กลองไฟฟ้า Electronic Drums
กลองไฟฟ้า Electronic Drums
เรามีกลองไฟฟ้าตั้งแต่หลักพัน ถึงหลักแสน เรายินดีแนะนำรุ่นที่มีฟังก์ชั่นและราคาที่เหมาะสมคุณ มีรีวิวและสาขาให้คุณสัมผัสของจริง รับประกันสินค้าและบริการหลังการขาย
- กลองไฟฟ้าเหมาะกับใคร
- การดูแลรักษากลองไฟฟ้า
- กลองไฟฟ้าในช่วงราคาที่แนะนำ
- ยี่ห้อกลองไฟฟ้าที่แนะนำ
- วิธีการเลือกซื้อกลองไฟฟ้า
- ทำไมถึงต้องเลือกซื้อกลองไฟฟ้า
กลองไฟฟ้า Electronic Drums มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น Roland / Yamaha / Midiplus / Nux / Carlsbro / Medeli / Korg / Sound King / Hampback และอื่นๆ โดยรุ่นที่น่าสนใจนั้นมีเยอะมาก แต่ถ้าจะให้แนะนำจริงๆ ก็คงจะเป็น Hampback MK-7X Plus กลองไฟฟ้าชุดใหญ่และได้หนังมุ้งทุกชิ้น โดนเป็นหนังมุ้งแบบ “Superlink” ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม หรือ Hampback MK 1S กลองไฟฟ้าฟังก์ชั่นครบครันในราคาสุดประหยัด รุ่นนี้จะมีกลองทอมมาให้ถึง 3 ชิ้น ขนาด 8 นิ้ว และแฉ Ride, Crash อย่างละ 1 ชิ้น แบบขนาด 10 นิ้ว สแนร์, ไฮแฮท และที่เหยียบกระเดื่องมาครบ หรือแม้แต่กลอง Alesis ที่เน้นขายกลองแพดไฟฟ้าโดยเฉพาะก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
กลองไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ดนตรีประเภทตีกระทบที่พัฒนาต่อมาจากกลองชุดตามวิวัฒนาการ โดยกลองไฟฟ้าจะให้เสียงจากลำโพงและมีแป้นตีเป็นยาง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการถนอมหนังกลองแต่อย่างใด เสียงที่ได้จากกลองไฟฟ้าจะเป็นลักษณะซาวด์สังเคราะห์เพราะสามารถใส่เอฟเฟคต่างๆลงไปในเสียงกลองได้ อีกทั้งยังสามารถปรับเสียงได้หลากหลายรูปแบบตามที่ตัวกลองไฟฟ้าให้มา กลองไฟฟ้าจึงเป็นที่นิยมทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ เนื่องจากสามารถควบคุมเสียงไม่ได้ดังเกินไปได้จึงซ้มอในบ้านได้อย่างสะดวก และที่สะดวกสบายที่สุดคือยามอัดเพลงลงกับคอมหรือ MP3 จะทำได้ง่ายกว่ามากเนื่องจากกลองไฟฟ้าทุกรุ่นจะมีช่องต่อเชื่อมอุปกรณ์ประเภทนี้อยู่แล้ว ทำให้ปัจจุบันกลองไฟฟ้าเป็นที่นิยมไม่น้อยไปกว่ากลองชุดปกติกันเลย
ยี่ห้อกลองไฟฟ้าที่แนะนำ
- กลองไฟฟ้า Roland
บริษัทเรื่องดนตรีชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นที่ผลิตกลองไฟฟ้าตั้งแต่ 1985 ก่อนจะมาพัฒนากลองไฟฟ้า V-Drum ในปี 1997 และกลายเป็นหนึ่งในยี่ห้อชั้นนำที่มือกลองทั่วโลกไว้วางใจ จุดเด่นของทาง Roland คือเป็นแบรนด์ที่เน้นเรื่องเสียงที่มีความสมจริง ด้วยซาวด์โมดูลที่คิดค้นมาให้เสียงใกล้เคียงกลองชุดถูกใส่มาในซีรี่ย์ V-Drum และได้รับความนิยมสูง ทาง Roland จึงมีหลัก 3 อย่างในการผลิตกลองไฟฟ้าให้ได้คุณภาพสูงตลอดเวลานั่นคือ อินเตอร์เฟส / ส่วนประกอบทางกายภาพของชุดกลองและเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ขั้นสูง จึงครบเครื่องทั้งเรื่องเสียงและความทันสมัย มีรุ่นยอดนิยม เช่น Roland TD-17 KV ชุดกลองไฟฟ้าคุณภาพจัดเต็ม ควบคุมง่ายด้วยแผงคอนโทรล TD-17 โดยจะมีสแนร์มาให้ 1 ชิ้น และ กลองทอม 3 ชิ้น ตัวไฮแฮทและฉาบให้เสียงทองเหลืองสมจริง รวมถึงรุ่นอื่นๆอีกมากมายที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
- กลองไฟฟ้า Yamaha
แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่ผลิตเครื่องดนตรีครบวงจร โดยกลองไฟฟ้าก็เป็นอีกสินค้าขึ้นชื่อจากทาง Yamaha เพราะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบเครื่อง รวมถึงการพัฒนาจากผู้ผลิตอย่างไม่หยุดยั้ง และมีศูนย์บริการมากมาย ซีรี่ย์ยอดฮิตของทาง Yamaha คือ DTX ครอบคลุมทุกระดับตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงมืออาชีพ กลองไฟฟ้าของทาง Yamaha จะใช้วิธีการจำลองเสียงกลองจริง และแต่ละชุดสามารถบันทึกเสียงได้ด้วยตัวเอง รองรับแอพพลิเคชั่นต่างๆมากมาย มีรุ่นยอดนิยม เช่น Yamaha DTX920K ที่ให้สัมผัสความรู้สึกและความสามารถในการเล่นขั้นสูงสุดของกลองไฟฟ้า เพราะทาง Yamaha ใส่ใจในเรื่องเสียงควบคู่ไปกับเทคโนโลยีต่างๆ โดยมีมือกลองอาชีพร่วมพัฒนาออกแบบเพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุดจากประสบการณ์ผู้ใช้งานจริง
- กลองไฟฟ้า Nux
เปิดตัวในอุตสาหกรรมดนตรีเมื่อปี 2002 ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความที่ทาง Nux มีสินค้าเกี่ยวกับเอฟเฟคและแอมป์ ทำให้มีทีมงานที่พัฒนาในเรื่องของซาวด์อยู่ตลอดเวลา รวมถึงนำซาวด์หรือเอฟเฟคมาใส่ในตัวกลองไฟฟ้าด้วย กลองไฟฟ้าของ Nux มีจุดเด่นในเรื่องของเสียงและได้มาตรฐานในราคาที่ย่อมเยา หากต้องการกลองไฟฟ้าราคาถูกมีให้เลือกหลายรุ่น เช่น Nux DM-210 ชุดสุดคุ้มที่ได้ทั้งการซ้อม, เรียน และบันทึกเสียงในตัวเดียว จบปัญหาการมีพื้นที่ไม่พอจะวางกลองชุด หรือเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน แป้นกลองมีขนาดใหญ่ตีมันส์ หรือจะเป็น Nux DM-5S กลองไฟฟ้ามาพร้อมกับเสียงกลองที่สมจริงถึง 232 ประเภท ตัวแป้นทั้งหมดรวมถึงแฉ ไวต่อสัมผัส สามารถปรับแต่งได้ง่าย เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่คุ้มค่าน่าใช้
- กลองไฟฟ้า Hampback
อีกแบรนด์ราคาย่อมเยาขวัญใจมือกลอง เพราะกลองไฟฟ้า Hampback นอกจากจะราคาถูกแล้ว ยังได้เนื้อเสียงที่ใกล้เคียงกับกลองชุด รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายตอบโจทย์ดนตรี และยังมีให้เลือกทั้งแบบแป้นยางหรือแป้นหนังมุ้ง เช่น Hampback MK 7X กลองทุกชิ้นจะเป็นหนังมุ้ง ตีได้มันส์และทนทาน ให้สัมผัสที่ใกล้เคียงกลองจริง และปรับขนาดแป้นให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม หรือหากใครต้องการกลองไฟฟ้าที่มีราคาไม่สูงมากก็ยังมี Hampback TD-PKS เป็นอีกรุ่นทางเลือกกับราคาไม่ถึงหมื่น คุณภาพเยี่ยมออกแบบมาพร้อมใช้งานทั้งการซ้อมและอัดเพลงในสตูดิโอ เป็นยี่ห้อที่ดีจนต้องแนะนำสำหรับคนมองหากลองไฟฟ้าใช้งานแบบสุดคุ้ม - กลองไฟฟ้า Midiplus
เป็นแบรนด์ที่เริ่มจากการทำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ MIDI ตามชื่อบริษัทซึ่งเปิดตัวมาเมื่อปี 1994 จนขยายขอบเขตธุรกิจมาสู่สินค้าอื่นรวมถึงกลองไฟฟ้า ความตั้งใจและจุดเด่นของแบรนด์ Midiplus คือเป็นเลิศในด้านเทคโนโลยี ตัวกลองไฟฟ้าของ Midiplus จึงเปี่ยมด้วยลูกเล่นต่างๆมากมาย รวมถึงการเชื่อมต่อที่เป็นจุดเด่น อย่าง Midiplus ED9 Pro เชื่อมต่อได้ทั้ง Mp3 หูฟัง และคอมพิวเตอร์ จะซ้อมหรือทำเพลง เพียงมีกลองชุดนี้ชุดเดียวทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่าย และเป็นแบรนด์ที่ราคาไม่สูงมาก สามารถใช้งานได้ทั้งผู้เริ่มต้นที่มองหากลองไฟฟ้าดีๆไปจนถึงมืออาชีพ
กลองไฟฟ้าในช่วงราคาที่แนะนำ
กลองไฟฟ้าเรตราคา 10,000 บาท
- Hampback MK-1S Pro กลองไฟฟ้าโฉมใหม่ไฉลกว่าเก่าจากแบรนด์ที่ราคาถูกและคุ้มค่า มาพร้อมเสียงที่มาในตัวมากถึง 329 เสียง พร้อมกับกระเดื่องจริง ให้ความรู้สึกเหมือนกลองจริงมากที่สุด มาพร้อมกับ หนังกลองเป็นหนังมุ้ง(ยกเว้นกระเดื่อง)
- Hampback TD-PKL กลองไฟฟ้าคุณภาพเยี่ยมที่ออกแบบมาพร้อมใช้งานทั้งการซ้อมและอัดเพลงในสตูดิโอ สามารถต่อ Output แบบโมโน Aux in และหูฟังได้ รวมถึงรองรับ USB และ MIDI เรียกว่าช่องต่อครบครันทำเพลงกันได้สบายๆ ซาวด์กลองเยี่ยมใกล้เคียงกลองชุดจริง
- Avatar SD61-5 กลองไฟฟ้าราคาเริ่มต้นกับความพิเศษที่จะได้หนังมุ้ง 2 ชั้นทุกชิ้น รุ่นนี้จะมีสแนร์, กลองทอม 3 ใบ, กระเดื่อง, ไฮแฮท และฉาบ 2 ใบ ซึ่งตอบโ0ทย์ดนตรีได้ทุกแนวและเพียงพอสำหรับมือกลองทุกรูปแบบ ให้มิติเสียงแบบ Progressive sound ที่เนื้อเสียงของกลองที่ออกมาจะเปลี่ยนไปตามน้ำหนักการตี สามารถปรับเพิ่มหรือลดระดับเสียงของกลองแต่ละใบแยกชิ้นได้อย่างอิสระ ช่วยให้คุณสามารถใส่ความชอบหรือความต้องการของตัวเองลงไปในสไตล์ดนตรีของตัวเองได้อย่างเต็มที่
- Nux DM-1X กลองไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นของ Nux ให้ชุดกลองมาเป็นชุดใหญ่ 3 กลองทอม 1 กลองสแนร์ และยังมีชุดไฮแฮทกับชุดเบสดรัมมาให้ เรียกว่าเหมาะกับทุกแนวเพลง นอกจากนี้ยังมีแฉมาให้ 2 ใบ ครอบคลุมสไตล์เพลงทั้งหมด โมดูลใช้งานง่ายในขณะที่มอบฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับมือกลองทั้งหมด เช่น TAP / Metronome, Rhythm, Volume, Reverb สามารถปรับแต่งได้ง่ายผ่านหน้าจอโมดุลที่ให้มา
กลองไฟฟ้าเรตราคา 20,000 บาท
- Nux DM-210 ชุดสุดคุ้มที่ได้ทั้งการซ้อม, เรียน และบันทึกเสียงในตัวเดียว จบปัญหาการมีพื้นที่ไม่พอจะวางกลองชุด หรือเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน แป้นกลองมีขนาดใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็นสแนร์ขนาด 8 นิ้ว หรือฉาบขนาด 14 นิ้วและ 12 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีกลองทอมขนาด 8 นิ้วถึง 3 แพด รองรับดนตรีทุกรูปแบบ
- Hampback MK-6W Pro กลองไฟฟ้าซีรี่ส์ 6 ที่พัฒนาให้สมกับคำว่า Pro ในชื่อรุ่น โดยจะมีการปรับขนาดแป้นกลองให้ใหญ่สมจริงมากขึ้น เช่น สแนร์ขนาด 12 นิ้ว หรือกระเดื่ิงขนาด 12 นิ้วเช่นกัน รวมถึงตัวกลองทอมก็จะเป็นแบบ 2 ขนาด และฉาบ Ride ก็ใหญ่ถึง 14 นิ้ว จึงได้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับกลองชุดมากขึ้น
- Hampback MK 7X Pro กลองไฟฟ้าซีรี่ส์ 7 ที่พัฒาขึ้นมาอีกระดับด้วยรูปโฉมใหม่สวยงามกว่าเดิม หน้ากลองเป็นหนังมุ้งทุกใบสามารถปรับจูนหนังกลองได้ในจุดเดียว แฉจับหยุดได้ทุกใบ และรุ่น Pro นี้จะมีการปรับแฉ-ฉาบให้ดียิ่งขึ้น แถมยังสามารถเชื่อมต่อบลูทูธเพื่อเปิดเพลงไปซ้อมไป เสียงในตัวมากถึง 880 เสียงและตั้งค่าได้ 50 Preset นอกจากนี้แล้วตัวโมดุลจะใช้หน้าจอแบบ TFT สุดล้ำ ไฮแฮทเป็นไฮแฮทจริงแยกออกมาจากตัวกลอง เพื่อให้ได้การตอบสนองใกล้กลองจริงมากที่สุด กลองทอม 2 ตัว รองรับการตีทุกแนวเพลง ถือเป็นกลองไฟฟ้าอีกรุ่นที่พัฒนาได้ตอบโจทย์มือกลอง และเต็มไปด้วยคุณภาพ
- Roland TD-02K นำเสนอประสบการณ์การตีกลองอิเล็กทรอนิกส์ระดับเริ่มต้นที่ดีที่สุดในโลกในราคาย่อมเยา ประกอบด้วยสแนร์แพด แป้นทอม 3 อัน แป้นเหยียบไร้บีตเตอร์ไร้เสียง แป้นฉาบ 3 แผ่น (ไฮแฮท แครช และไรด์) รวมถึงแร็คสามเสาที่ทนทานเพื่อยึดอุปกรณ์ทั้งหมดให้เข้าที่ ได้รับการสนับสนุนโดยนวัตกรรม V-Drums หลายทศวรรษ โมดูล TD-02 ชุดเสียงยอดเยี่ยม 16 ชุด มีพอร์ต USB B-MIDI (รวมถึง Bluetooth MIDI ผ่านอะแดปเตอร์เสริม) สำหรับการเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์การบันทึกและ Digital Audio Workstations (DAW)
กลองไฟฟ้าเรตราคา 30,000 บาท
- NUX DM-7X สเปคเกินราคา กลองไฟฟ้าที่ถูกใส่เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจาก Nux ตัวกลองถูกดึงมุ้งทั้งหมดด้วยแบรนด์ชื่อดังอย่าง Remo มีความแข็งแรงทนทาน ไม่ว่าจะตอบสนองต่อการตีหรือสัมผัสก็เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และยังให้เสียงที่สมจริงพร้อมความสเถียรคงที่ แ
- Yamaha DTX-402K กลองไฟฟ้าคุณภาพเยี่ยมจาก Yamaha เป็นกลองขนาด 4 ชิ้น พร้อมฉาบ 2 ใบ ใช้งานได้ง่าย เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อทำเพลงได้สบายๆด้วย USB แบบ B สามารถบันทึกเพลงได้ถึง 10 เพลง ใช้ซ้อมหรืออัดคลิปลงยูทูปเนียนๆ ทำเสียงเพอร์คัสชั่นได้มากถึง 287 แบบ และเสียงเมโลดี้อีก 128 แบบ พร้อมด้วยเอฟเฟค Reverb ในตัวเพิ่มมิตเสียงให้กับซาวด์กลองของคุณ เอนกประสงค์แถมยังเสียงดีแบรนด์ดังแบบนี้ รับรองไม่มีคำว่าผิดหวัง
- Roland TD-07DMK กลองไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด สะดวกในราคาประหยัด สร้างสรรค์ดนตรีที่เหนือกว่ากลองชุดใด มี onboard Bluetooth เพื่อเล่นพร้อมกับแทร็กเพลงและบทเรียน มี USB เพื่อเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และอีกมากมาย
- Hampback MK-7X Plus สานต่อความประทับใจจากรุ่น MK-7X ที่เป็นกลองไฟฟ้าชุดใหญ่และได้หนังมุ้งทุกชิ้น โดนเป็นหนังมุ้งแบบ “Superlink” ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม มีความทนทานเหลือเชื่อและเงียบกว่าแผ่นยางทั่วไป ขนาดแป้นกลองแต่ละชิ้นใหญ่ใกล้เคียงกลองชุดจริงและคงขนาดเดิมของซีรี่ส์ 7
กลองไฟฟ้าเหมาะกับใคร
- นักเรียนดนตรีผู้ที่ต้องการสร้างทักษะในการจับจังหวะ หรือคนที่เรียนพื้นฐานกลอง
- ผู้ที่ต้องการกลองไว้ซ้อมส่วนตัวแต่มีปัญหาเรื่องพื้นที่หรือเสียงที่อาจจะรบกวนผู้อื่นๆ เพราะกลองไฟฟ้าสามารถปรับระดับเสียงหรือใส่หูฟังได้ รวมถึงใช้พื้นที่น้อยกว่ากลองชุด
- นักดนตรีอาชีพที่ต้องการฟังก์ชั่นเพิ่มเติมจากกลองชุด เช่น การบันทึกเสียง หรือการเชื่อมต่อกับแบ็คกิ้งแทร็คเพื่อการฝึกซ้อมที่ดียิ่งขึ้น
การดูแลรักษากลองไฟฟ้า
- ระมัดระวังเรื่องกระแสไฟ เพราะจะมีผลกระทบกับการทำงานได้ ควรใช้เต้ารับที่ได้คุณภาพ ไม่ควรให้กลองไฟฟ้าโดนน้ำ
- ทำความสะอาดกลองไฟฟ้าอยู่เสมอ โดยผ้าที่ใช้เช็ดกลองไฟฟ้าควรเป็นผ้าที่บิดหมาดๆ
- หลังจากการเล่นทุกครั้งควรปิดซาวด์โมดุลเสมอ
- พยายามตรวจเช็คอะไหล่กลองเป็นประจำ
วิธีการเลือกซื้อกลองไฟฟ้า
- ดูจำนวนชิ้นส่วนกลองไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการเล่นหรือตอบโจทย์แนวดนตรีที่ต้องการ
- ชนิดแพดที่ใช้ตี ซึ่งปกติกลองไฟฟ้าจะมี 2 แบบคือแป้นยางและแป้นหนังมุ้ง โดยหนังมุ้งจะดีกว่าตรงที่ปรับทัชชิ่งได้
- ตรวจสอบจำนวนโซนในการตีของแพดต่างๆว่าตีได้กี่โซน ซึ่งจะมีผลต่อการตีและการให้เสียงต่างๆ เช่นการทำ Rim Shot หรือเสียงแฉ/ฉาบที่จะหลากหลายมากขึ้น
- ศึกษาซาวด์โมดูลก่อนเลือกซื้อ โดยโมดูลกลองแต่ละรุ่นจะมีรายละเอียดที่ต่างกัน เช่นการให้จำนวนเสียงที่มากน้อยต่างกัน และมีผลต่อรายละเอียดของเสียง หรือสามารถทดลองตีก่อนเลือกซื้อเพื่อให้ได้เสียงที่ต้องการ
- คำนวนพื้นที่ในการวางกลองไฟฟ้า เพราะกลองไฟฟ้าเป็นเครื่องดนตรีที่ต้องการพื้นที่ในการใช้งานพอสมควร ควรเลือกซื้อกลองชุดที่เหมาะกับพื้นที่ของห้อง
- หากต้องการที่จะเพิ่มชิ้นส่วนของกลองในอนาคต ควรเลือกกลองไฟฟ้าที่สามารถต่อเพิ่มได้เช่น แฉ/ฉาบ หรือบางรุ่นจะมีช่องต่อกลองทอมเพิ่มได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อรุ่นใหม่
- บริการหลังการขายและการประกัน เป็นสิ่งสำคัญจึงควรเลือกร้านที่มั่นใจได้และพนักงานที่ให้คำแนะนำได้อย่างมีคุณภาพ
ทำไมถึงต้องเลือกซื้อกลองไฟฟ้า
- เก็บเสียงได้ดีกว่า การที่จะเอากลองจริงมาซ้อมตีในบ้านจะมีปัญหาในเรื่องเสียง ซึ่งกลองไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นแป้นยางหรือแป้นหยังมุ้งจะมีการเก็บเสียง และหากต้องการซ้อมก็สามารถเชื่อมต่อหูฟังได้
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ราคากลองไฟฟ้าบางรุ่นอาจจะใกล้เคียงกับกลองชุด แต่เรื่องความทนทานนั้นกลองไฟฟ้าจะมีมากกว่าและดูแลรักษาได้ง่ายกว่าไม่ยุ่งยาก ชุดเดียวสามารถใช้ได้ยาวๆโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- ฟังก์ชั่นครบ กลองไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งเครื่องดนตรีที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบ็คกิ้งแทร็ค เอฟเฟคเสียงในตัว หรือการบันทึกเสียง ซึ่งหากใครต้องการเครื่องดนตรีที่ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์จะตอบโจทย์มาก
- เสียงที่หลากหลายกว่า โดยกลองไฟฟ้าส่วนใหญ่นั้นจะมีซาวด์โมดูลที่ให้เสียงในตัวมามากมาย สามารถเลือกปรับเสียงและความต้องการได้หลากหลายมากกว่ากลองจริง นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟคต่างๆ เข้าไปได้อีกด้วย
- การบำรุงรักษาง่าย ไม่ยุ่งยาก กลองไฟฟ้านั้น ส่วนใหญ่ผิวหน้ากลองจะทำมาจากพลาสติกที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายๆ หรือแป้นต่างๆก็จะเป็นยางและหนังมุ้งที่ดูแลรักษาง่ายกว่ากลองจริง รวมถึงกลองไฟฟ้าจะทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็นมากกว่ากลองชุดที่ทำมาจากไม้อีกด้วย