แนะนำกีตาร์โปร่งยอดนิยมในงบ 50,000 บาท ปี 2025

Gibson G-00 กีตาร์ทรง L-00 หรือที่รู้จักกันในทรง Parlor ซึ่งจะเป็นกีตาร์ที่มีขนาดบอดี้ที่เล็กกว่าปกติเล็กน้อย มีความยาวสเกลที่ 24.75 นิ้วจึงเหมาะสำหรับผู้หญิงหรือคนตัวเล็ก มาพร้อมกับ Gibson Player Port เป็นแนวคิดดั้งเดิมของ Gibson จากช่วงต้นทศวรรษ 1960 ที่ได้รับการขัดเกลาโดยทีมงานอะคูสติกเพื่อมอบการปรับปรุงด้านเสียงที่ปฏิวัติวงการอย่างแท้จริงซึ่งเพิ่มมิติใหม่ให้กับเสียง เป็นช่องซาวด์โฮลดฺด้านข้าง ไม้หน้าท็อปโซลิดซิทก้าสปรูซ ส่วนด้านข้างและด้านหลังเป็นไม้วอลนัท ผสมกันลงตัวให้โทนเสียงที่ดีเยี่ยม ทุกรุ่นในคอลเลคชันนี้ ผลิตในโบซแมน รัฐมอนแทนา เรื่องคุณภาพหายห่วงกับแบรนด์นี้ เชื่อว่าโดนใจแน่นอน

Alvarez MG75ce

MG75ce เป็นกีตาร์ Grand Auditorium ที่ทำจากไม้ Cedar/Rosewood แท้รุ่นแรกของเรา ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า—ทำไมเราถึงใช้เวลานานขนาดนี้กว่าจะสร้างกีตาร์รุ่นนี้ขึ้นมา?

การจับคู่ไม้แบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเสียงอบอุ่นของไม้ ซีดาร์ ซึ่งตอบสนองได้ดีเมื่อเล่นด้วยสัมผัสที่อ่อนโยน แต่ในขณะเดียวกัน กีตาร์รุ่นนี้ยังตอบสนองได้ดีเยี่ยมกับการเล่นแบบ Strumming ด้วย และด้วยทรง Grand Auditorium ทำให้เสียงที่ได้มีความ ชัดเจน สมดุล และมีการแยกเสียงที่ยอดเยี่ยม

MG75ce ผลิตจากไม้ Western Red Cedar และ East Indian Rosewood คุณภาพสูงที่ผ่านการคัดสรรด้วยมือ พร้อมเคลือบแบบธรรมชาติที่ไร้ที่ติ ทำให้ได้รูปลักษณ์ที่เรียบหรูและสง่างาม

เช่นเดียวกับรุ่น Masterworks Custom อื่นๆ กีตาร์รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบปิ๊กอัพ LR Baggs HiFi ซึ่งเป็นระบบเซนเซอร์พลังงานตัวใหม่ที่ปฏิวัติวงการ ให้การถ่ายทอดเสียงที่ยอดเยี่ยม คงไว้ซึ่งโทนเสียงที่เป็นธรรมชาติและคาแรกเตอร์อะคูสติกของกีตาร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Yamaha LS-TA ซีรี่ย์ใหม่จากทางยามาฮ่า ที่เพิ่มกระบวนการ A.R.E  (Acoustic Resonance Enhancement) หรือแปลเป็นไทยได้ว่า”ปรับปรุงเสียงสะท้อนแบบอะคูสติค”ให้ดียิ่งขึ้น” เป็นการนำไม้ไปอยู่ในห้องอบผ่านกรรมวิธีควบคุมความชื้นของเนื้อไม้ทำให้ไม้มีคุณภาพเสียงคล้ายคลึงไม้เก่า ให้เสียงที่ก้องกังวานและนุ่มนวลมากกว่าเดิม รุ่นนี้จะได้ไม้หน้าเป็นท็อปโซลิดแองเกิ้ลแมนสปรู๊ซ เป็นไม้เนื้ออ่อนเสียงใส ไวต่อการรับเสียง จึงเหมาะสำหรับเล่นแนวฟิงเกอร์สไตล์

นอกจากไม้หน้าจะเป็นโซลิดแล้ว ส่วนข้างและด้านหลังก็ยังเป็นโซลิดเช่นกันสมกับเป็นกีต้าร์เกรด Hi-end ปิ๊กอัพรุ่น SYSTEM70 TransAcoustic เป็นแบบ Piezo ที่ให้เสียงอะคูสติดเป็นธรรมชาติมีเอฟเฟคในตัวสามารถปรับได้ว่าจะเป็น Reverb แบบ room หรือ hall การดีไซด์ทำออกมาได้เนี๊ยบสมกับเป็นแบรนด์ดัง ทำให้โดยรวมแล้วถือว่ารุ่นนี้ทำออกมาเพื่อคออะคูสติกที่ชอบเสียงก้องกังวานอย่างแท้จริง จัดว่าเป็นกีต้าร์เกรด Hi-end ทั้งเรื่องการดีไซด์และคุณภาพเสียง

Yamaha A5M กีต้าร์ซีรี่ย์ A5 ที่ทำออกมาได้เต็มคุณภาพอย่างแท้จริง บอดี้จะเป็นไม้แท้หรือโซลิดทุกส่วน ไม้หน้าเป็นท็อปโซลิดซิทก้าสปรู๊ซ ที่ขึ้นชื่อเรื่องให้เสียงใส กังวาน จึงมักจะนำไปทำกีต้าร์คลาสสิคหรือแนวฟิงเกอร์สไตล์ เสริมด้านหลังและส่วนข้างด้วยโซลิดมะฮอกกานีเป็นส่วนประกอบ ให้ซาวด์มีมิติที่หนาขึ้น อบไม้ด้วยกรรมวิธี A.R.E ให้ไม้แห้ง เสียงจึงออกมาเหมือนกีต้าร์ที่เก็บไว้นานเสียงนุ่มนวลเกินคาด

จุดเด่นที่ทางซีรี่ย์ A5 ของ Yamaha ออกมาคือปรับคอให้มีการเปิดสายหรือทัชชิ่งจะสูงขึ้น เพื่อให้การเกากีต้าร์และโซโล่เป็นไปอย่างง่ายดายชัดเจนทุกตัวโน๊ตมากขึ้น รวมไปถึงใช้ปิ๊กอัพแบบ SRT system ฝังลงไปในบอดี้กีต้าร์ มีปุ่มกด 4 ปุ่มคือ โวลุ่ม เสียงเบส เสียงแหลม และปุ่ม Blend ให้การใช้งานเป็นไปอย่างง่ายดายและตัวปิ๊กอัพทนทาน จัดว่าเป็นกีต้าร์เกรด Hi-end ที่ทำออกมาได้คุ้มเกินราคาอีกหนึ่งรุ่น

Yamaha A5M กีต้าร์รุ่นใหม่ ไฉไลคุ้มราคา

• ใช้ไม้แบบ A.R.E เสียงดี ไม่ต้องรอไม้แห้ง
• ไม้หน้าท็อปโซลิดซิทก้าสปรู๊ซ เสียงใสในแบบอะคูสติก
• คอไม้มะฮอกกานี 3 ชิ้น แข็งแรงทนทาน
• ลูกบิด Gotoh ล็อคสายหนืด ไม่มีเพี้ยน
• ปิ๊กอัพ SRT2 System 71 ซาวด์ละมุนจนต้องหลงรัก

Yamaha TAG3C

กีตาร์อะคูสติก TransAcoustic

กีตาร์อะคูสติก TransAcoustic เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 เป็นกีตาร์อะคูสติกที่ล้ำสมัย ซึ่งใช้เทคโนโลยี TransAcoustic™ ของ Yamaha ที่ผสมผสานเสียงอะคูสติกแท้กับเทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อเพิ่มคุณสมบัติขั้นสูง สิ่งที่ดีที่สุดคือ กีตาร์ TransAcoustic สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ให้กับการเล่นของคุณได้โดยไม่ต้องใช้แอมป์หรือสายเคเบิลภายนอก—เพียงแค่กีตาร์เอง เสียงสั่นของสายจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งผ่านการประมวลผลเอฟเฟกต์ก่อนส่งไปยังแอคทูเอเตอร์ภายในกีตาร์ การสั่นสะเทือนที่สร้างขึ้นโดยแอคทูเอเตอร์จะถูกส่งไปยังตัวกีตาร์เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ที่ต้องการ เสียงจริงและเสียงที่ผ่านการประมวลผลจะสั่นสะเทือนร่วมกันและแผ่รังสีออกจากภายในตัวกีตาร์เพื่อสร้างเสียงธรรมชาติที่มีเอฟเฟกต์ที่หลากหลาย กีตาร์ TransAcoustic ได้รับการยกย่องว่ามอบประสบการณ์การเล่นกีตาร์อะคูสติกที่ไม่เคยมีมาก่อน

TAG3 C

ในฐานะรุ่นที่สองของสายกีตาร์ TransAcoustic TAG3 C นำเสนอวิวัฒนาการครั้งต่อไปของคุณสมบัติของกีตาร์ TransAcoustic ดั้งเดิม ตัวถัง dreadnought ที่มีคัตอะเวย์เหมาะสำหรับการตีที่ทรงพลังและมีหน้าไม้ Sitka spruce ที่แข็งแรงและด้านหลังและด้านข้างไม้มะฮอกกานีที่แข็งแรง ด้วยแอคทูเอเตอร์ใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม (สองตัวทั้งหมด) กีตาร์ยังมีเอฟเฟกต์คุณภาพสูงยิ่งขึ้นพร้อมกับฟังก์ชันลูปในตัว เอฟเฟกต์ใหม่ Delay ได้รับการเพิ่มเข้ามาใน Reverb และ Chorus ดั้งเดิม สำหรับเอฟเฟกต์ที่มีทั้งหมดสามแบบ ฟังก์ชันลูปกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์โดยให้ผู้เล่นสามารถบันทึกเสียงของตนเองและเล่นซ้ำในลูป ทำให้สามารถเลเยอร์เฟสในขณะที่เล่น ผู้เล่นสามารถใช้แอป TAG Remote เพื่อปรับการส่งออกของเอฟเฟกต์เหล่านี้ ความสามารถใหม่ของ Bluetooth® audio ยังช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์อัจฉริยะและเล่นเสียงผ่านตัวกีตาร์ TAG3 C เป็นเครื่องดนตรีแบบครบวงจรที่ครอบคลุมความกว้างเต็มรูปแบบของกระบวนการสร้างสรรค์ทางดนตรี: การฟัง การเล่น และการสร้างสรรค์

เพิ่มประสบการณ์การเล่นของคุณด้วยเอฟเฟกต์ในตัวสามเอฟเฟกต์

เสียงสั่นของสายจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งผ่านการประมวลผลเอฟเฟกต์ก่อนส่งไปยังแอคทูเอเตอร์ภายในกีตาร์ แอคทูเอเตอร์จะส่งการสั่นสะเทือนเหล่านี้ไปยังตัวกีตาร์เพื่อสร้างเสียงที่เสริมคุณภาพ ทำให้สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ที่แผ่รังสีออกจากตัวกีตาร์ได้โดยไม่ต้องใช้แอมป์หรือลำโพงภายนอก

TAG3 C เป็นกีตาร์ TransAcoustic ตัวแรกที่นำเสนอเอฟเฟกต์ Delay นอกเหนือจาก Chorus และ Reverb ดั้งเดิม รวมเป็นสามเอฟเฟกต์ เพลิดเพลินกับเสียงคุณภาพสูงที่ประณีตสร้างขึ้นโดยแอคทูเอเตอร์สองตัวที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ใช้แอป TAG Remote ที่เฉพาะเจาะจงเพื่อเปลี่ยนประเภทของเอฟเฟกต์และปรับแต่งพารามิเตอร์เอฟเฟกต์เพื่อค้นหาเสียงที่สมบูรณ์แบบสำหรับสไตล์การเล่นของคุณ

ฟังก์ชันลูปช่วยให้บันทึกและเล่นซ้ำได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือภายนอก

ใช้ฟังก์ชันลูปในตัวใหม่เพื่อบันทึกเสียงของคุณเองและเล่นซ้ำในลูป ตัวอย่างเช่น คุณสามารถบันทึกตัวเองกำลังเล่นคอร์ดและตีกลองบนตัวกีตาร์ แล้วลูปกลับในขณะที่คุณเล่นทำนองทับบนนั้นทั้งหมด ปุ่มด้านข้างของกีตาร์และเซ็นเซอร์แตะด้านบนให้การควบคุมที่ใช้งานง่าย ให้ผู้เล่นมีพลังในการสร้างสรรค์อย่างอิสระ เปลี่ยนแปลงแนวคิดให้เป็นเพลงได้อย่างรวดเร็ว แอปเฉพาะเจาะจงสามารถบันทึกวลีที่วนซ้ำได้สูงสุดสิบวลีเพื่อเรียกคืนได้ง่ายเมื่อใดก็ตาม

การเล่นเสียงผ่านตัวกีตาร์โดยใช้ Bluetooth นำเสนอวิธีใหม่ในการเพลิดเพลินกับกีตาร์

TAG3 C เป็นกีตาร์ TransAcoustic ตัวแรกที่มีความสามารถ Bluetooth audio เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เสียงอื่นๆ ของคุณเพื่อใช้ตัวกีตาร์เป็นลำโพงและเพลิดเพลินกับการฟังเสียงที่ยอดเยี่ยม หรือเล่นพร้อมกับเพลงโปรดของคุณราวกับว่าคุณกำลังเข้าร่วมในเซสชั่นแยม เพื่อประสบการณ์การเล่นที่สดใหม่

เสียงอะคูสติกที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์การเล่น ผสานกับการออกแบบที่ซับซ้อน

TAG3 C มีตัวถังแบบ dreadnought เหมาะสำหรับการตีที่ทรงพลัง พร้อมหน้าไม้ Sitka spruce ที่แข็งแรงและด้านหลังและด้านข้างไม้มะฮอกกานีที่แข็งแรง ดีไซน์คัตอะเวย์ให้การเข้าถึงฟรัตด้านบนใกล้ตัวที่ง่ายขึ้นเพื่อความสามารถในการเล่นที่ดีขึ้น ฮาร์ดแวร์สีทองแชมเปญและการอินเลย์อันงดงามรอบ ๆ รูเสียงมีส่วนทำให้การออกแบบที่มีสไตล์ของกีตาร์

ในขณะที่รุ่นก่อนหน้าใช้แบตเตอรี่แห้ง TAG3 C มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จได้พร้อมด้วยการเชื่อมต่อการชาร์จแม่เหล็กสำหรับเสียงที่ใหญ่ขึ้นและเวลาเล่นที่นานขึ้น (สูงสุดห้าชั่วโมงครึ่ง) ตัวถังยังมีเครื่องปรับเสียงในตัว ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถหยิตกีตาร์และเล่นได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเตรียมเครื่องปรับเสียงแบบสแตนด์อโลน เมื่อเชื่อมต่อกับแอมป์ TAG3 C จะเปลี่ยนเป็นกีตาร์อะคูสติก-ไฟฟ้า เหมาะสำหรับใช้ในการแสดงบนเวทีสด

Epiphone 1957 SJ-200 Inspired by Gibson Custom

ราชาแห่งแฟลตท็อป ตัวเลือกของตำนาน

SJ-200 ที่มีชื่อเสียงระดับโลกเป็นที่รู้จักในนาม “ราชาแห่ง Flat-Tops” และเป็นตัวเลือกของตำนานนับไม่ถ้วน ตั้งแต่การร้องเพลงคาวบอยไปจนถึงเพลงคันทรี่ เพลงพื้นบ้าน และเพลงร็อค ไปจนถึงศิลปินยอดนิยมในปัจจุบัน . ตอนนี้ Epiphone ร่วมมือกับ Gibson™ Custom มีความภูมิใจที่จะเปิดตัว SJ-200 รุ่นปี 1957 กีตาร์ที่น่าประทับใจตัวนี้มีท็อปไม้ Sitka Spruce ที่เป็นของแข็งซึ่งทนความร้อนได้ โดยเสริมด้วยโครง X-bracing แบบสแกลลอป ด้านหลังและด้านข้างของกีตาร์ทำจากไม้เมเปิ้ลที่มีรูปทรงแข็ง และคอทำจากไม้เฟลมเมเปิลที่มีโปรไฟล์ C เฟรตบอร์ดแบบลอเรล และฝังมุกแบบ Gradated Crown Mother of Pearl headstock มีรูปทรง “open book” ของ Gibson พร้อมด้วยมงกุฎหอยมุกและการฝังโลโก้ Epiphone และโลโก้เพชรคู่ Inspired by Gibson Custom ที่สลักอยู่ด้านหลัง J-200™ open mustache Bridge อันเป็นเอกลักษณ์และปิ๊กการ์ดแบบแกะสลักก็ปรากฏอยู่เช่นกัน พร้อมด้วยอานกระดูกแบบชดเชย น็อตกระดูก และหมุดกระดูกสะพานกระดูก มันยังมาพร้อมกับ L.R. ปรีแอมป์ Baggs™ VTC และใต้ปิ๊กอัพแบบอาน ดังนั้นจึงพร้อมที่จะร็อคบนเวทีหรือในสตูดิโอทันทีที่คุณนำออกจากเคสแข็ง Inspired by Gibson Custom ที่ให้มาด้วย

Yamaha FGX5 กีต้าร์โปร่งไฟฟ้างานดีแบรนด์ดังที่นักดนตรีทุกคนต่างยกนิ้ว รุ่นนี้ทาง Yamaha เลือกใช้ไม้แท้ทุกส่วนจึงได้ซาวด์ที่นุ่มละมุน และยิ่งนานไปเสียงจะหวานจับใจกว่าเดิม ไม้หน้าเป็นท็อปโซลิดซิทก้าสปรู๊ซ เสียงโทนใสดีเยี่ยม ส่วนอื่นเป็นโซลิดมะฮอกกานี เพิ่มมิตเสียงให้หนายิ่งขึ้น ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว  ภาคไฟฟ้าใช้ของทาง Yamaha เองเป็นรุ่น Yamaha Atmosfeel สามารถปรับ EQ ได้ทั้ง 3 ย่านเสียงและมีจูนเนอร์ตั้งสายในตัว ซาวด์ค่อนข้างใสเป็นธรรมชาติ ตัวเดียวสามารถออกงานได้สบายๆ สเป็คแบบนี้ในราคานี้ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก

Gibson G-200 EC กีตาร์ที่มีจุดเด่นเรื่อง Gibson Player Port เป็นแนวคิดดั้งเดิมของ Gibson จากช่วงต้นทศวรรษ 1960 ที่ได้รับการขัดเกลาโดยทีมงานอะคูสติกนำมาปรับปรุงใหม่ให้ดียิ่งขึ้น โดยเพิ่มผลกระทบทางเสียงให้สูงสุดเพื่อประสบการณ์การเล่นและการฟังที่ดื่มด่ำ G-200 EC เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชัน Generation เช่นเดียวกับทุกรุ่นในคอลเลคชันนี้ ผลิตในโบซแมน รัฐมอนแทนา โดยช่างฝีมือผู้มากความสามารถคนเดียวกับที่ทำระบบเสียง Gibson ทั้งหมด ไม้หน้าท็อปโซลิดซิทก้าสปรูซ ส่วนด้านข้างและด้านหลังเป็นไม้วอลนัท ผสมกันลงตัวให้โทนเสียงที่ดีเยี่ยม ภาคไฟฟ้า LR Baggs Element Bronze ใต้แซดเดิล เสียงใสเป็นธรรมชาติออกงานสบาย ต้องบอกเลยว่ายี่ห้อนี้ไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน