แนะนำ 10 กีตาร์ไฟฟ้างบ 7,000 บาท ปี 2025

Gusta Roadster S325V SSS ดีไซน์คลาสสิก เทคโนโลยีขับเคลื่อนสมรรถนะ

“Gusta Roadster S325V SSS” ถูกตั้งชื่อตามแนวคิดของรถ “Roadster” คลาสสิก นั่นคือการผสมผสานระหว่าง ดีไซน์ที่ไม่มีวันตกยุค และ เทคโนโลยีขับเคลื่อนสมรรถนะ นี่คือกีตาร์ไฟฟ้าที่สร้างขึ้นด้วยรูปทรงมาตรฐานยอดนิยม และวัสดุที่ได้มาตรฐาน เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นที่ตรงไปตรงมาและมั่นคง ด้วย ระบบปิ๊กอัพ SSS Alnico 5 ที่ตอบโจทย์โทนเสียงที่หลากหลาย ตั้งแต่เสียงคลีนใสไปจนถึงเสียงแตกที่คมชัด

ระบบเสียง: SSS Alnico 5 ที่ตอบโจทย์การใช้งาน
หัวใจหลักของรุ่นนี้คือชุดปิ๊กอัพ Single-Coil Alnico 5 จำนวน 3 ตัว (SSS) ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความชัดเจนของโทนเสียงและความสมดุลในการตอบสนอง

• ความยืดหยุ่นของโทน: ปิ๊กอัพ Alnico 5 มีการตอบสนองที่ดีต่อการเล่น มอบเสียงคลีนที่ใสและชัดเจน คุณสามารถเข้าถึงโทนเสียงที่แตกต่างกันได้ง่ายดายผ่าน สวิตช์ 5 ทาง และคอนโทรล 1 Volume, 2 Tone
• ทางเลือกเสียงมาตรฐาน: เหมาะสำหรับการใช้งานในหลายแนวเพลง เช่น Pop, Rock, Funk, และ Blues โดยเฉพาะการสร้างเสียง “Quack Tone” ที่เป็นเอกลักษณ์เมื่อใช้ตำแหน่งผสมปิ๊กอัพ (Position 2 และ 4)

การทำงานของปิ๊กอัพ:

• Position 2 & 4: ให้เสียงที่โปร่งและกังวาน เหมาะสำหรับลายริทึ่มหรือเสียงคอร์ดที่ต้องการความชัดเจน
• Position 1 & 5: ให้พลังเสียงที่ชัดเจน เหมาะสำหรับการเล่นไลน์เมโลดี้และการตีคอร์ดที่หนักแน่น
• Position 3: เสียงจากปิ๊กอัพกลาง (Middle) เพียงตัวเดียว ให้โทนเสียงที่สมดุล ไม่สว่างหรือทุ้มจนเกินไป เหมาะสำหรับลายเล่นเดี่ยว (Solo) ที่ต้องการความชัดเจนและความหนาแน่น

งานออกแบบและการผลิต: ความสบายในการเล่นและวัสดุที่เลือกสรร
Roadster S325V ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้เล่น เพื่อให้คุณสามารถเล่นได้นานขึ้นโดยไม่เมื่อยล้า:

• คอ Maple “Modern C” (เคลือบด้าน): คอไม้ Maple รูปทรง Modern C ที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยและสบายมือ ด้วยการเคลือบแบบ Matte (ด้าน) ช่วยลดแรงเสียดทาน ทำให้การเคลื่อนที่ของมือเป็นไปอย่างราบรื่น
• บอดี้ Roasted Poplar: การใช้ไม้ Poplar ที่ผ่านกระบวนการ Roasted (อบ) ช่วยเพิ่มความเสถียรของไม้และมิติของเสียง ช่วยให้ Sustain ของเสียงมีความต่อเนื่อง
• นัทกระดูก (Bone Nut) และ 22 เฟร็ต Medium-Jumbo: การใช้นัทกระดูกช่วยในการส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนของสายอย่างมีประสิทธิภาพ เฟร็ตขนาด Medium-Jumbo ทั้ง 22 ช่องก็ช่วยให้การเล่นและการดัดสายมีความแม่นยำ และมาพร้อมกับสาย D’Addario EXL 110

รูปลักษณ์และสีสัน: รูปลักษณ์คลาสสิกและตัวเลือกสี
Roadster S325V SSS ยังคงดีไซน์รูปทรงคลาสสิกยอดนิยม พร้อมด้วยองค์ประกอบที่สวยงามและทนทาน:

• องค์ประกอบดีไซน์: ฮาร์ดแวร์โครเมียมทั้งหมด รวมถึงลูกบิด (Tuning Machines) และบริดจ์ 6 Screws Style Tremolo ซึ่งให้เสถียรภาพในการจูนและการใช้งานคันโยก ปิ๊กการ์ด 3 ชั้นสี Parchment เสริมให้รูปลักษณ์ดูสมบูรณ์
•  มีให้เลือก 3 สี Chiffon ,Pine ,Tangerine

Gusta Roadster S325V SSS เป็นกีตาร์ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและเชื่อถือได้ในทุกด้าน มอบโทนเสียง Single-Coil ที่ชัดเจนและการออกแบบที่รองรับการเล่นอย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังมองหากีตาร์ SSS ที่คุ้มค่าและพร้อมสำหรับการใช้งานจริง รุ่นนี้คือตัวเลือกที่คุณควรพิจารณา

KS-30 S.S.H เมื่อทุกแนวเพลงรอคอยเสียงของคุณ
เคยไหมที่ความรู้สึกทางดนตรีไม่ถูกจำกัดด้วยแนวเดียว? นั่นคือแรงบันดาลใจในการสร้าง KS-30 S.S.H กีตาร์ที่เกิดมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไดนามิกที่คุณต้องการ

สัมผัสแรก: ความลงตัวที่คุณตามหา
เมื่อคุณได้หยิบ KS-30 S.S.H ขึ้นมา ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความมั่นคงและสมดุล ตัวบอดี้ทรง KS-C1 ที่โค้งมน ทำจากไม้ Roasted Poplar ที่ผ่านการอบ ทำให้กีตาร์มีน้ำหนักพอดีมือ และมอบโทนเสียงที่มีมิติอย่างน่าประหลาดใจ

แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่คอ: คอและฟิงเกอร์บอร์ดทำจาก Roasted Maple ซึ่งไม่เพียงแต่มีผิวสัมผัสที่เรียบลื่นและทนทานต่อทุกสภาพอากาศเท่านั้น แต่ยังมีรูปทรง C Slim ที่บางเฉียบ (0.8”~0.85”) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อความเร็วและความคล่องตัวสูงสุด นิ้วของคุณจะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระบนรัศมีฟิงเกอร์บอร์ด 9.5 นิ้ว ที่ทันสมัย ช่วยให้การเบนด์สายและการโซโล่ในเฟรตลึก ๆ เป็นเรื่องง่ายดาย

ปลดปล่อยเสียง: จากบทเพลงที่อ่อนโยนสู่พลังที่ดุดัน
KS-30 S.S.H ไม่ใช่แค่กีตาร์ แต่คือพาเล็ตต์เสียงที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการจัดวางปิ๊กอัพแบบ S-S-H มันสามารถเปลี่ยนบุคลิกเสียงได้ในพริบตา

ด้านอ่อนโยน (Single Coil): เมื่อคุณเลือกปิ๊กอัพ YHL Mercury S64E ที่คอและกลาง คุณจะได้รับเสียงที่ใส สะอาด คมชัด และกังวานสมบูรณ์แบบสำหรับการเล่นบลูส์ที่เน้นความรู้สึก หรือริธึมแจ๊สที่ละเอียดอ่อน เสียงคลีนที่ได้ยินจะใสราวกับแก้ว

ด้านทรงพลัง (Humbucker): แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องแสดงพลัง ปิ๊กอัพ YHL Mercury H49E-B ที่บริดจ์จะคำรามด้วยเสียงที่หนา แน่น และมีแรงขับมหาศาล พร้อมลุยในแนวเพลงร็อก เมทัล หรือป็อปที่ต้องการความหนักแน่นและ Sustain ที่ยาวนาน

ความมั่นใจบนทุกเวที
ระบบคันโยกแบบ 2 จุด ที่ใช้ Saddle และ Block จาก Zinc Die Casting ไม่ได้แค่ช่วยเพิ่ม Sustain เท่านั้น แต่ยังรับประกันความเสถียรของการตั้งสาย ให้คุณมั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้คันโยกสร้างสีสันทางดนตรีได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงเพี้ยน

KS-30 S.S.H ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้คุณเลือกแนวเพลง แต่ถูกสร้างมาเพื่อให้คุณเลือกที่จะเป็นตัวของตัวเอง

ถึงเวลาแล้ว ที่คุณจะหยุดตามหากีตาร์ และเริ่มสร้างตำนานเพลงของคุณเอง

Keipro KS-60 S.S.H: กีตาร์สเปคพรีเมียม ลุคหรูหรา พร้อมฟังก์ชัน Coil Split

Keipro KS-60 S.S.H คือกีตาร์ไฟฟ้าที่ถูกยกระดับขึ้นด้วยความหรูหราและสเปคระดับพรีเมียม โดดเด่นด้วยไม้หน้า **Flame Maple** (ลวดลายสวยงาม) ประกบกับบอดี้ **Roasted Poplar** และคอ **Roasted Maple** เพื่อความเสถียรและโทนเสียงที่ยอดเยี่ยม หัวใจของรุ่นนี้คือชุดปิ๊กอัพ YHL Mercury แบบ S.S.H. ที่ได้รับการอัพเกรด พร้อมด้วยฟังก์ชัน **Coil Split** ที่ช่วยให้คุณเปลี่ยนเสียงฮัมบัคเกอร์เป็นซิงเกิลคอยล์ได้ทันที มอบความหลากหลายทางเสียงที่ไม่มีขีดจำกัด

คุณสมบัติเด่น

• ไม้หน้า Flame Maple: เพิ่มความสวยงามหรูหราด้วยลวดลายเปลวเพลิงบนไม้เมเปิล พร้อมทั้งช่วยเสริมความสว่างและความชัดเจนของโทนเสียง
• ฟังก์ชัน Coil Split: สวิตช์ Coil Split ที่ปุ่ม Toggle ทำให้คุณสามารถสลับจากเสียงฮัมบัคเกอร์ที่หนาแน่นเป็นเสียงซิงเกิลคอยล์ที่ใสคมชัดได้ง่ายดาย
• คอและบอดี้ Roasted Wood: คอ Roasted Maple และบอดี้ Roasted Poplar ผ่านกระบวนการอบเพื่อเพิ่มความเสถียรและความกังวานของเสียงอย่างเต็มที่
• รูปทรงคอ C Slim: คอรูปทรง C Slim ที่บางเฉียบ (0.8”~0.85”) และรัศมีฟิงเกอร์บอร์ด 9.5” มอบประสบการณ์การเล่นที่รวดเร็วและสบายมือสูงสุด

สรุป: ยกระดับการเล่นด้วย Keipro KS-60

Keipro KS-60 S.S.H ไม่เพียงแต่ดูดีด้วยไม้หน้า Flame Maple แต่ยังให้โทนเสียงและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์มือกีตาร์ยุคใหม่ได้อย่างครบถ้วน ฟังก์ชัน Coil Split และการเลือกใช้ไม้ Roasted ทำให้กีตาร์รุ่นนี้เป็นเครื่องดนตรีที่ทนทาน มีความเสถียร และให้เสียงที่หลากหลายเกินราคาที่แนะนำ หากคุณกำลังมองหากีตาร์ S.S.H. ที่มีลุคพรีเมียมและยืดหยุ่นทางเสียง Keipro KS-60 คือตัวเลือกที่ต้องพิจารณา!

กีต้าร์ไฟฟ้า Gusta GLP-03 กีต้าร์ที่จะมายกระดับความเป็นพรีเมี่ยมให้ Gusta ทรง Les Paul มากขึ้น รุ่นนี้บอดี้จะเป็นไม้มะฮอกกานีปะหน้าด้วยไม้เมเปิ้ล เพิ่มมิติเสียงมากขึ้น คอไม้มะฮอกกานี ไม้ทั้งหมดจะได้ซาวด์ในแบบ Les Paul เต็มๆ งานอะไหล่อัพเกรดหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นนัทที่ใช้วัสดุ ABS รวมถึงลูกบิดของ Kluson ล็อคสายได้แน่นหนา สายไม่เพี้ยนรุ่นนี้จะให้ปิ๊กอัพมาเป็นแบบ Humbucker 2 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นรุ่น Gusta Modern ซาวด์จะมีความทันสมัย เหมาะกับเล่นเพลงทุกแนว ตอบโจทย์คนที่ต้องการกีต้าร์ที่เล่นได้กว้างๆ ปุ่มควบคุม 2 Volume 2 Tone แยกกันในแต่ละปิ๊กอัพ ลูกบิดเป็นสีทองสวยงาม ถือเป็นอีกรุ่นที่ทำออกมาตอบโจทย์สาวก Les Paul ได้ดีกับงานที่เนี้ยบขึ้นโดยไม่ทิ้งคาแร็คเตอร์เสียงที่สุดยอดเช่นเคย

SGR by Schecter Banshee-6 กีตาร์ไฟฟ้างานคุณภาพราคาเบาๆจากแบรนด์ลูกของ Schecter รุ่นนี้บอดี้จะเป็นไม้เบสวูด คอเมเปิลและฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูด ให้โทนเสียงที่ชัดเจนในทุกๆย่านเสียง แปลกตาด้วยอินเลย์ลายจุดแต่ทำสลับอยู่ที่ด้านล่างและด้านบนของเฟรต ทรงคอทำแบบบางเพื่อให้มือกีต้าร์เล่นได้สบายมือมากขึ้น ขุมพลังเสียงเป็นปิ๊กอัพ Schecter Diamond Plus 2 ตำแหน่ง ซาวด์ดุดันเล่นร็อคได้สะใจ ใครมองหากีตาร์สวยๆราคาไม่แรง มาลองรุ่นนี้เชื่อว่าต้องชอบ

Squier Mini  เป็นรุ่น 2 ที่ออกมาในปีล่าสุด สำหรับแบรนด์ Squier จะรู้กันดีว่าเป็นบริษัทลูก Fender งานเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหัดเล่นเพราะราคาเบาๆจับต้องได้ วัสดุไม้สอบผ่านบอดี้ป็อปลาร์ คอเมเปิ้ล ฟิงเกอร์บอร์ดอินเดียนลอเรล ได้ปิ๊กอัพ Standard Single-coil 3 ตัว เล่นได้กว้างๆ

จุดเด่น

• บอดี้เล็ก เล่นง่าย
• ราคาเบาๆ มือใหม่ซื้อสบาย
• ปิ๊กอัพสแตนดาร์ด เสียงกว้าง เล่นได้ทุกแนว
• แบรนด์กีต้าร์ชื่อถือได้

เหมาะสำหรับ

• ผู้เริ่มเล่นที่มองหากีต้าร์ราคาเบาๆ แบรนด์มาตรฐาน
• ผู้ที่กำลังมองหากีต้าร์ซ้อมมือ
• นักดนตรีที่รูปร่างเล็ก

Epiphone Les Paul Special Satin E1 งานในสไตล์วินเทจพร้อมบอดี้น้ำหนักเบาที่ทำจากไม้ป็อปลาร์ มาในทรงคลาสสิกแบบเดียวกันกับ Les Pauls ทั้งหมด คอเป็นไม้มะฮอกกานีซึ่งจะเคลือบบอดี้แบบด้านให้ดูสวยงาม คอทำทรง 60 แบบ Slim เล่นง่าย สำหรับรุ่นนี้จะให้ปิ๊กอัพมาสองตำแหน่งเป็นรุ่น 650R และ 700T ซึ่งซาวด์จะค่อนข้างกว้างตอบโจทย์ดนตรีทุกแนว สวิตช์เลือกปิ๊กอัพ 3 ทาง ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดเป็นโลหะสวนงาม นอกจากนี้ โลโก้รุ่น “2016” จะอยู่ที่ด้านหลังของส่วนหัว ออกแบบจัดเต็มมาแบบนี้ แต่ราคาย่อมเยาจนผู้เริ่มต้นสามารถเป็นเจ้าของกันได้ไม่ยาก