LINE


อวสานห้องซ้อมแบบเดิมๆ! ก้าวสู่ยุคใหม่กับ ห้องซ้อมไร้เสียงเทรนด์ฮิตปี 2025

ไปซื้อ อวสานห้องซ้อมแบบเดิมๆ! ก้าวสู่ยุคใหม่กับ ห้องซ้อมไร้เสียงเทรนด์ฮิตปี 2025ที่สาขา

แนวคิดของ “ห้องซ้อมไร้เสียง” (silent practice room) กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่นักดนตรีและวงดนตรี และจะกลายเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับการซ้อมดนตรีภายในปี 2025 แนวทางที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ช่วยแก้ปัญหาและความท้าทายมากมายที่เกี่ยวข้องกับห้องซ้อมแบบดั้งเดิม โดยนำเสนอวิธีการฝึกฝนทักษะทางดนตรีที่มีประสิทธิภาพ ใส่ใจต่อสุขภาพ และยืดหยุ่นกว่า

ทำไมต้องเลือกซ้อมแบบไร้เสียง? ข้อจำกัดของการซ้อมแบบดั้งเดิม

YouTube video

ห้องซ้อมดนตรีแบบดั้งเดิมมักทำให้นักดนตรีต้องเผชิญกับระดับเสียงที่ดังมาก โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 100-110 เดซิเบล การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังเช่นนี้เป็นเวลานานอาจนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินอย่างถาวร นอกจากความเสี่ยงด้านสุขภาพแล้ว สภาพแวดล้อมดังกล่าวยังมักมีปัญหาเรื่องความคมชัดของเสียงที่ไม่ดี ซึ่งเสียงเครื่องดนตรีจะตีกัน ทำให้นักดนตรีต้องเพิ่มระดับเสียงของตัวเองให้ดังขึ้น และกลายเป็นว่ายิ่งทำให้ทุกคนได้ยินเสียงแต่ละชิ้นไม่ชัดเจนและจับจุดผิดพลาดได้ยากขึ้น

ข้อดีที่สำคัญของระบบซ้อมไร้เสียง

แนวคิดห้องซ้อมไร้เสียงมีประโยชน์มากมายที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การซ้อมได้อย่างมีนัยสำคัญ:

  1. การถนอมการได้ยิน: ด้วยการใช้อินเอียร์มอนิเตอร์ (in-ear monitors) นักดนตรีสามารถควบคุมระดับเสียงของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้เอง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยินและปกป้องสุขภาพหูของพวกเขาได้อย่างมาก
  2. คุณภาพเสียงและความคมชัดที่เหนือกว่า:
    • นักดนตรีจะได้ยินเสียงที่คมชัดและมีคุณภาพสูงโดยตรงผ่านอินเอียร์มอนิเตอร์ ปราศจากเสียงรบกวนรอบข้างและเสียงเครื่องดนตรีอื่นรั่วไหลเข้ามา
    • ทำให้แยกเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้ง่าย ช่วยให้ผู้เล่นแต่ละคนได้ยินเสียงของตัวเองอย่างชัดเจนโดยไม่ถูกเสียงอื่นกลบ
    • ความคมชัดนี้นำไปสู่การซ้อมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากนักดนตรีสามารถระบุและแก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างแม่นยำ
  3. การควบคุมระดับเสียงแบบอิสระ: สมาชิกวงแต่ละคนสามารถควบคุมมิกซ์เสียงในมอนิเตอร์ส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ ตัวอย่างเช่น มือกีตาร์สามารถปรับระดับเสียงของกระเดื่อง, สแนร์, หรือกีตาร์ของตัวเองได้อย่างอิสระตามความต้องการ เพื่อสร้างสมดุลที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นของตนเอง
  4. การกำจัดมลภาวะทางเสียง: ระบบนี้ช่วยให้วงดนตรีสามารถซ้อมได้แทบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด, อพาร์ตเมนต์, หรือบ้านพักที่อาศัยร่วมกับผู้อื่น โดยไม่รบกวนเพื่อนบ้าน ความยืดหยุ่นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับวงดนตรีที่ตารางงานมักบังคับให้ต้องซ้อมดึก ทำให้พวกเขาสามารถซ้อมได้ทุกเวลาโดยไม่สร้างความเดือดร้อน
  5. การบันทึกเสียงคุณภาพสูงที่ทำได้ง่าย: เมื่อสัญญาณเครื่องดนตรีทั้งหมดถูกส่งผ่านดิจิตอลมิกเซอร์ (Digital Mixer) และแยกออกเป็นแทร็กแต่ละชิ้น ระบบนี้จึงเอื้อให้บันทึกเสียงการซ้อมทั้งหมดได้อย่างง่ายดายและมีคุณภาพสูง ซึ่งไฟล์บันทึกเสียงเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ:
    • การวิเคราะห์การเล่น: เพื่อหาจุดอ่อนและส่วนที่ต้องปรับปรุง
    • การพัฒนาเพลง: เพื่อบันทึกไอเดียและสร้างเดโม
  6. จำลองประสบการณ์การแสดงสด:
    • นักดนตรีสามารถบันทึกมิกซ์เสียงมอนิเตอร์ส่วนตัว (scenes) ไว้ในดิจิตอลมิกเซอร์ได้โดยตรง
    • การใช้มิกเซอร์ตัวเดียวกันทั้งในการซ้อมและการแสดงสด ทำให้มั่นใจได้ว่าความสมดุลของเสียงบนเวทีจะสม่ำเสมอและคุ้นเคย
    • ความคุ้นเคยนี้ช่วยลดระยะเวลาในการซาวด์เช็คและเพิ่มความมั่นใจระหว่างการแสดง
  7. การสื่อสารที่ดีขึ้น: นักดนตรีสามารถพูดผ่านไมโครโฟนเพื่อสื่อสารกันอย่างชัดเจนผ่านอินเอียร์มอนิเตอร์ ทำให้ไม่ต้องตะโกนแข่งกับเสียงเครื่องดนตรีที่ดัง นอกจากนี้ ดิจิตอลมิกเซอร์รุ่นใหม่ๆ ยังมีฟังก์ชัน Talkback เพื่อการสื่อสารที่ราบรื่นระหว่างซาวด์เอ็นจิเนียร์และนักดนตรี

อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับห้องซ้อมไร้เสียงแบบ DIY

ในการจัดตั้งห้องซ้อมไร้เสียงด้วยตัวเอง อุปกรณ์หลักที่ต้องมีคือ:

  • ดิจิตอลมิกเซอร์ (Digital Mixer): เป็นศูนย์กลางของระบบ ทำหน้าที่รับสัญญาณเครื่องดนตรีทั้งหมดผ่านอินพุต ข้อได้เปรียบที่สำคัญของดิจิตอลมิกเซอร์คือมีบัส (bus) และเอาท์พุต (output) จำนวนมาก ทำให้นักดนตรีแต่ละคนได้รับมิกซ์เสียงส่วนตัวที่แยกจากกัน (หรือแม้กระทั่งมิกซ์แบบสเตอริโอหากมีเอาท์พุตเพียงพอ)
  • แอมป์หูฟังส่วนตัว (Personal Headphone Amplifiers): เชื่อมต่อกับเอาท์พุตแต่ละช่องของมิกเซอร์
  • อินเอียร์มอนิเตอร์ (In-Ear Monitors): นักดนตรีจะเสียบอินเอียร์มอนิเตอร์เข้ากับแอมป์หูฟังส่วนตัวของตนเอง

ขั้นตอนการติดตั้ง: เครื่องดนตรีต่างๆ จะถูกเสียบเข้ากับอินพุตของดิจิตอลมิกเซอร์ จากนั้นมิกเซอร์จะส่งมิกซ์เสียงที่ปรับแต่งแล้วไปยังเอาท์พุตต่างๆ (บัส) เอาท์พุตเหล่านี้จะเชื่อมต่อกับแอมป์หูฟังส่วนตัว ซึ่งนักดนตรีแต่ละคนจะเสียบอินเอียร์มอนิเตอร์ของตนเองเข้าไป วิธีนี้ทำให้สมาชิกทุกคนสามารถปรับสมดุลเสียงของเครื่องดนตรีต่างๆ ได้ตามความชอบอย่างอิสระ สำหรับการบันทึกเสียง สามารถเสียบแฟลชไดรฟ์เข้ากับมิกเซอร์โดยตรงเพื่อบันทึกเสียงแบบหลายแทร็ก (multi-track) หรือแบบสเตอริโอจากบัสที่เลือกหรือจากเอาท์พุตหลัก (Main L/R)

การประยุกต์ใช้กับการแสดงสด

ระบบซ้อมไร้เสียงสามารถนำไปใช้กับการแสดงสดได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวงดนตรีใช้ดิจิตอลมิกเซอร์ของตนเองทั้งสองสถานการณ์:

  • การติดตั้งที่รวดเร็ว: ทีมงานหน้างานเพียงแค่เชื่อมต่อเอาท์พุตของมิกเซอร์เข้ากับสเนค (snake) หรือสายสัญญาณตรงของเวที
  • สมดุลเสียงที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า: สมดุลเสียงของมอนิเตอร์ได้รับการตั้งค่ามาแล้วจากการซ้อม ช่วยลดเวลาซาวด์เช็คบนเวที
  • ซาวด์เอ็นจิเนียร์หน้าเวที (FOH) โฟกัสได้เต็มที่: ซาวด์เอ็นจิเนียร์สามารถมุ่งเน้นไปที่การมิกซ์เสียงสำหรับลำโพงหลักให้ผู้ชมได้เลย เนื่องจากสัญญาณเครื่องดนตรีได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมผ่านมิกเซอร์ของวงแล้ว ซึ่งจะส่งมิกซ์แบบสเตอริโอ (2 แชนเนล LR) ไปยังคอนโซล FOH ของเวที

ข้อควรพิจารณาสำหรับกลองชุดอะคูสติก: แม้ว่ากลองไฟฟ้าจะเหมาะที่สุดสำหรับการซ้อมแบบไร้เสียงเนื่องจากมีเสียงอะคูสติกน้อยมาก แต่วงดนตรีที่ต้องการใช้กลองชุดอะคูสติกในการแสดงสด ต้องแน่ใจว่าดิจิตอลมิกเซอร์ของตนเองมีช่องอินพุตเพียงพอสำหรับไมโครโฟนกลอง

สัมผัสความแตกต่าง

คุณภาพและความคมชัดของเสียงที่ได้จากระบบซ้อมไร้เสียงนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับวิธีการแบบดั้งเดิม นักดนตรีสามารถได้ยินทุกรายละเอียดของการเล่นอย่างแม่นยำ นำไปสู่การซ้อมที่มีสมาธิและเกิดประสิทธิผลมากขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาหรือติดตั้งระบบห้องซ้อมไร้เสียง สามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญและทดลองใช้อุปกรณ์ได้ที่ร้านค้า MusicArms ทุกสาขา ซึ่งมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำอย่างครบวงจรเกี่ยวกับการตั้งค่าระบบและการเชื่อมต่อ

Peavey Aureus Mini Digital Mixer

ราคา : 34,900 บาท
ประหยัดพิเศษ
Peavey Aureus Mini
ข้อมูลสินค้า : 

Peavey Aureus Mini: ดิจิตอลมิกเซอร์ขนาดกะทัดรัดพร้อมคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ

Peavey AUREUS Mini เป็นดิจิตอลมิกเซอร์ที่มอบเสียงคุณภาพระดับมืออาชีพในรูปแบบที่ใช้งานง่าย ด้วยหน้าจอมัลติทัชขนาด 8 นิ้ว ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการควบคุมเกือบทั้งหมดได้เพียงแค่แตะไม่กี่ครั้ง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับดนตรีสด การบันทึกเสียง และสภาพแวดล้อมอื่นๆ ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

คุณสมบัติเด่น

  • หน้าจอมัลติทัช 8 นิ้ว: ช่วยให้การควบคุมและการปรับแต่งทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
  • การควบคุมระยะไกล: สามารถควบคุมผ่าน Wi-Fi ด้วยเบราว์เซอร์ที่รองรับ HTML5 จากแท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์
  • การเชื่อมต่อหลากหลาย: รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 8 อุปกรณ์เพื่อควบคุมการผสมเสียง และเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการยอดนิยมทั้งหมด

มิกเซอร์ที่ยืดหยุ่นและใช้งานได้หลากหลาย

ไม่ว่าคุณจะผสมเสียงในคลับ โบสถ์ ศูนย์ประชุม สนามกีฬา หรือสถานที่อื่นๆ ที่ต้องการระบบเสียงระดับมืออาชีพ AUREUS Mini คือโซลูชันที่สมบูรณ์แบบที่มอบเวิร์กโฟลว์และคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมในรูปแบบที่กะทัดรัดและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทั้งมืออาชีพและผู้ใช้ที่มีประสบการณ์น้อย.

รายละเอียดคุณสมบัติ : 

ข้อมูลจำเพาะ Peavey Aureus Mini

ช่องสัญญาณ 20 อินพุต x 12 เอาต์พุต
อินพุต 6 x XLR – ¼” Combo, 6 x XLR, 2 x ¼“ Jack, 2 x RCA
Phantom Power 12 ช่องสัญญาณ 48V
เอาต์พุต 8 x XLR, 2 x ¼“ Jack, 2 Digital
จอแสดงผล 8“ มัลติทัช
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ WIFI, USB
การควบคุมระยะไกล ผ่านอุปกรณ์ใดๆ ที่มีเบราว์เซอร์ที่รองรับ HTML5
เอฟเฟกต์ 17 เอฟเฟกต์ใน 2 เอนจิ้น
ขนาด (สูงxกว้างxลึก) 178 มม. x 321 มม. x 436 มม.

BASN BsingerPro หูฟังอินเอียร์มอนิเตอร์

ราคา : 1,490 บาท
1,690 บาท
ประหยัด12%
BASN BSINGER PRO IEMS
ข้อมูลสินค้า : 

BASN Bsinger PRO

หูฟังอินเอียร์มอนิเตอร์

BASN-Bsinger-Pro-All-Color

หูฟัง BASN Bsinger clear แบบไดรเวอร์คู่เป็นหูฟังที่ช่วยตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ (สามารถป้องกันเสียงรบกวนได้สูงถึง 38 dB) และได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสำหรับเสียงเบสที่ลึก เป็นหูฟังมอนิเตอร์แบบอินเอียร์ที่มีคุณภาพการสร้างและคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการใช้งานบนเวที แต่ก็สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน หากคุณต้องการหูฟังสำหรับการมอนิเตอร์เสียงระดับมืออาชีพในงบประมาณที่จำกัด นี่อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แม้ว่าคุณจะไม่ใช่นักดนตรี หูฟังคู่นี้ก็ยังเป็นที่น่าสนใจสำหรับทุกคนที่ต้องการหูฟังอินเอียร์ที่ตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติ

  • เสียงใสคมชัด
  • ดีไซน์ตัวหูฟังที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์
  • ขั้วต่อ MMCX
  • ตะขอเกี่ยวหูที่ปรับได้ตามรูปทรง
  • สายเคเบิลที่ทนทาน
  • ตัวแยกสาย
  • แจ็คขนาด 3.5 มม. แบบตัว L

เสียงใสคมชัด

ไดรเวอร์คู่ความละเอียดสูงพร้อมแม่เหล็กนีโอไดเมียมที่ทรงพลัง ให้เสียงที่สมดุลในทุกย่านความถี่ ทั้งเสียงสูง กลาง และต่ำ ทำให้เสียงที่ได้คมชัดและเป็นธรรมชาติ

BASN-Bsinger-Pro-5

การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์

หูฟังของเราได้รับการออกแบบโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านสรีรศาสตร์ ตัวหูฟังถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่ลดทอนคุณภาพเสียง มันจะพอดีกับหูของคุณอย่างสมบูรณ์แบบและมีน้ำหนักที่เบาสบาย

BASN-Bsinger-Pro-6

ขั้วต่อ MMCX

สายหูฟังสามารถถอดเปลี่ยนได้พร้อมกับขั้วต่อ MMCX ที่ช่วยให้เปลี่ยนหรืออัปเกรดสายได้ง่าย ทำให้มีความทนทานมากกว่าหูฟังทั่วไป คุณสามารถอัปเกรดสาย MMCX พื้นฐานเป็นสายที่มีไมโครโฟน สาย MMCX เงิน หรือสาย MMCX แบบไร้สาย Bluetooth ได้ ทำให้หูฟังนี้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโทรแบบแฮนด์ฟรี การฟังเพลงระดับพรีเมียม หรือใช้ในการออกกำลังกาย

BASN-Bsinger-Pro-1

ตะขอเกี่ยวหูที่ปรับได้

ตะขอเกี่ยวหูที่ปรับได้ช่วยให้หูฟังของคุณยึดติดอย่างมั่นคงและพอดีกับหู สวมใส่สบายและไม่หลุดง่าย แม้ในขณะที่มีการเคลื่อนไหวอย่างมากขณะทำการแสดง นักดนตรีหลายคน เช่น มือกลอง นักร้อง และมือกีตาร์ ต่างเลือกใช้หูฟังแบบนี้เป็นหูฟังมอนิเตอร์ระดับพรีเมียม

BASN-Bsinger-Pro-3

สายทนทาน

สายคุณภาพสูงที่ทนต่อการดึงให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น สายถักนุ่มช่วยลดเสียงรบกวนที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดการส่งเสียงผ่านการเคลื่อนไหว (auscultation noise)

BASN-Bsinger-Pro-4

สายแยก

ด้วยสายแยกหูฟังที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ คุณสามารถจัดระเบียบหูฟังได้อย่างง่ายดาย สายแยกนี้ยังช่วยให้ปรับสายให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย

BASN-Bsinger-Pro-2

บรรจุภัณฑ์ & อุปกรณ์เสริม

1 * Bsinger PRO IEMs

6 * คู่จุกหูฟังซิลิโคน

1 * สายไมโครโฟน

1 * สายเสียง OFC

1 * แจ็คสเตอรีโอขนาด 6.3 มม.

1 * กล่องเก็บหูฟัง

1 * คลิปสาย

1 * เครื่องมือทำความสะอาด

1 * คู่มือผู้ใช้

BASN-Bsinger-Pro-8

รายละเอียดคุณสมบัติ : 

รายละเอียดสินค้า

การจัดเรียงดอกขับเสียง: ดอกขับเสียงแบบไดนามิกคู่

ความถี่: 20-20000 Hz

ความไว (ที่ 1k Hz): 101±1 dB

อิมพีแดนซ์ (ที่ 1k Hz): 20±1 Ω

ขั้วต่อ: MMCX

แจ็คสาย: 3.5 มม.


Music Arms