชชิ่งได้
- ตรวจสอบจำนวนโซนในการตีของแพดต่างๆว่าตีได้กี่โซน ซึ่งจะมีผลต่อการตีและการให้เสียงต่างๆ เช่นการทำ Rim Shot หรือเสียงแฉ/ฉาบที่จะหลากหลายมากขึ้น
- ศึกษาซาวด์โมดูลก่อนเลือกซื้อ โดยโมดูลกลองแต่ละรุ่นจะมีรายละเอียดที่ต่างกัน เช่นการให้จำนวนเสียงที่มากน้อยต่างกัน และมีผลต่อรายละเอียดของเสียง หรือสามารถทดลองตีก่อนเลือกซื้อเพื่อให้ได้เสียงที่ต้องการ
- คำนวนพื้นที่ในการวางกลองไฟฟ้า เพราะกลองไฟฟ้าเป็นเครื่องดนตรีที่ต้องการพื้นที่ในการใช้งานพอสมควร ควรเลือกซื้อกลองชุดที่เหมาะกับพื้นที่ของห้อง
- หากต้องการที่จะเพิ่มชิ้นส่วนของกลองในอนาคต ควรเลือกกลองไฟฟ้าที่สามารถต่อเพิ่มได้เช่น แฉ/ฉาบ หรือบางรุ่นจะมีช่องต่อกลองทอมเพิ่มได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อรุ่นใหม่
- บริการหลังการขายและการประกัน เป็นสิ่งสำคัญจึงควรเลือกร้านที่มั่นใจได้และพนักงานที่ให้คำแนะนำได้อย่างมีคุณภาพ
ทำไมถึงต้องเลือกซื้อกลองไฟฟ้า
- เก็บเสียงได้ดีกว่า การที่จะเอากลองจริงมาซ้อมตีในบ้านจะมีปัญหาในเรื่องเสียง ซึ่งกลองไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นแป้นยางหรือแป้นหยังมุ้งจะมีการเก็บเสียง และหากต้องการซ้อมก็สามารถเชื่อมต่อหูฟังได้
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ราคากลองไฟฟ้าบางรุ่นอาจจะใกล้เคียงกับกลองชุด แต่เรื่องความทนทานนั้นกลองไฟฟ้าจะมีมากกว่าและดูแลรักษาได้ง่ายกว่าไม่ยุ่งยาก ชุดเดียวสามารถใช้ได้ยาวๆโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- ฟังก์ชั่นครบ กลองไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งเครื่องดนตรีที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบ็คกิ้งแทร็ค เอฟเฟคเสียงในตัว หรือการบันทึกเสียง ซึ่งหากใครต้องการเครื่องดนตรีที่ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์จะตอบโจทย์มาก
- เสียงที่หลากหลายกว่า โดยกลองไฟฟ้าส่วนใหญ่นั้นจะมีซาวด์โมดูลที่ให้เสียงในตัวมามากมาย สามารถเลือกปรับเสียงและความต้องการได้หลากหลายมากกว่ากลองจริง นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟคต่างๆ เข้าไปได้อีกด้วย
- การบำรุงรักษาง่าย ไม่ยุ่งยาก กลองไฟฟ้านั้น ส่วนใหญ่ผิวหน้ากลองจะทำมาจากพลาสติกที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายๆ หรือแป้นต่างๆก็จะเป็นยางและหนังมุ้งที่ดูแลรักษาง่ายกว่ากลองจริง รวมถึงกลองไฟฟ้าจะทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็นมากกว่ากลองชุดที่ทำมาจากไม้อีกด้วย