เทคนิค 5 ข้อคนเล่นกีต้าร์โปร่งต้องรู้!!
กีต้าร์นับเป็นเครื่องดนตรีสากลที่คนนิยมเล่นกันมากที่สุด หลายๆคนจึงอยากหัดเล่นกีต้าร์เพื่อไปร่วมแจมกับเพื่อน หรือเพื่อความบันเทิงส่วนตัวกันไม่น้อย ซึ่งตรงนี้ Music Arms บอกเลยว่าการหัดเล่นกีต้าร์โปร่งนั้นไม่ใช่เรื่องยาก คอร์ด C หรือ Am บางคนจับไม่กี่วันก็เป็นแล้ว แต่การที่จะเล่นกีต้าร์โปร่งให้มีความไพเราะนั้นเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนกันและใช้เทคนิคบางอย่างมาช่วย ทำให้การเล่นกีต้าร์มีความน่าฟังมากขึ้นกว่าการตีคอร์ดทื่อๆ วันนี้ Music Arms จึงจะมาแนะนำ 5 เทคนิคที่คนกเล่นกีต้าร์โปร่งต้องรู้ จะช่วยให้การเล่นกีต้าร์มีเสน่ห์มากขึ้น
น้ำหนัก (ไดนามิค)
กีต้าร์โปร่งเป็นเครื่องดนตรีที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ง่ายที่สุด อารมณ์ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก บางท่อนเบา บางท่อนดัง การเล่นกีต้าร์ที่ดีนั้นจึงไม่ควรเล่นน้ำหนักเท่ากันทั้งเพลง ทั้งนี้แล้วขึ้นอยู่กับท่อนที่เล่น เช่น อินโทรอาจเล่นเบาๆเป็นการเปิดอารมณ์เพลงก่อน จากนั้นท่อนกลางค่อยเร่งไดนามิคให้เสียงหนักขึ้น หรือบางอารมณ์อาจจะตามความหมายเพลง เช่น หากต้องการให้มีความซึ้งก็อาจจะเล่นช้าๆหรือเกา หากต้องการให้อารมณ์เพลงหนักขึ้นก็เป็นการสตรัมคอร์ด เป็นต้น
ใส่เมโลดี้เข้าไปในคอร์ด
การเล่นกีต้าร์โปร่งแบบตีคอร์ดนั้น แม้ว่าจะได้ทำนองเพลงอย่างครบถ้วนก็จริง แต่จะขาดสีสันในการเล่นอย่างมาก บางเพลงนั้นหากไม่ใส่ลูกเล่น ตีคอร์ดท่อนอินโทรมาอาจจะยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่านี่เพลงอะไร ดังนั้นการเล่นกีต้าร์โปร่งให้มีเสน่ห์จึงควรใส่เมโลดี้เล็กๆน้อยๆลงไปในคอร์ดหรือระหว่างเปลี่ยนคอร์ด เช่นการขยับนิ้วมา 1 ช่อง ตามคลิปด้านบน รวมไปถึงการสไลด์สายระหว่างเปลี่ยนคอร์ดให้ฟังดูมีสีสันมากขึ้น
ควรหลีกเลี่ยงสายเปิดเวลาเปลี่ยนคอร์ด
สำหรับมือใหม่หลายคนแล้ว เวลาเล่นกีต้าร์ตอนเปลี่ยนคอร์ดมักจะติดนิสัยการเล่นสายเปิดตามคลิป ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วถือว่าไม่ควรทำ เนื่องจากสายเปล่าก็จะมีคีย์ของตัวเอง หากเล่นคอร์ดที่ไม่เข้ากับสายเปล่า เช่น Eb แล้วเวลาเปลี่ยนคอร์ดดีดสายเปิดซึ่งสาย 6 เป็นคีย์ E สาย 5 คีย์ A จะทำให้เสียงไม่เข้ากันฟังแล้วเพี้ยน จึงควรเรียนรู้การ Mute สาย หรืออุดสายให้เสียงบอดตอนเปลี่ยนคอร์ด ยกเว้นว่าบางครั้งสายเปิดเป็นคีย์เดียวกับคอร์ดที่เล่น เสียงก็จะไม่รู้สึกขัดแย้งมาก
Finger Picking
ข้อนี้จะคล้ายๆการใส่เมโลดี้ในข้อที่ 2 แต่จะเป็นการใส่ลูกเล่นที่เยอะกว่าเกือบๆถึงแนวฟิงเกอร์สไตล์ การใส่ Finger Picking นั้นผู้เล่นจะต้องรู้โน๊ตในคอร์ดอย่างลึกซึ้ง ทำให้การใส่เทคนิคแบบนี้จะยากกว่าข้ออื่นๆ แต่หากเล่นได้แล้วรับรองว่าการเล่นกีต้าร์จะมีสีสันมากขึ้นจนต้องตะลึงกันเลยทีเดียว การเล่น Finger Picking จะมีหลายรูปแบบทั้งการเล่นแบบสไลด์, เปิดสาย ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคน
เทคนิคเกา-ตบ
เชื่อว่าหลายๆคนเล่นกีต้าร์โปร่งด้วยการเกากีต้าร์มาพอสมควร เพราะเทคนิคการเกากีต้าร์ทีละสายถือว่าไม่ได้หัดยากเท่าไหร่นัก แต่หากมีการตบกีต้าร์เพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้การเล่นมีจังหวะหรือ Groove มากขึ้น โดยการตบจะทำหน้าที่คล้ายการตีสแนร์ของกลอง นอกจากจะช่วยให้มีสีสันแล้ว ถือเป็นการช่วยให้มือกีต้าร์ได้รู้จังหวะห้องของเพลงที่ตัวเองกำลังเล่นอยู่อีกด้วย
เปลี่ยนจากการเกาธรรมดา ให้ครบเครื่องน่าฟังมากขึ้น มี Groove จังหวะ