LINE


กลองชุดกับกลองไฟฟ้า อันไหนดีกว่ากัน

ไปซื้อ กลองชุดกับกลองไฟฟ้า อันไหนดีกว่ากันที่สาขา

หลาย ๆ ท่านคงสงสัยใช่มั้ยครับว่าหากเราจะซื้อกลองชุดกับกลองไฟฟ้า อะไรดีกว่ากัน กลองชุดจะดีกว่าหรือเปล่า หรือกลองไฟฟ้าจะเหมาะสมกว่าวันนี้ทาง Music Arms จะมาไขข้อสงสัยตรงนั้นสำหรับท่านผู้อ่านกันครับ หากพร้อมแล้วไปอ่านพร้อม ๆ กันเลยครับ

การติดตั้ง

แน่นอนครับหากคุณเป็นมือกลองที่ไม่ชอบความยุ่งยากในการติดตั้งอุปกรณ์ กลองไฟฟ้าก็ตอบโจทย์ในข้อนี้ครับเพียงแค่คุณมีไฟตั้งค่า Module ใส่หูฟังหรือลำโพงก็สามารถใช้งานพร้อมบรรเลงได้แล้วครับแต่ ในขณะเดียวกันหากคุณใช้ Acoustic Drum ก็ไม่ได้มีความยุ่งยากในการติดตั้งขนาดนั้นครับ แต่อาจจะต้องไขนู้น ไขนี่ ปรับองศาของกลอง ใส่หนังกลอง ตั้งเสียงกลองนิดหน่อย ก็พร้อมที่จะใช้งานได้แล้วครับ (แอบกระซิบ ยิ่งอุปกรณ์ยิ่งน้อยก็สบายครับ แต่หากมีอุปกรณ์เยอะหน่อยก็เหนื่อยนิดหน่อยครับฮ่า ๆ )

พื้นที่ในการติดตั้ง

ในข้อนี้หากคุณมีพื้นที่ในการติดตั้งอย่างจำกัดมีพื้นที่ที่สามารถใช้สอยได้น้อยแล้วละก็ Electronic Drum Set ก็ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ครับและหากยิ่งเป็น Electronic Drum Pad ก็ยิ่งใช้พื้นที่น้อยลงไปอีก (หากใครส่งสัยในเรื่อง Electronic Drum Set & Electronid Drum Pad สามารถกลับไปย้อนอ่านบทความที่ Music Arms ได้ลงไว้ได้เลยครับ)  Acoustic Drum จะใช้พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าครับเนื่องจากขนาดของตัวกลองในแต่ละใบมีขนาดไม่เท่ากัน ไหนจะรวมไปถึงพวก Hardware, Cymble ต่าง ๆ อีกก็คงต้องคำนวนพื้นที่ในการติดตั้งไว้หน่อยครับ แต่หากคุณผู้อ่านมีห้องสำหรับไว้ติดตั้งอันนี้ก็สามารถทำได้ครับครับ

การรบกวนผู้อื่น

ทำไม Music Arms ถึงต้องยกเรื่องนี้มาเขียนให้ผู้อ่านได้อ่านกัน เนื่องจากดนตรีที่เป็นประเภทกลองนั้นแน่นอนครับมันไม่ได้มีความเบาขนาดที่คนอื่นไม่ได้ยินอาจจะมีเสียงรบกวนบ้างเล็กน้อยเราไปดูข้อแต่ต่างกันในข้อนี้กันครับ

  • Electronic Drum ในส่วนตรงนี้นะครับหากกลองของคุณเป็นแบบหนังมุ้งก็จะสามารถเก็บเสียงในการตีที่มากกว่าแป็นยางครับ ทำให้รบกวนผู้อื่นได้น้อยลง
  • Acoustic Drum แน่นอนครับขึ้นชื่อว่าตีกลอง ไม่มีคำว่าเบาแน่นอนเสียงที่ออกมาอาจจะรบกวนผู้อื่นได้ครับแต่ถ้าหากบ้านของคุณผู้อ่านสามารถที่จะทำห้องที่เก็บเสียงได้ หรือเป็นที่พักอาศัยที่ห่างไกลจากเพื่อนบ้าน ก็จะลดลงในเรื่องของเสียงที่รบกวนผู้อื่นได้ครับ

อายุการใช้งาน

แน่นอนครับหลาย ๆ คนคงไม่ค่อยได้คำนึงถึงอายุการใช้งานเท่าไหร่แต่วันนี้ Music Arms อยากจะแนะนำว่าเราควรคำนึงถึงในเรื่องนี้ด้วยเพราะว่ากลองที่เราซื้อไม่ว่าจะเป็น Acoustic Drum Electronic Drum ก็มีอายุไขในการใช้งานครับขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของผู้ใช้เลย ยกตัวอย่างนะครับในขณะที่ Acoustic Drum ต้องคำนึงถึงอายุการใช้งานของหนังกลอง หนังกลองที่ซื้อมาในวันแรก ๆ เสียงจะไพเราะมาก แต่พอผ่านไปนาน ๆ เสียงที่ได้ก็ไม่เป็นอย่างที่คุณคิดคุณต้อง ซื้อหนังมาเปลี่ยนใหม่ ตั้งเสียงกลองใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน Electronic Drum ก็มีอายุไขในการใช้งานเหมือนกัน เนื่องจากเทคโนโลยี Software หรือ Material ที่ได้พัฒนาไปอย่างต่อเนื่องให้คุณเห็นภาพง่าย เหมือนการใช้งาน Smart Phone ของคุณที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้งเพียงแต่ Electronic Drum ไม่ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วเท่าแค่นั้นเองครับ

การซ่อมบำรุง

การซ่อมบำรุงก็ถือเป็นปัจจัยที่ผู้ใช้งานต้องคำนึงถึงเหมือนกันครับ

  • Electronic Drum ในบ้านเราเดี๋ยวนี้มีช่างที่สามารถซ่อมบำรุง Electronic Drum ของคุณได้แล้ว เพียงแต่คุณอาจจะต้องเสียเวลานำกลองของคุณไปให้ทางร้านและอาจจะต้องรออะไหล่ที่ต้องส่งตรงมาจากประเทศต่าง ๆ เท่านั้นครับ และสมัยนี้ก็มีประกันอุปกรณ์กันแล้วเรียกได้ว่าอุ่นใจใช้ได้นานครับ
  • Acoustic Drum ในส่วนนี้อาจจะซ่อมบำรุงได้ง่ายกว่าหากคุณไม่นำกลองของคุณ ไปทำอะไรที่มันแปลก ๆ เช่น ปาใส่พนังกำแพง โยนตกจากที่สูงจนไม้แตก กระแทกแรง ๆ (Music Arms คงไม่คิดว่าจะมีคนทำนะครับ) อะไหล่ของ Acoustic Drum นั้นสามารถหาได้ทั่วไปครับไม่ว่าจะเป็น หนังกลอง น็อตจูน น็อตตามตัวถังกลอง ก็สามารถหาได้ทั่วไปเช่นกัน Acoustic Drum จึงซ่อมบำรุงได้ง่ายกว่าและคุณก็สามารถทำได้เองด้วยครับ

การดูแลรักษา

แน่นอนครับการดูแลรักษาตัวกลอง Music Arms ขอแนะนำว่าหากคุณใช้ Acoustic Drum ก็ไม่ควรให้กลองของคุณไปอยู่ในที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยครับเนื่องจากจะทำให้ตัวถังกลองมีอาการบวม ชื้น ทำให้อายุการใช้งานน้อยลงยิ่งไปกว่านั้น ขอบกลอง หลักกลอง น็อตกลอง ที่ทำจากโลหะต่าง ๆ จะทำให้เกิดัสนิมได้ง่ายครับ การทำความสะอาดก็เพียงแค่ใช้ผ้าสะอาดเช็คฝุ่นออก (ไม่ควรใช้ผ้าเปียก) และนำผ้ามาคุมกลองกันฝุ่นก็ช่วยให้กลองของคุณอยู่กับคุณไปได้นานแล้วครับ ส่วน Electronic Drum ควรระวังในเรื่องของ น้ำกับของเหลวต่าง ๆ ครับ แน่นอนหากคุณตั้งกลองไฟฟ้าแล้วซ้อมอยู่บ้านมีแก้วน้ำตั้งไว้ข้าง ๆ แล้วดันทำน้ำหกใส่ตัวกลองก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยครับอาจจะต้องยกไปให้ช่างดูแลรักษากันยาวเลย เรื่องไฟฟ้าที่บ้านก็พยายามอย่าชักปลั๊กออกในขณะที่ตัวเครื่องกำลังเปิดอยุ่ครับซึ่งอาจจะทำให้ระบบวงจรด้านในรวนได้เหมือนกัน

ฟิลลิ่งในการเล่น

แน่นอนครับหากใครเป็นมือกลองจะเข้าใจในข้อนี้ดีครับว่ากลองไฟฟ้าและกลองจริงมีความแตกต่างกันในเรื่องนี้ Acoustic Drum จะให้ความรู้สึกถึง ไม้ที่เราตีลงไปสร้างแรงสั่นสะเทือนไปที่หนังและส่งแรงสั่นนั้นเข้าไปที่ตัวถังกลองจะทำให้ได้เสียงออกมาได้เสียงที่เป็นธรรมชาติ ในขณะที่กลองไฟฟ้าบางรุ่นอาจจะทำให้เราไม่สามารถได้รับรู้ฟิลลิ่งแบบนั้นได้ครับ

ราคา

ในข้อนี้ Music Arms จะขอสรุปแบบนี้ครับ เนื่องจากปัจจุบันทั้ง Acoustic Drum และ Electronic Drum มีราคาเริ่มต้นที่มือกลองจับต้องได้ไม่ว่าจะเป็นราคา 7,xxx – 1xx,xxx + Music Arms แนะนำว่าผู้ซื้อควรตั้งงบประมาณที่ตนเองมีครับแล้วจัดสรรกลองของคุณให้เข้ากับงบประมาณนั้นครับผม

สรุป Acoustic Drum VS Electronic Drum อะไรดีกว่ากัน

Music Arms ได้ทำตารางสรุปข้อมูลเพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ

ความแตกต่าง Acoustic Drum Electric Drum
การติดตั้ง ปานกลาง ง่าย
พื้นที่การติดตั้ง ใช้พื้นที่ค่อนข้างมากขึ้นอยู่กับจำนวนอุปกรณ์ในการติดตั้ง ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยไม่แกะกะ
การใช้งาน ใช้งานได้ทันที ต้องการไฟฟ้าในการทำงานของระบบดิจิทัล
การรบกวนผู้อื่น ค่อนข้างรบกวน รบกวนเล็กน้อย
อายุการใช้งาน 2-10+ ปี (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) 1-5 + (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
การซ่อมบำรุง ซ่อมแซมง่ายอะไหล่หาได้ทั่วไป สามารถซ่อมแซมได้ด้วยตนเอง มีช่างซ่อมบำรุงอาจจะยุงยากในการขนย้ายไปให้ช่าง
การดูแลรักษา เช็คฝุ่นทำความสะอาดหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ใช้ผ้าคุมหลังจากใช้งานเสร็จ เช็คฝุ่นทำความสะอาดอย่าให้โดนน้ำ ระวังการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
ฟิลลิ่ง ให้ความรุ้สึกสมจริงของเสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือน ยังไม่เท่ากับกลองจริงแต่ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียง
ราคา เริ่มต้นที่ 7,000 – 100,000 + + เริ่มต้นที่ 7,000 – 100,000 ++

 

จากบทความทั้งหมดที่ผู้อ่านได้อ่านจนจบนี้ Music Arms หวังว่าผู้อ่านจะพิจารณาได้เลยว่า Acoustic Drum VS Electronic Drum อะไรดีกว่ากัน Music Arms บทความเกี่ยวกับกลองครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรฝากติดตามไว้ด้วยนะครับวันนี้ลาไปก่อนขอบพระคุณครับ

×