เลิกงงกันได้แล้ว! คอร์ดที่มี “/” เค้าเล่นกันแบบนี้

คอร์ดที่มี / เค้าเล่นกันยังไงน้า

น่าจะเคยเจอกันมาบ้าง อย่างคอร์ด C/B อะไรทำนองนี้
มันจะต้องเล่นคอร์ด C เอ๊ะ หรือว่าเล่น B หรือจัดมันทั้งสองคอร์ดพร้อมๆกัน ?

12

วันนี้เราจะมาเฉลยให้ฟัง

คอร์ดที่มี / เช่น C/B C/E G/B ทั้งหลายพวกนี้ มีชื่อเรียกว่า Slash Chord ‘คอร์ดสแลช’
ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับ Slash มือกีต้าร์ Guns ‘n Roses ใดๆทั้งสิ้น 😛

ต้องมารู้กันก่อนว่าคอร์ดเกิดจากการเรียงของโน้ตหลาย ๆ ตัวพร้อม ๆ กัน ดังนั้นทุกครั้งที่เราจับคอร์ดจะต้องมี
” โน้ต ที่มีเสียงต่ำที่สุดในคอร์ด หรือก็คือโน้ตที่อยู่ตามสายบน ๆ ของกีต้าร์นั่นเอง เราเรียกว่า ‘โน้ตเบส’ ”

การเขียนว่า C/B อย่างนี้เป็นต้น คือ การบอกว่า จับคอร์ด C โดยให้โน้ตต่ำสุด(โน้ตเบส) เป็นโน้ต B นั่นเอง

การจะจัยคอร์ดประเภทนี้ได้ถูกต้อง จะต้องรู้ว่า โน้ตบนคอกีต้าร์มีอะไรบ้างนั่นเอง ยกตัวอย่าง C/B จะต้องจับ
e–0–
b–1–
g–0–
d–2–
a–2–
E–x–

จะเห็นว่าที่สาย 5 เราจะกดเฟรต 2 แทนที่จะเป็น 3 อย่างในคอร์ด C ทั่ว ๆ ไป
โดยเฟรต 2 สาย 5 คือโน้ต B

มาชมอีกตัวอย่าง คอร์ด C/G
e–0–
b–1–
g–0–
d–2–
a–3–
E–3–

เราเพิ่มโน้ตที่เฟรต 3 สาย 6 เข้าไป ซึ่งเป็นโน้ต G

มาถึงตรงนี้ มือใหม่ อาจจะงง หรือตัดพ้อเอาว่า ‘โอ้ย ก็ฉันจำโน้ตบนคอไม่ได้นี่นา งั้นเลิกเล่นเพลงนี้ไปเลยละกัน คอร์ดยาก…’

โนวววว ในดนตรีเรามีการประนีประนอมเสมอนาจาา ซึ่งก็คือ

เลิกสนใจ โน้ตเบส ไปซะ!
อย่าง C/B หรือ C/G ก็เล่นแค่ C, G/B ก็แค่ G ก็พอ ตรงนี้ก็พอกล้อมแกล้มไปได้

หรือ ถ้าคุณมีวงเล่น
ก็ให้มือเบสเป็นคนกด โน้ตเบส แทน

วันนี้ก็จบไปกับคอร์ด / ซึ่งไม่ได้ยากเลย แต่ต้องรู้จักโน้ตบนคอกีต้าร์เท่านั้นเอง ถ้าใครอยากจะให้เป๊ะ ๆ ก็ลองจำโน้ตบนคอ แล้วกดกันให้ถูกต้องดูกันเนอะ

ขอขอบคุณภาพจาก guitarnoise.com

5 ขั้นตอนทำซาวด์ Psychedelic ด้วย Gibson SG

ดนตรีแนว Psychedelic เป็นแนวดนตรีที่เกิดในช่วงยุค 60 ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์การใช้สารเสพติดอย่างกัญชา มาตีความให้อยู่ในรูปของประสบการณ์ทางดนตรี เป็นแนวดนตรีที่นักดนตรีสมัยนี้หันกลับมาทำกันอยู่บ่อย ๆ

ซึ่งถ้าอยากจะทำซาวด์อย่างศิลปินดังที่เค้านำซาวด์ไซคะเดลิคกลับมาทำใหม่ ควรมองหาตัวอย่างระดับบรมครูมาศึกษา ซึ่งก็นะ คงหนีไม่พ้น Eric Clapton มือกีต้าร์พระกาฬในช่วงฟอร์มวง Cream ไปไม่ได้

Clapton ในสมัยนั้นถือเป็นแนวหน้าในดนตรีไซคะเดลิคเลยทีเดียวถึงขนาดที่ว่า Gibson SG ของเขาที่ชื่อ ‘The Fool’ กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของดนตรีแนวนี้ไปเลย

เสียง SG ของ Clapton มีชื่อเรียกกันว่า ‘Woman Tone’ หรือ ‘สำเนียงสาว’ ที่แม้จะออกแป๋นๆ แต่ก็มีทึบทึมในตัว เป็นเอกลักษณ์เอามากๆ

sg faded 2016 T

sg faded 2016 T

เรามาลองดูขั้นตอนการทำเสียงสไตล์นี้ดู
1. ใช้สวิทช์ Pickup ตรงกลาง

2. หมุนปุ่มโทนทั้งสองให้ต่ำสุด

3. Volume ของ Pickup สะพานอยู่ที่ 6-7 ส่วน Pickup คอ เปิดให้สุด

4. ใช้หัวแอมป์ Marshall เปิดโทนทุกตัวสุดหมด

จุดนี้เราจะได้ซาวด์คล้ายๆ Clapton แล้ว เราอาจจะเพิ่มความไซคะเดลิคเข้าไปได้อีก

5. โรยหน้าด้วยเอฟเฟค Tremolo หรือ Reverb ด้วย

ถ้าใครมี SG อยู่แล้วคงได้ซาวด์ออกมาใกล้เคียงเลย แต่ใครจะลองกับกีต้าร์ตัวอื่นก็ไม่ว่ากัน

นี่คงพอจะเป็นไอเดียเล็กๆ ให้เอาไปทดลองกันต่อ เผื่อจะได้ซาวด์ไซคะเดลิคแบบของตัวเองกันบ้าง
ขอขอบคุณเว็บไซต์ Gibson และ Dave Hunter

จะซื้อกลองไฟฟ้าสักชุด? มาลองดูวิธีเลือกซื้อกันหน่อยไหม

‘ช่วงปี70 กลองไฟฟ้าถือเป็นเครื่องดนตรีที่ล้ำยุคสมัยเกินไป’

ในตอนแรกที่กลองไฟฟ้าถูกประดิษฐ์ขึ้นมานั้น เนื่องจากความเซนซิทีฟที่มากเกินไป เทคโนโลยีเท่าที่มี ณ ตอนนั้นยังคงทำให้มันใช้เล่นและควบคุมได้ยาก
กลองไฟฟ้าปรากฏต่อหน้าวงการบันทึกเสียงครั้งแรก ตอนที่ Graeme Edge มือกลองวง Moody Blues นำสิ่งประดิษฐ์นี้ของเขาไปเล่นในเพลง Procession ในปี 1971
เขาให้สัมภาษณ์หลังจากนั้นว่า ‘ตอนที่ใช้เล่น กลองไฟฟ้าทำหน้าที่มันได้เจ๋งไปเลย แต่มันล้ำสมัยเกินไป…’

วงดนตรี The Moody Blues

วงดนตรี The Moody Blues (ภาพจาก Wikipedia.org)

แต่ตอนนี้ร่วมเข้าไป 40 ปีแล้ว กลองไฟฟ้าสมัยนี้ก็ดีกว่าสมัยแต่ก่อนมาก
ปัญหาก็คือทุกยี่ห้อมันก็ทำท่าว่าจะดีเหมือนกันไปหมด แล้วรุ่นไหนล่ะที่จะเรียกว่าพอดีสำหรับเราๆ วันนี้ทางเราขอเสนอ ‘ก่อนจะตัดสินใจซื้อกลองไฟฟ้าสักชุด ต้องดูอะไรบ้าง?’ ซึ่งในตอนแรก เรามาดูเทคนิคการเลือกกลองไฟฟ้าจากรูปลักษณ์ภายนอกกันก่อน

>> สินค้ายี่ห้อนี้ขึ้นชื่อเรื่องความคงทนไหม?
นอกจากจะหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตแล้ว ทริคเล็กๆน้อยอีกข้อก็คือ ลองสังเกตจากตัวโชว์ที่อยู่ตามร้าน(ถ้ามี) ตัวโชว์จะค่อนข้างผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านมือคนนับไม่ถ้วน ถ้าสังเกตแล้วว่าไร้รอยขีดข่วน แสดงว่ากลองยี่ห้อนี่ผ่านหลักสูตรเรื่องความคงทนมาแล้วแน่นอน

>> ใช้แป้น(pad)หรือหนังมุ้ง(mesh head)ดี?
แน่นอนว่าแป้นจะมีราคาถูกกว่า แต่ถ้าไม่นับประเด็นเรื่องราคาแล้วละก็

ชนิด แป้น หนังมุ้ง
ข้อดี ขนาดเล็กพกพาง่าย ให้เสียงแน่นอนเหมือนเดิมตลอด สัมผัสคล้ายกลองจริง ตอบรับย่านเสียงมากกว่า จูนหนังกลองได้
เหมาะกับ ออกนอกสถานที่บ่อย
งานอัดลูปกลอง
งานดนตรีจริงจัง เล่นสด จะเห็นว่าแป้นและหนังมุ้งมีวิธีใช้งานคนละแบบ อย่าลืมเลือกแบบที่เหมาะกับเราด้วย

>> โมดูลกลองมีดีอะไรบ้าง?
โมดูลเปรียบสมอง ของกลองไฟฟ้า ทันทีที่รับสัญญานตีจากคนเล่น ระบบจะรับสัญญานและแปลงออกมาเป็นเสียง ถือเป็นตัววัดคุณภาพของกลองไฟฟ้าชุดๆนึงเลยทีเดียว โมดูลดีๆก็ให้เสียงที่ดีมีคุณภาพ และสิ่งที่ควรคำนึงถึงต่อมามากที่สุด คือฟังก์ชันที่ติดมาให้ เช่น สามารถexportบันทึกการเล่นของเราได้ ยิ่งรุ่นดีๆ นอกจากจะเปลี่ยนโทนเสียงเครื่องตีแต่ละชิ้นได้แล้ว ยังสามารถอัพโหลดชุดเสียงของเราเองเข้าไปได้ด้วย
เรื่องโมดูลนี้ ต้องเลือกให้เหมาะกับความพอดีของเราว่าจะใช้ในเชิงไหน เพราะว่ายิ่งโมดูลฟังก์ชันเยอะราคาก็ยิ่งแพงนั่นเอง

>> แล้วเวลาแฝง(Latency)ล่ะ?
นี่เป็นประเด็นที่มักไม่กล่าวถึงเท่าไหร่ เวลาเรื่องซื้อกลองไฟฟ้าตามร้าน เวลาแฝงแปลง่ายๆ ก็คือ ‘ดีเลย์’ ดีๆนี่เอง เวลาแฝงคือเวลาในช่วงทั้งหมดตั้งแต่ตัวรับสัญญาน รับสัญญาน ส่งผ่านไปที่โมดูล โมดูลแปลงออกมาเป็นเสียง โดยทั่วไปกินเวลาในหลักมิลลิวินาที ซึ่งกลองไฟฟ้าที่ดีต้องมีเวลาแฝงน้อยๆ เราสามารถลองเช็คเวลาแฝงได้ด้วยการลองตีลงไปแล้วฟังเสียงที่ออกมา ถ้ารู้สึกว่ามันดีเลย์นิดๆ ก็ควรจะเก็บกลองไฟฟ้าชุดนั้นเอาไว้เป็นตัวเลือกท้ายๆจะดีกว่า

roland td-15k v drums

roland td-15k v drums

เป็นไงบ้าง หลักการเลือกซื้อกลองไฟฟ้าง่ายๆ สั้นๆ ก็จบแต่เพียงเท่านี้ บางเรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้ว แต่ถ้าบางเรื่องเป็นเรื่องใหม่ก็คงเป็นเรื่องดีสำหรับชาวเราที่คิดหาซื้อกลองไฟฟ้าอยู่แน่ๆ ขอให้พบรักกับกลองไฟฟ้าดีๆ, นะ 😉

หากเพื่อนๆ สนใจกลองไฟฟ้าเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่

4 เหตุผล ทำไมมือกีต้าร์ต้องหัดจากกีต้าร์โปร่งก่อน

Keith Richards มือกีต้าร์วง The Rolling Stones เคยให้สัมภาษณ์ว่า

“อยากจะบอกไว้เลย ว่ากีต้าร์โปร่งน่ะสำคัญสุดๆสำหรับมือกีต้าร์ช่วงหัดเล่น เรียนรู้ความรู้สึกและสัมผัสของสายที่กระทบเฟร็ตซะ เรียนรู้ความรู้สึกนั้น แล้วค่อยคิดหาเอฟเฟคมาใส่ทีหลัง ใครจะเป็นมือกีต้าร์ ฐานต้องแน่น
ก็คล้ายๆกะประมาณว่า…อย่างนักบินอวกาศน่ะไม่ได้ไปอยู่ในอวกาศแต่แรก มันต้องเริ่มจากมียานอวกาศซะก่อน…”

ฟังคำพูดจากคนดังๆ ก็สงสัยเหมือนกันแน่ๆ เห็นเขาอวยว่าโปร่งมันดีอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วมันดียังไง?

keith-richards

Keith Richards (มือกีต้าร์วง The Rolling Stones)

ทางเราได้รวบรวมเหตุผลดีๆ 4 ข้อ ที่จะมาสนับสนุนว่าทำไมเริ่มเล่นจากกีต้าร์โปร่งน่ะเป็นพื้นฐานของกีต้าร์ไม่ว่าแนวไหนๆ

1. ฝึกพลังนิ้วช่วงแรกๆ
กีต้าร์โปร่งมี Action ที่สูงกว่าไฟฟ้า หรือก็คือกดได้ยากกว่านั่นเอง ดังนั้นช่วงแรกๆ อาจจะรู้สึกว่ากดยาก กดแล้วบอด แต่นั่นจะช่วยฝึกพลังนิ้วให้แข็งแรงไปเอง

2. สร้างสไตล์ส่วนตัว ในดนตรีของคุณ
การที่ไม่ต้องไปสนใจกับแอมป์หรือเอฟเฟคใดๆ ทำให้ต้องโฟกัสไปที่ตัวเสียงเพียวๆเท่านั้น โปร่งให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติ ตอบรับกับน้ำหนักมือ ทำให้มือกีต้าร์ช่วงแรกๆอยู่กับรายละเอียดในการเล่นของตัวเอง และนั่นจะพัฒนาไปเป็นสไตล์เฉพาะตัวของแต่ละคน

3. อารมณ์มันพาไป กลายเป็นศิลปินไม่รู้ตัว
ไม่มีใครแบกกีต้าร์ไฟฟ้าไปเล่นตามชายทะเล หรือพกไปเที่ยวทริปต่างๆถูกไหม เวลาไปนอกสถานที่ทีนึง ก็จะหยิบโปร่งมาเล่นนี่แหละง่ายดี บรรยากาศดีๆเล่นไปร้องไป เผลอๆอาจจะได้เพลงใหม่ไม่รู้ตัว

4. แบ่งปันดนตรีให้เพื่อนๆ ได้ง่ายๆ
เพราะว่าการไปเที่ยวขาดนักดนตรีเอนเตอร์เทนไม่ได้หรอก ใครที่เล่นกีต้าร์เป็น ก็จะเล่นให้หมู่คณะผองเพื่อนฟัง และนั่นก็เป็นโอกาสที่ดีจะได้แบ่งปันดนตรีของเรา การได้เล่นแล้วมีคนสนุกไปกับเรา ก็ทำให้มีกำลังใจอยากเล่นต่อไปเรื่อยๆแน่นอนอยู่แล้ว

Mantic-AM1C-Natural

Mantic-AM1C-Natural

ที่จริง เหตุผลทั้ง 4 ไม่ได้จำเป็นแค่มือกีต้าร์หัดเล่นหรอกนะ บางครั้งเล่นไปนานๆก็อาจอยากหวนกลับมา ‘มองมุมเดิม ความรู้สึกเก่าๆ’ การกลับมาสู่พื้นฐานอาจทำให้เราพัฒนาตัวเองโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ

 

ขอขอบคุณเว็บไซต์ guitarhabits, takelessons และ Youtube ช่องชาแนล Noisey

มารู้จัก Sigma โปร่งคุณภาพสะเทือนวงการ

ในสมัยนี้เวลาเรานึกถึงของก็อบเรามักจะพูดถึงจีนแดง แต่ย้อนไปเมื่อปี 1960-1970 ญี่ปุ่นเหมือนจะเป็นรุ่นบุกเบิกในการทำของเลียนแบบ โดยกีต้าร์แบรนด์ Sigma ก็คือหนึ่งในนั้น แต่ที่ผิดกันกะแบรนด์ลอกเลียนแบบทั่วๆไปก็คือ Sigma …

กีต้าร์ sigma dme

กีต้าร์ sigma dme

… ยังเคยทำให้แบรนด์คลาสสิคอย่าง Martin รู้สึกหนาวมาแล้ว! เพราะว่าด้วยรูปทรงที่คล้ายกัน ราคาถูกกว่าและคุณภาพเกินราคา ตลาดกีต้าร์ในสมัยนั้น แทบจะตกเป็นของแบรนด์ญี่ปุ่นแบรนด์นี้ไปเลย
แน่นอนว่า Martin ไม่มีทางนิ่งนอนใจแน่ๆ ในเมื่อสู้กันด้วยวิธีทางการตลาดไม่ได้…

ก็ใช้เงินซื้อ Sigma ทั้งบริษัทมันซะเลย!

ชี้ให้เห็นว่า ถ้าของเขาไม่ดีจริง แบรนด์ยักษ์ๆอย่าง Martin คงแทบจะไม่ต้องกระดิกนิ้วด้วยซ้ำ
นั่นทำให้ Sigma กลายเป็นลูกเชื่องๆในวงศาคณาญาติของ Martin ไปโดยปริยาย คล้ายๆกับ Squier ของ Fender หรือ Epiphone ของ Gibson นั่นแหละ

การอยู่ใต้โอวาสของ Martin ทำให้ Sigma รุ่นต้นฉบับกลายเป็นตำนานไปด้วย เพราะเป็นของหายากชวนสะสม ประหนึ่งพระสมเด็จยังไงยังงั้นเลยทีเดียว

ส่วนกีต้าร์ไลน์ Sigma ในฐานะเครือของ Martin ต้องขอบอกว่าน่าเสียดายมาก เพราะปัจจุบันได้ยุติการผลิตไปแล้ว

แต่บริษัทจากเยอรมันได้ซื้อกิจการ และชุบชีวิต Sigma ขึ้นมาอีกครั้ง ให้คนหันมาสัมผัสกีต้าร์ที่มีประวัติแบรนด์นี้อีกสักครั้ง

สำหรับผู้เริ่มเล่นหรือคนงบน้อยทั้งหลาย Sigma ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี เว็บไซต์อย่าง Musicradar ยก Sigma OMR-21 เป็นหนึ่งในกีต้าร์ที่ดีและคุ้มค่าที่สุดตัวหนึ่งที่เดียว

นอกจากนี้นักวิจารณ์เครื่องดนตรีมักจะลงความเห็นคล้ายๆกันใน Sigma ว่า “คุณภาพเกินตัว” หรือไม่ก็ “Martin ในฉบับย่อมเยา”

สำหรับใครที่กำลังมองหากีต้าร์โปร่งราคาเบาๆ และเสียงดีเกินราคา Sigma น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าลอง ไว้ว่างๆ ก็มาลองที่ร้าน Musicarms ของเราได้นะครับ มีหลายรุ่นให้เลือกลอง ^^

sigma-gmc-ste-solid spruce top

sigma-gmc-ste-solid spruce top