แนะนำ 5 Synthesizer 61 คีย์ น่าใช้งาน ปี 2025
หลังจากที่แนะนำคีย์บอร์ดใบ้หรือ MIDI Controller ไปเมื่อวันก่อน ทำให้มีเพื่อนๆชาว Musicarms หลายคนสนใจในเครื่องดนตรีชนิดนี้ และหลายคนต้องการที่ทำเพลงไปด้วย วันนี้ Musicarms จะขอยกระดับจากคีย์บอร์ดใบ้มาเป็น Synthesizer หรือ Workstation เนื่องจากฟังก์ชั่นการทำงานจะมีมากกว่า เหมาะสำหรับทำเพลง แต่ละยี่ห้อนั้นเชื่อว่าเพื่อนๆน่าจะคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว สามารถเลือกได้ตามราคาและการใช้งาน มีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาไม่แพงมาก จนไปถึงระดับมืออาชีพใช้งานฟังก์ชั่นครบ เราจึงขอแนะนำ Synthesizer 5 รุ่นยอดนิยมให้เพื่อนๆรู้จัก จะมีรุ่นกันบ้างนั้นไปชมกันเลย
ดู Synthesizer ทั้งหมด คลิกที่นี่

Roland XPS-30 รุ่นนี้จะเป็นการพัฒนามาจากรุ่น XPS-10 ซึ่งนำเอาข้อดีในรุ่นนั้นมาเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น เช่นเสียงที่ทำให้คล้ายคลึงกับเสียงเปียโนอะคูสติค สามารถปรับโดยใช้ปุ่มคอบคุมตามหน้าจอ รุ่นนี้มี 61 แป้นคีย์ตามมาตรฐานสามารถทำเสียงโพลีโฟนีได้สูงสุด 128 เสียง มีหน่วยความจำในเครื่องที่จัดเก็บทั้งเสียง Rhythm หรือรูปแบบซาวด์กลองสามารถซ้อมคนเดียวได้แบบชิลๆ หรือหากยังไม่พอก็สามารถเชื่อมต่อกับ Memory ภายนอกได้อีกด้วย
Roland XPS-30 ยังรองรับเทคโนโลยีอย่างหลากหลายด้วยช่องเสียบที่มาครบครันทั้ง USB, ฟุตสวิทช์ หรือจะเสียบไมค์และเครื่องเล่น MP3 ก็ยังทำได้ หน้าจอมีการปรับเพิ่มจาก XPS-10 ให้มีความละเอียดมากขึ้น ดูง่ายสบายตาสะดวกต่อการควบคุม ปุ่มคอนโทรลแยกการใช้งานอย่างชัดเจน น้ำหนักเบาแค่ 5.3 กก. กินไฟน้อย พกพาไปเล่นข้างนอกสะดวกเพียงแค่ใส่ถ่าน AA 8 ก้อนก็ใช้งานได้ยาวนานถึง 4 ชม. แบบนี้เรียกว่าคุ้มเกินคุ้มสำหรับคนที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดดีๆไว้ใช้งาน
- จำนวนแป้นคีย์ 61 คีย์แบบตอบสนองความเร็ว
- เสียงโพลีโฟนีสูงสุด 128 เสียง
- จำนวนพาร์ท 16 พาร์ท
- หน่วยความจำในตัวเครื่องสามารถเก็บแพทช์ได้เกิน 1400 แพทช์, เสียงกลอง 35 เสียง, เพอร์ฟอแมนซ์ได้ 28 แบบ (ใช้งานร่วมกับ GM2 ได้)
- หน่วยความจำแบบต่อพ่วงสามารถเก็บแพทช์ได้ 256 แพทช์, เสียงกลอง 8 เสียง, เพอร์ฟอแมนซ์ได้ 128 แบบ , Favorites ได้ 100 รายการ
- มีช่องเสียบ Wave 1 ช่อง (แต่ต้องโหลดดาต้าจาก Axial)
- รองรับไฟล์ .wav แบบ 16 บิท, aiff และ MP3
- มีมัลติเอฟเฟค 3 ระบบ 80 แบบ
- มีคอรัส 3 แบบ
- มีรีเวิร์ป 5 แบบ
- มีรีเวิร์ปในระบบไมค์โครโฟน 8 แบบ
- มี Rhythm ในตัว 30 แบบ 8 กลุ่ม
- มี Arpeggio 128 เสียง
- แผงคอนโทรลประกอบด้วย ปุ่ม Pitch bend, ปุ่มคอนโทรล 4 ปุ่ม, ปุ่มเลเวล 4 ปุ่ม และปุ่ม Multicolor pad 8 ปุ่ม
- หน้าจอ LCD ความละเอียด 256 x 80
- มีช่องเสียบ USB
- มีช่องเสียบฟุตสวิทช์, ไมค์, EXT, Output, Phone, MDI และ DC in
- ใช้อแดปเตอร์ขนาด 9 โวลต์ หรือถ่านขนาด AA 8 ก้อน
- อุปกรณ์แถมมีหนังสือรับรองสินค้า, ใบคู่มือ, อแดปเตอร์ และ Power Chord
- ขนาด 1008x300x97 มม.
- น้ำหนัก 5.3 กก.

Korg krome 61 Keys คีย์บอร์ดขนาดมาตรฐาน 61 แป้นคีย์ที่มาพร้อมกับฟังค์ชั่นสุดล้ำเต็มรูปแบบ ไล่กันตั้งแต่ระบบแป้นที่เป็ยแบบใหม่ไวต่อการสัมผัส ซึ่งปกติจะเป็นคีย์ C2-C7 แต่สามารถปรับลดและเพิ่มได้ 1 ออคเต็ปอีกด้วย สามารถทำเสียงโพลีโฟนีได้ทั้งแบบเล่นคนเดียวหรือเล่นคู่ทั้ง 120 และ 60 เสียง ออกแบบเสียงเปียโนได้สเมือนจริงมีการเสียบแป้นเหยียบเพิ่มเติมได้ จอแสดงผลขนาด 7 นิ้วใหญ่สบายตาแบบทัชสกรีนที่ช่วยให้คุณปรับฟังค์ชั่นได้อย่างง่ายๆ เมมโมรี่ในตัวจัดเต็มขนาด 3.8 Gb ที่จุเพลงได้ถคง 128 เพลงและยังปรับเทมโประดับความเร็วได้ตามใจชอบสำหรับเวลาฝึกซ้อมอีกต่างหาก
Korg krome 61 Keys ยังสามารถอัพเดทเวอร์ชั่นจากไดร์เวอร์เพื่อเพิ่มเติมส่วนการใช้งานได้ โดยไฟล์เพลงจะเป็น .wav ซึ่งเป็นสกุลไฟล์สากลปรับแต่งแก้ไขไฟล์ได้ง่ายทั้งบันทึกและแปลงไฟล์ รูปแบบกลองแบคกิ้งแทร็คมีมาให้เกิน 2000 รูปแบบไม่ต้องจำเจกับการเล่นคนเดียวและปรับกรูฟของกลองได้ตามใจชอบ เอฟเฟคในตัวถึง 193 แบบสามารถทำเสียงโน๊ตต่างๆได้ในแนวเพลงที่ตนเองถนัด ถ้าไม่ชอบใจก็ยังมีปุ่มปรับ EQ ให้ทั้งสามย่านเสียง ตัวเดียวสามารถเล่นคู่เล่นเดี่ยวได้ แบบนี้เอนกประสงค์สุดๆพร้อมสรรพทั้งซ้อมหรือขึ้นเวทีจริง
ข้อดี Korg Krome 61 เอนกประสงค์ครบเครื่องเรื่องเสียงและฟังก์ชั่น
- 61 คีย์ พร้อมซาวด์แกรนด์เปียโน German D สมจริง
- เสียงในตัว 640 แบบ พร้อมจังหวะกลอง 288 แบบ เล่นกันเพลิน
- จอแสดงผล Touch View 7 นิ้ว แค่สัมผัสก็ปรับแต่งได้ง่ายๆ
- บันทึกและทำงานเพลงสบายๆด้วยช่องเสียบ USB และ SD Card
- ใช้งานร่วมกับ Krome Editing ซอฟแวร์อัจฉริยะ ทำเพลงและแต่งเสียงในตัว โปรแกรมเดียวจบ
- ระดับคีย์ตั้งแต่ C2-C7 (สามารถปรับเป็น C1-C6 หรือ C3-C8 ได้)
- ระบบแป้นคีย์ไวต่อการสัมผัส
- ระบบ EDS-X (ปรับความคมชัดของเสียงสังเคราะห์ให้ดีขึ้น)
- โพลีโฟนี 120 เสียงในซิงเกิ้ลโหมด และ 60 เสียงในดับเบิ้ลโหมด
- เมมโมรี่ 3.8 Gb ที่ความถี่ 48 kHz เป็นระบบ 16 Bit
- จุตัวอย่างเสียงได้ 583 เสียง (12 แบบสเตอริโอ) และเแบบกลอง 2080 แบบ (474 แบบสเตอริโอ)
- มีโปรแกรม Oscillator (การแกว่งของเสียง) ทั้งโหมดซิงเกิ้ลและดับเบิ้ล สามารถปรับความเร็วได้
- ระบบกรองเสียง 4 แบบ คือแบบเดี่ยว, แบบต่อเนื่อง, แบบคู่ขนาน และแบบ 24 dB สามารถเลือกใช้ 2 แบบในโปรแกรม Oscillator ได้
- ปรับ EQ ได้ 3 ย่านเสียง
- สามารถปรับรูปแบบเสียงได้หลายรูปแบบ เช่น เสียงแบบแกว่ง หรือเสียงแบคกิ้งแทรคแบบ 2 คีย์
- ความจุเสียงร้อง 16 แบบ สามารถใช้ร่วมกับโปรแกรม via ปรับฟังค์ชั่นเสียงเพิ่มได้
- ระบบเสียงกลองมีทั้งแบบโมโนและสเตอริโอ
- มีเอฟเฟคในตัว 193 แบบ สามารถตั้งค่าเก็บไว้ได้ 32 แบบ
- ตั้งค่า Arpeggio ได้ 5 แบบ
- สามาถตั้งค่ารูปแบบกลองได้ 637 แบบ
- เก็บเพลงได้ 128 เพลงโดยสามารถปรับความเร็วเทมโปตั้งแต่ 40-300 ในไฟล์ MIDI
- สามารถแก้ไขไฟล์เพลง MIDI ได้
- แผงควบคุมประกอบด้วยปุ่มเปิด-ปิดแทรคกลอง, ปุ่มเปิด-ปิด Arpeggio, ปุ่ม REALTIME CONTROL, สวิทช์เลือกโหมด และปุ่มปรับโทน
- หน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว ความคมชัด 800X480 พิกเซล เป็นระบบออนบอร์ด
- ช่องเสียบ Output แบบโมโนขนาด 6.3 มม.
- ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. แบบสเตอริโอ
- ช่องเสียบ USB แบบ B
- มีช่องเสียบแป้นเหยียบแบบเปียโน
- มีช่องเสียบ SD Card โดยรองรับความจุ 32 Mb แบบ SDHC
- ขนาด 1,027 x 313 x 93 มม. (40.43 x 12.32 x 3.66 นิ้ว)
- น้ำหนัก 7.2 กก.
- ใช้อแดปเตอร์ขนาด 12V
- ใช้กำลังไฟ 13 วัตต์
- อุปกรณ์แถมเป็นอแดปเตอร์, หนังสือคู่มือ, แผ่นไฟล์คู่มือแบบ PDF และแผ่นวีดีโอแบบ Manual

Yamaha MODX6+
องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของเครื่องดนตรีทุกชนิดคือ เสียง MODX+ จะทำให้องค์ประกอบทั้งหมดของเสียงดนตรีของคุณยอดเยี่ยม MODX+ ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับที่ใช้ใน MONTAGE รุ่นขายดี: ตัวอย่าง AWM2 (Advanced Wave Memory 2) 128 โน้ต และโพลิโฟนีสังเคราะห์สำหรับเครื่องดนตรีอะคูสติกจำลอง เสียง synth และกลองอันน่าทึ่ง MODX+ ยังมีโพลีโฟนี FM-X (Frequency Modulation – การกล้ำสัญญาณเชิงความถี่) 128 โน้ต ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสังเคราะห์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี ตั้งโปรแกรมได้สำหรับสร้างสรรค์ดนตรีอิเล็กโทรโมเดิร์นที่มีไดนามิก
SMART MORPH
Smart Morph ช่วยให้สามารถเปลี่ยนแปลงระหว่างแต่ละเสียงของ FM-X ได้ อัลกอริทึม A.I. ที่ซับซ้อนจะสร้างแผนที่การเปลี่ยนแปลงเสียงแบบอินเตอร์แอคทีฟจากเสียงของ FM-X สูงสุด 8 เสียง คุณสามารถ “เล่น” แผนที่นี้ได้จากหน้าจอสัมผัสหรือใช้ Super Knob ในการเคลื่อนย้ายระหว่างสองจุด ผลลัพธ์คือจำนวนเสียงใหม่ๆ ที่น่าสนใจและมีการสื่อสารระหว่างกัน
โพลีโฟนีทั้งหมด 256 โน้ต
MODX+ ประกอบด้วยโพลีโฟนีสเตอริโอ AWM2 จำนวน 128 โน้ต และ โพลีโฟนี FM-X จำนวน 128 โน้ต โพลีโฟนีนี้พร้อมใช้งานเสมอไม่มีความหน่วงหรือกระทบต่อคุณสมบัติอื่นๆ เนื่องจากโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของ MODX+ และ MONTAGE
เอฟเฟ็กต์
MODX+ อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรม DSP ด้วยพลังและคุณภาพเสียงที่จะนำเสนอทุกเสียงตั้งแต่เสียงก้องความละเอียดสูงไปจนถึงเอฟเฟกต์ Virtual Circuit Modeling (VCM) ที่ละเอียดอ่อน เพิ่มเสียง EDM ที่มีเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Beat Repeat, Vinyl Break หรือ Bit Crusher ใช้เอฟเฟกต์ Spiralizer ในการสร้างภาพลวงของเสียงที่พิทช์เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างต่อเนื่อง
เพิ่มคอมเพรสเซอร์ที่มี Sidechain สำหรับเอฟเฟกต์ “Ducking” ที่ทันสมัย หรือย้อนยุคด้วยเอฟเฟกต์วินเทจเช่น Analog Delay, VCM Phaser หรือ Amp Simulator ที่หลากหลาย
ผู้เล่นเปียโนจะรู้สึกราวกับอยู่บนสวรรค์ หรืออยู่ในพื้นที่การแสดงที่น่าทึ่งด้วยเอฟเฟกต์ที่เน้นเสียงเปียโน เช่น Damper Resonance และเสียงก้องแบบ HD เพื่อสัมผัสประสบการณ์เสียงเปียโนที่สมจริงที่สุด
MOTION SEQUENCES
Motion Sequences เป็นการซิงโครไนซ์จังหวะที่ควบคุมการปรับแต่งซีเควนซ์ได้ทั้งหมด ซึ่งสามารถกำหนดให้ใช้พารามิเตอร์ของซินเธอร์ไซส์เซอร์ใดๆ และทำให้เกิดวิธีใหม่ในการสร้างเสียง
Motion Sequences ยังมีปุ่มควบคุมเฉพาะที่แผงด้านหน้าทำให้ง่ายต่อการจัดการและเปลี่ยนแปลงในแบบเรียลไทม์ ให้การโต้ตอบและการแสดงออกที่น่าทึ่ง
อินพุต A/D
อินพุต A/D สเตอริโอช่วยให้คุณสามารถนำแหล่งสัญญาณภายนอก เช่น ซินธิไซเซอร์อนาล็อก เสียงร้อง และเครื่องดนตรีอื่นๆ เข้าสู่ระบบ Motion Control ของ MODX+ ได้ ซึ่งแปลว่าการควบคุมของ MODX+ จะยอดเยี่ยมกว่าการประมวลผลของเอฟเฟกต์ในตัวของรุ่นทั่วไป ควบคุมแต่ละพารามิเตอร์ด้วยตัวคุณเอง หรือใช้ Motion Control ซึ่งเป็นเหมือน “มือที่มองไม่เห็น” ที่มีให้ใน MODX+ เพิ่ม Vocoder, Envelope Follower และ Auto Beat Sync เพื่อให้อินพุต A/D บน MODX+ กลายเป็นเครื่องมือสำหรับตัวเอง
Sidechain
Sidechain เป็นเอฟเฟกต์ยอดนิยมในเพลงแดนซ์สมัยใหม่ที่กำหนดให้แพดหรือส่วนอื่นๆ ที่ทำให้เกิดเสียงค้างยาวถูก “ปรับ” ไปที่กลอง Kick เมื่อเล่นกลอง Kick กลองจะ Duck Down ส่วนที่เล่นเสียงค้างยาวเพื่อสร้างเอฟเฟกต์เป็นจังหวะ “Pumping”
- ขนาด 937 x 134 x 331 มม.
- น้ำหนัก 6.6 กก.
- 61 คีย์แบบ Semi-weighted
- มีระบบ Initial Touch
- ระบบเสียง AMW2 และ FM-X
- เสียง AMW2 8 แบบ
- เสียง FM-X 8 แบบ, 88 อัลกอริธึม
- เสียง 8 แบบ 88 อัลกอริธึม
- โพลีโฟนีสูงสุด 128 โน๊ต
- Multi Timbral ความจุ 16 พาร์ทในตัว, พาร์ทอินพุตเสียง (A/D*, USB*) *สเตอริโอพาร์ท
- Wave Preset: 5.67 GB (เมื่อแปลงเป็นรูปแบบเชิงเส้น 16 บิต) User: 1.75 GB
- 2,227 Performance
- ฟิลเตอร์ 18 แบบ
- เอฟเฟค Reverb 12 แบบ, Variation 88 แบบ, Insertion (A, B) 88 แบบ x2, Master Effect 26 แบบ x2, A/D part insertion 83 แบบ
- การตั้งค่าล่วงหน้าสำหรับพารามิเตอร์ของเอฟเฟคแต่ละประเภทมีให้ดังนี้ เทมเพลต) Master EQ (5 แบนด์), EQ ส่วนที่ 1 (3 แบนด์), EQ ส่วนที่ 2 (2 แบนด์)
- ปุ่มควบคุม Master Volume, AD Input Gain, ระดับเสียง USB, Pitch Bend, Modulation, Control Sliders 4 ตัว, Knobs 4 ตัว, Super Knob, Data dial
- จอแสดงผลหน้าจอสัมผัส TFT Color Wide VGA LCD ขนาด 7 นิ้ว
- ช่องต่อ [USB TO DEVICE], [USB TO HOST], MIDI [IN]/[OUT], FOOT CONTROLLER [1]/[2], FOOT SWITCH [ASSIGNABLE]/[SUSTAIN], OUTPUT [L/MONO]/[ R] (6.3 มม., แจ็คโทรศัพท์มาตรฐาน), [PHONES] (6.3 มม., แจ็คโทรศัพท์สเตอริโอมาตรฐาน), A/D INPUT [L/MONO]/[R] (6.3 มม., แจ็คโทรศัพท์มาตรฐาน)
- อัตราพลังงาน 16 วัตต์ (เมื่อใช้อะแดปเตอร์ AC รุ่น PA-150B)
- อุปกรณ์เสริม อะแดปเตอร์ AC (PA-150B หรือเทียบเท่าที่ Yamaha แนะนำ*)
- ความจุ 130,000 โน้ต
- ขนาดการจัดเก็บ 520,000 Bank (สำหรับแพทเทิร์น) และประมาณ 520,000 โน้ต (สำหรับเพลง)
- ความละเอียดโน๊ต 480 ppq
- จังหวะ BPM 5 – 300
- เพลง 128 เพลง
- แทร็ก 16 แทร็กซีเควนซ์
- ประเภทการบันทึก Real time replace, Real time overdub, Real time punch in/out
- รูปแบบ 128 รูปแบบ
- Arpeggio Parts: 8 Parts พร้อมกัน (สูงสุด), Preset: 10,239 แบบ, User 256 แบบ
- รูปแบบ Sequence ดั้งเดิมของ MODX, รูปแบบ SMF 0, 1

Korg Kross 2 หรือ Korg Synthesizer KROSS-2 61 คีย์บอร์ด 61 คีย์ซีรี่ย์ 2 ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นจากรุ่นแรก ฟังค์ชั่นสุดล้ำในซีรี่ย์แรกยังคงเดิมเต็มรูปแบบ ไล่กันตั้งแต่ระบบแป้นที่เป็นแบบใหม่ไวต่อการสัมผัส ซึ่งปกติจะเป็นคีย์ C2-C7 แต่สามารถปรับลดและเพิ่มได้ 1 ออคเต็ปอีกด้วย สามารถทำเสียงโพลีโฟนีได้ทั้งแบบเล่นคนเดียวหรือเล่นคู่ทั้ง 80 และ 40 เสียง ออกแบบเสียงเปียโนได้สเมือนจริงมีการเสียบแป้นเหยียบเพิ่มเติมได้ และยังปรับเทมโประดับความเร็วได้ตามใจชอบสำหรับเวลาฝึกซ้อมอีกต่างหาก
ซีรี่ย์นี้จะมีการปรับซาวด์ให้หนาสมจริงมากขึ้นด้วยระบบ EDS-i และเพิ่มความจุเมมโมรี่ในตัวเป็น 128 Mb จุเพลงได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มการตั้งค่า Preset ถึง 1075 แบบ ใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะทำเพลงหรือแก้ไขตัวเพลง เพราะเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้ง่ายด้วยช่องเสียบ USB แบบ B ยามอยู่ข้างนอกก็ใช้ถานขนาด AA แค่ 6 ก้อนก็สามารถเล่นได้สบายๆ เอฟเฟคในตัวมากถึง 134 แบบ เรื่องซาวด์บอกเลยว่าจัดเต็ม น้ำหนักเบาแป้นคีย์ครบ งานนี้จะยกไปเล่นที่ไหนก็ไม่มีปัญหา
รายละเอียดคีย์บอร์ด Korg Kross 2
- จำนวนแป้นคีย์ 61 คีย์
- คีย์ตั้งแค่ C2-C7 (สามารถปรับเป็น C1-C6 และ C3-C8 ได้
- ระบบซาวด์ EDS-i
- แป้นคีย์แบบ NH ที่ให้สัมผัสเหมือนเปียโนอะคูสติค ให้เสียงตามการลงน้ำหนักนิ้ว 4 ระดับ
- ทำเสียงโพโลโฟนีได้ 80 เสียงในซิงเกิ้ลโหมด
- ทำเสียงโพโลโฟนีได้ 40 เสียงในดับเบิ้ลโหมด
- ตั้งค่า Preset ได้ถึง 1075 แบบ
- เมมโมรี่ 128 Mb เป็นแบบ 16 บิท
- แหล่งกำเนิดสัญญาณเสียงมีทั้งแบบซิงเกิ้ลและดับเบิ้ล
- จำนวนเอฟเฟค 134 แบบ
- ซาวด์กลอง 58 แบบ
- ใช้แบตเตอร์รี่ AA x 6 ก้อน
- ช่องต่อ Input แบบ Mic 1 ช่อง แบบ Line 1 ช่อง
- ช่องตอ่ Output แบบ Line out 2 ช่อง แบบหูฟัง 1 ช่อง
- ทำเสียงซีเควนซ์ได้ 16 แทร็ค
- มีช่องเสียบ USB แบบ B
- ใช้พาวเวอร์ซัพพลายขนาด 120 V
- ขนาด 935 × 269 × 88 มม.
- น้ำหนัก 3.8 กก.

คีย์บอร์ดซินธีไซเซอร์ Roland XPS-10 คีย์บอร์ดรุ่นใหม่ที่ออกมาพร้อมกับลูกเล่นด้านเสียงมากมาย จำนวนแป้นคีย์ 61 แป้น ตามมาตรฐาน สามารถทำเสียงโพลีโฟนีได้ถึง 128 เสียง ตัวแบบเสียงนั้นมาจาก รุ่น JUNO-Di อันโด่งดัง และยังเพิ่มรูปแบบเสียงของทาง Roland รุ่น XP,JV และรุ่น D-50 เข้าไปอีก พิเศษสุดคือมีเสียงดนตรีไทยเพิ่มมาให้ (อยู่ในหมวด World) สามารถ Sampling ได้ และแต่งเสียงเองในเครื่องได้เลย มีซาวด์กลองมาหใ้เกิน 30 รูปแบบ ใช้งานได้หลากหลาย
ตัวเอฟเฟคที่ให้มานั้นเป็นมัลติเอฟเฟคถึง 3 แบบและมีคอรัสกับรีเวิร์ปเป็นลูกเล่นเพิ่ม รุ่นนี้จะพัฒนาขึ้นโดยการตัดส่วน MIDI ออกไปและใช้งานเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆผ่าน USB อย่างเต็มรูปแบบ มีฟังก์ชั่น User Scale ปรับแต่งตัวโน๊ตในเพลงที่จะเล่นได้ แผงควบคุมก็แยกระดับเสียง 9 แบบให้ปรับแต่งกันอิสระ เล่นไฟล์ .wav และ MP3 ตามมาตรฐาน น้ำหนักเบาสบายสามารถพกพาไปได้ทุกที่ ฟังก์ชั่นใช้งานๆต่างๆมีปุ่มลัดพร้อมสรรพสำหรับนักดนตรีที่ต้องการเล่นสด ราคาถูกคุ้มค่าคุณภาพที่ได้รับ น่าจับจอเป็นเจ้าของอย่างมาก
ข้อดีและจุดเด่น คีย์บอร์ด Roland XPS-10
- เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อเนื่องมาจาก JUNO-Di จึงนำคุณสมบัติรวมถึงเสียงของ JUNo ทั้งหมดมาใส่ไว้และทำให้ดีขึ้น
- มีจุดเด่นด้านการทำซาวด์และลูกเล่นอย่างชัดเจน สามารถทำซาวด์ได้หลากหลาย
- เป็นคีย์บอร์ดเพียงไม่กี่รุ่นที่ทำเสียงเครื่องดนตรีไทยได้
- ตัดช่องเสียบที่ไม่จำเป็นออกและใช้เป็น USB แทบทั้งหมด ทำให้หาอุปกรณ์มาเชื่อมต่อได้ง่าย
- เสียงที่ออกมาค่อนข้างหนา เต็มเสียง สามารถ Sampling ได้
- ในราคาระดับ 20000 ถือวาเป็นคีย์บอร์ดที่เสียงดีและลูกเล่นเยอะระดับต้นๆ และเป็นคีย์บอร์ด synth
- ขนาดและน้ำหนักพกพาง่าย
รายละเอียดคีย์บอร์ด Roland XPS-10
- จำนวนแป้นคีย์ 61 แป้น
- จำนวนเสียงโพลีโฟนีสูงสุด 128 เสียง
- ระบบ Parts ถึง 16 Parts
- เมโมรี่ในเครื่องรองรับ Patches 1,273 + 256 แบบ, Drum Kits 19 + 9 แบบ และ Performances 16 แบบ
- สามารถเชื่อมต่อเมโมรี่เพิ่ม รองรับเพิ่ม Patches 256 แบบ, Drum Kits 8 แบบ Performances 128 แบบ และ Favorites 100 แบบ
- มีมัลติเอฟเฟค 3 ประเภท 78 แบบ
- มีเอฟเฟคคอรัส 3 แบบ, เอฟเฟครีเวิร์ป 5 แบบ
- ป้อนข้อมูลไฟล์เสียงแบบ .wav ด้วยความถี่44.1 kHz, 16 บิท
- เล่นไฟล์เสียงออดิโอได้ 3 แบบ คือ .wav, AIFF และ MP3
- ใช้ USB แบบ 2.0 ในการเชื่อมต่อ
- แพทเทิร์น Rhythm ทำได้ถึง 24 แบบ
- ตั้งค่า Arpeggio ได้ 128 แบบ
- แผงควบคุมมีตัวปรับ Pitch Bend และ Modulation และตัวสไลด์ปรับระดับเสียง 9 แบบ
- หน้าจอแสดงผล LCD 2 บรรทัด
- ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกมีทั้ง ช่องเสียบหูฟัง, ชื่อ Output ขนาด 1/4 นิ้วแบบโมโน, ช่องต่อสวิทช์เท้า และช่องต่อ USB
- ใช้อแดปเตอร์ DC ขนาด 1.3a 9 โวลท์
- ขนาด 1002 x 251 x 93 มม.
- น้ำหนัก 4 กก.
และทั้งหมดนี่คือ 5 Synthesizer ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานในส่วนของการทำเพลงอย่างครบครัน มีตั้งแต่รุ่นเล็ก ไปจนถึงรุ่นใหญ่กันเลย โดยแต่ละรุ่นก็สามารถเชื่อมต่อ MIDI ได้ ส่วนจะต่อกับ Bluetooth หรือฟุตสวิทช์นั้นต้องแล้วแต่รุ่น และบางรุ่นก็เป็นถึง Work Station สำหรับทำเพลงระดับมือโปรกันเลย เพื่อนๆสามารถเลือกตามการใช้งานของตนเองได้ และหากคิดไม่ออกว่าจะมาซื้อที่ไหนบอกเลยว่าทุกรุ่นมีจำหน่ายที่ร้าน Music Arms ทุกสาขา ใครที่ยังไม่แน่ใจจะมาลองตัวเป็นๆก็เชิญมาได้ ทีมงานของเรายินดีต้อนรับและให้บริการเพื่อนๆอย่างสุดความสามารถ เพื่อเพื่อนๆจะได้รับสิ่งดีๆก่อนออกจากร้านไปเสมอครับ






