กีตาร์ไฟฟ้า Electric Guitar
สินค้าใหม่ล่าสุด
Cort M600 กีตาร์ไฟฟ้า
Fender Tom Morello’s “Arm The Homeless” Guitar กีตาร์ไฟฟ้า
Eart CP-1HLA Pro
Jackson JS Series Warrior JS32 กีตาร์ไฟฟ้า
Strandberg Boden Metal NX6 Tremolo กีตาร์ไฟฟ้า
Music Arms มีกีต้าร์ไฟฟ้า Electric guitar ให้คุณเลือกมากมายหลายแบรนด์ตั้งแต่ฝึกเล่นไปจนถึงมืออาชีพ
เรายินดีช่วยแนะนำให้คุณเจอกีต้าร์ไฟฟ้าที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของคุณมากที่สุด เรามีหน้าร้านให้คุณทดลองเสียงจริงถึง 13 สาขา รวมโปรโมชั่นที่ดีที่สุดของทุกแบรนด์ มีผ่อนชำระ 0% มีการรับประกันระบบไฟฟ้า และบริการจัดส่งที่รวดเร็วที่สุดภายในวันที่สั่ง (สำหรับกรุงเทพและปริมณฑล) และ 1-3 วันสำหรับทั่วประเทศ
กีตาร์ไฟฟ้าคืออะไร?
กีตาร์ไฟฟ้า คือ เครื่องดนตรีประเภทดีดที่ต้องอาศัยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการ “ขยายเสียง” แตกต่างจากกีตาร์โปร่งที่มีลำตัวกลวงเพื่อขยายเสียงตามธรรมชาติ หัวใจสำคัญของกีตาร์ไฟฟ้าคืออุปกรณ์ที่เรียกว่า “ปิ๊กอัพ (Pickup)” ซึ่งทำหน้าที่แปลงการสั่นสะเทือนของสายกีตาร์ให้กลายเป็นสัญญาณไฟฟ้า จากนั้นส่งผ่านสายแจ็ค (Jack Cable) ไปยัง ตู้แอมป์ (Amplifier) เพื่อขับออกมาเป็นเสียงที่เราได้ยิน
ทรงกีตาร์ไฟฟ้ายอดนิยม
- ทรง Stratocaster (Strat)
ทรงมาตรฐานพิมพ์นิยมที่เห็นได้บ่อยที่สุด ออกแบบให้เว้าทั้งสองด้าน (Double Cutaway)
– คาแรคเตอร์: เสียงเด้ง ใส คมชัด สว่าง
– เหมาะกับแนว: Pop, Funk, Blues, Rock - ทรง Telecaster (Tele)
ทรงต้นกำเนิดกีตาร์ไฟฟ้า หน้าตาเรียบง่าย
– คาแรคเตอร์: เสียงแหลม พุ่ง กัดหู (Twang) มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง
– เหมาะกับแนว: Country, Indie, Alternative, Funk - ทรง Les Paul (LP)
ทรงคลาสสิกที่มีความหนาและหนัก ให้ความรู้สึกขลังและทรงพลัง เว้าด้านเดียว (Single Cutaway)
– คาแรคเตอร์: เสียงหนา นุ่ม ลึก และหางเสียงยาว (Sustain)
– เหมาะกับแนว: Classic Rock, Blues, Jazz, Metal - ทรง SG (Solid Guitar)
กีตาร์ทรงเขาปีศาจ บอดี้บางและเบากว่า Les Paul แต่ให้เสียงดุดันไม่แพ้กัน
– คาแรคเตอร์: เสียงพุ่ง ย่านกลางโดดเด่น
– เหมาะกับแนว: Hard Rock, Heavy Metal
ปิ๊กอัพกีตาร์ไฟฟ้า
หากถามว่าเสียงกีตาร์จะดีหรือไม่ ปิ๊กอัพกีตาร์ไฟฟ้า คือปัจจัยที่สำคัญที่สุด โดยหลักๆ จะมี 2 ประเภท ที่ได้รับความนิยม และเป็นมาตราฐานที่พบเห็นได้บ่อย ๆ
- Single Coil (ซิงเกิลคอยล์)
ปิ๊กอัพแถวเดียว มักพบบนทรง Stratocaster และ Telecaster
– จุดเด่น: ให้เสียงที่ใส สว่าง ได้ยินรายละเอียดการดีดชัดเจน
– ข้อสังเกตุ: อาจมีเสียงจี่รบกวน (Hum) เมื่อเปิดเสียงดังหรือใช้เสียงแตกเยอะๆ - Humbucker (ฮัมบัคเกอร์)
ปิ๊กอัพแถวคู่ ถูกสร้างมาเพื่อแก้ปัญหาเสียงจี่ของ Single Coil มักพบบนทรง Les Paul และ SG
– จุดเด่น: เสียงหนา แรงขับสูง เงียบ (ไม่มีเสียงจี่) เหมาะกับการเล่นเสียงแตกหนักๆ
– ข้อสังเกตุ: เสียงคลีนอาจจะไม่ใสระยิบระยับเท่า Single Coil
วิธีเลือกกีตาร์ไฟฟ้า ตัวแรก
การเลือกกีตาร์ตัวแรกเป็นเรื่องสำคัญ นี่คือ Checklist วิธีเลือกกีตาร์ไฟฟ้า ตัวแรก ให้เหมาะกับคุณ ฉบับเข้าใจง่าย
- ตั้งงบประมาณ: เผื่อเงินไว้สำหรับ “ตู้แอมป์” ด้วย เพราะกีตาร์ไฟฟ้าเล่นเปล่าๆ เสียงจะเบามาก
- ดูแนวเพลงที่ชอบ: แทนที่จะดูแค่รูปทรง ให้สังเกต “ตัวรับเสียง” หรือปิ๊กอัพบนตัวกีตาร์เป็นหลัก เพราะนี่คือตัวกำหนดเสียงที่แท้จริง
– ชอบเพลงร็อคหนักๆ / เมทัล / เสียงแตกดุดัน: ให้เลือกกีตาร์ที่มีปิ๊กอัพแบบ Humbucker (ฮัมบัคเกอร์) อย่างน้อย 1 ตัวที่ตำแหน่งใกล้สะพานสาย (Bridge) เพราะให้เสียงหนาและลดเสียงจี่ได้ดี สเปคยอดนิยมคือ H-H (ฮัมบัคเกอร์คู่)
– ชอบเพลงป๊อป / ฟังก์ / โซล / เสียงคลีนใสๆ: ให้เลือกกีตาร์ที่เน้นปิ๊กอัพแบบ Single Coil (ซิงเกิลคอยล์) เพราะให้เสียงที่สว่าง คมชัด และเป็นประกาย สเปคยอดนิยมคือ S-S-S (ซิงเกิลคอยล์ 3 ตัว)
– ชอบเล่นหลายแนว / ยังไม่แน่ใจ (All-Rounder): แนะนำให้เลือกแบบผสม คือ H-S-S (ฮัมบัคเกอร์ 1 ตัว + ซิงเกิลคอยล์ 2 ตัว) ซึ่งเป็นทรงยอดฮิตสำหรับกีตาร์ตัวแรก เพราะเล่นได้กว้างตั้งแต่เพลงหวานๆ ยันร็อคหนักๆ - ลองจับคอกีตาร์: คอกีตาร์มีทั้งแบบบางและแบบอวบ ต้องลองกำดูว่าเข้ามือหรือไม่
- เลือกรูปลักษณ์ที่ชอบ: ข้อนี้สำคัญมาก! กีตาร์ที่สวยถูกใจจะทำให้คุณอยากหยิบมันมาซ้อมทุกวัน
- อย่าลืมเช็คงานประกอบ: ลองรูดนิ้วตามขอบเฟรต (โลหะบนคอกีตาร์) ต้องไม่คมบาดมือ และลูกบิดต้องหมุนได้ลื่นไหล
กีตาร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี
คำถามโลกแตกสำหรับมือใหม่คือ “กีตาร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี?” เพราะในท้องตลาดมีแบรนด์ให้เลือกเป็นร้อย แต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นต่างกัน วันนี้เราคัดมาให้แล้วกับ 5 แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
- Fender และ Squier : ต้นตำรับเสียงคลีนที่ครองโลก
นี่คือยี่ห้อที่เป็นบรรทัดฐานของกีตาร์ไฟฟ้าทั่วโลก ทรง Stratocaster และ Telecaster ที่เราเห็นกันจนชินตาก็มาจากค่ายนี้ครับFender (เฟนเดอร์): แบรนด์แม่จากอเมริกา
– จุดเด่น: เสียงคลีนใส กังวาน เป็นเอกลักษณ์ (Fender Clean Tone) ที่แบรนด์อื่นเลียนแบบได้ยาก งานประกอบประณีต มีมูลค่าในการสะสมสูง
– เหมาะกับ: มืออาชีพ หรือคนที่ต้องการ “ที่สุด” ของทรง Strat/Tele แนวเพลง Pop, Funk, Blues, RockSquier (สไควเออร์): แบรนด์ลูกที่ได้รับลิขสิทธิ์แท้จาก Fender
– จุดเด่น: ได้รูปลักษณ์และสเปคแบบ Fender ในราคาที่ประหยัดกว่ามาก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ฝันอยากมี Fender แต่มีงบประมาณจำกัด
– รุ่นแนะนำ: Classic Vibe Series (คุณภาพใกล้เคียง Fender รุ่นเริ่มต้นมาก) - Gibson และ Epiphone : ตำนานความร็อคและเสียงหนานุ่ม
ถ้าฝั่ง Fender คือความใส ฝั่ง Gibson ก็คือความหนาและทรงพลัง ด้วยทรงอมตะอย่าง Les Paul และ SGGibson (กิ๊บสัน): แบรนด์ระดับตำนานจาก USA
– จุดเด่น: ใช้ไม้ Mahogany เป็นหลัก ทำให้ได้เสียงที่หนา นุ่ม ลึก และหางเสียงยาว (Sustain) ให้ความรู้สึกพรีเมียม หรูหรา และดุดัน
– เหมาะกับ: สาย Classic Rock, Hard Rock, Jazz และ Blues ที่ต้องการซาวด์หนาๆ มีพลังEpiphone (เอพิโฟน): แบรนด์น้องที่สืบทอด DNA ของ Gibson
– จุดเด่น: เป็นแบรนด์เดียวที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตทรง Les Paul ได้เหมือน Gibson เป๊ะๆ (ยี่ห้ออื่นต้องทำทรงเลี่ยงลิขสิทธิ์) ปัจจุบันพัฒนาคุณภาพขึ้นมาสูงมากในซีรีส์ “Inspired by Gibson”
– เหมาะกับ: คนที่หลงใหลในรูปทรง Les Paul แต่ไม่อยากจ่ายแพงระดับ Gibson - Sire : ม้ามืดที่มาเปลี่ยนวงการ
Sire Guitar คือแบรนด์น้องใหม่มาแรงที่สุดในยุคนี้ โดยร่วมมือกับตำนานอย่าง Larry Carlton และ Marcus Miller ในปี 2025 ขึ้นเป็นแบรนด์ยอดนิยม Top 3 ในประเทศอเมริกา
– จุดเด่น: “สเปคเทพในราคาหารครึ่ง” คือนิยามของ Sire สิ่งที่ทำให้ดังระเบิดคือการให้คอไม้เผา (Roasted Maple Neck) และงานเฟรตขอบมน (Rolled Fretboard) มาในกีตาร์ราคาระดับกลาง ซึ่งปกติสเปคนี้จะอยู่ในกีตาร์ราคาแพงระยับเท่านั้น
– เหมาะกับ: คนที่เน้นความคุ้มค่า (Value for Money) ฉลาดเลือก และต้องการกีตาร์ที่เล่นง่าย สบายมือ สเปคจัดเต็มที่สุดในงบประมาณที่มี - PRS (Paul Reed Smith) : ความสมบูรณ์แบบที่อยู่ตรงกลาง
PRS Guitars ถูกยกย่องว่าเป็นกีตาร์ที่ “สวยและงานดีที่สุด” แบรนด์หนึ่งของโลก โดยวางตำแหน่งตัวเองไว้ตรงกลางระหว่าง Fender และ Gibson
– จุดเด่น:
ดีไซน์: โดดเด่นด้วยลายไม้ (Top) ที่สวยงามอลังการ และอินเลย์รูปนก (Bird Inlays) ที่เป็นเอกลักษณ์
เสียง: เป็นลูกผสม (Hybrid) ได้ความใสแบบ Fender ผสมความหนาแบบ Gibson เล่นได้กว้างมาก (Versatile)
รุ่น SE (Student Edition): เป็นไลน์ผลิตราคาจับต้องได้ที่ขายดีถล่มทลาย เพราะงาน QC เนี้ยบมากเมื่อเทียบกับราคา
– เหมาะกับ: คนที่เลือกไม่ได้ระหว่าง Fender หรือ Gibson, นักดนตรีกลางคืนที่ต้องเล่นเพลงหลายแนว หรือคนที่ชอบกีตาร์สวยหรู - Ibanez (ไอบาเนซ) : ราชันย์แห่งความเร็วและโมเดิร์น
แบรนด์จากญี่ปุ่นที่ครองใจขาร็อคและสายปั่น (Shredder) ทั่วโลกมาอย่างยาวนาน
– จุดเด่น:
คอกีตาร์: ขึ้นชื่อเรื่อง “คอบางและแบน” (Wizard Neck) ทำให้เล่นเร็วๆ ได้ง่ายมาก นิ้ววิ่งสะดวก
สเปค: มักมาพร้อมปิ๊กอัพ Humbucker แรงขับสูง และคันโยกชั้นดี (Floyd Rose/Edge Zero) ที่โยกได้สะใจโดยสายไม่เพี้ยน
เหมาะกับ: แนว Rock, Metal, Fusion Jazz หรือคนที่ชอบโซโล่ไฟแลบ
สุดท้ายแล้ว “กีตาร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี” ขึ้นอยู่กับรสนิยมของคุณ ลองฟังเสียงเทียบกันใน YouTube หรือไปลองจับของจริงที่หน้าร้าน Music Arms ทั้ง 13 สาขา เพื่อดูว่ายี่ห้อไหนเข้ามือคุณที่สุดครับ




