แหวน ฐิติมา
ร็อคเกอร์สาวยุคแรกของประเทศไทย เกิดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2505 ช่วงที่ศึกษาอยู่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้าประกวดร้องเพลงมณเฑียรทอง และได้รับรางวัลชนะเลิศ จึงได้ร้องเพลงประจำอยู่ที่โรงแรมมณเฑียรให้กับวงโอเรียลเต็ลฟังค์ของ เรวัต พุทธินันทน์ เป็นสาเหตุให้ทั้งคู่รู้จักกันก่อนที่ เต๋อ เรวัต จะชักชวนให้เป็นศิลปินในสังกัดแกรมมี่ลำดับที่ 4 ต่อจาก แพทย์หญิงพันทิวา, เต๋อ เรวัต และ ตู่ นันทิดา ออกอัลบั้มแรกชื่อชุด ฉันเป็นฉันเอง ในปี 2527 ทำยอดขายได้ถึง 2 แสน 8 หมื่นตลับ ต่อด้วยชุด เรามีเรา ในปี 2529 ก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 5 แสนตลับ โดยอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดของเธอคือชุดที่ 4 สัญญิงสัญญา ทำได้ถึง 9 แสนตลับ แหวน ฐิติมา ออกสตูดิโออัลบั้มกับแกรมมี่ทั้งหมด 9 ชุด และอัลบั้มพิเศษอีก 12 ชุด มีเพลงฮิตมากมายเช่น เรามีเรา ฟ้ายังมีฝน และ อาจจะเป็นคนนี้ โดยยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นแขกรับเชิญคนแรกในคอนเสิร์ตของเบิร์ด ธงไชยอีกด้วย น่าเสียดายที่ แหวน ฐิติมา ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านม จนเมื่อมีนาคม ปี 2560 เชื้อมะเร็งได้ลามไปถึงกระดูกเชิงกรานทำให้ป่วยหนักและร่างกายทรุด และเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.15 น. ที่โรงพยาบาลศิริราช ขณะมีอายุ 54 ปี

โจ้ อัมรินทร์
อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ หรือ โจ้ เป็นชาวจังหวัดอุทัยธานี เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2514 เข้าร่วมเวทีประกวดดนตรีเยาวชนชิงถ้วยพระราชทานโค้กมิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 4 เมื่อปี พ.ศ. 2536 ใช้เพลง อย่าหยุดยั้ง ของวง ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์ และเพลง Carrie ของวง Europe จนคว้ารางวัลชนะเลิศ หลังจากจบการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ก็ได้มาพบ นอ นรเทพ, เอ พลกฤษณ์ และ บอส-นิรุจ รวมตัวกันตั้งวงพอสขึ้นมาและเซ็นสัญญากับค่ายเบเกอรี่มิวสิค ออกอัลบั้มแรก Push (Me) Again ในปี 2539 มีเพลงอมตะที่ยังคงความนิยมมาจนถึงปัจจุบันอย่าง ที่ว่าง โจ้มีผลงานกับวงพอสทั้งหมด 3 อัลบั้ม และผลงานเดี่ยวชื่อชุด Simply Me เป็นการนำเพลงเก่ามาขับร้องใหม่อีก 1 อัลบั้ม สร้างเพลงฮิตไปทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นเพลง รักเธอทั้งหมดของหัวใจ และเพลง ข้อความ ก่อนที่ช่วงกลางดึกวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 จะมีผู้พบ โจ้ เสียชีวิตภายในลิฟต์ที่ ซี-วันแมนชั่น ซ.สุขุมวิท 50 มีบาดแผลกระสุนปืนบริเวณขมับขวา 1 นัดซึ่งผลการชันสูตรพบว่าเกิดจากการฆ่าตัวตาย  ปิดตำนานนักร้องนำวงพอสในช่วงกำลังรุ่งเรืองถึงขีดสุดด้วยวัย 30 ปีเท่านั้น

เรวัต พุทธินันทน์
เรวัต พุทธินันทน์ หรือ เต๋อ เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2491 เป็นคนจังหวัดกรุงเทพ เริ่มเล่นดนตรีมาตั้งแต่อายุ 11 ปี ในสมัยที่เรียนอยู่นั้นก็ตั้งวงกับเพื่อนๆเข้าประกวดตามเวทีต่างๆ เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ได้ตั้งวงชื่อ The Thanks แสดงตามงานต่างๆ หนึ่งในเพื่อนร่วมวงคือ กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา หรือ จ๊อด แห่งวงกัมปะนี ตอนนั้นจ๊อดได้เล่นควบสองวงทั้ง The Thanks และวงดิอิมพอสซิเบิ้ลเล่นตามไนท์คลับ หลังจบการศึกษาจ๊อดจึงชวนเต๋อเข้าร่วมวงดิอิมพอสซิเบิ้ลในตำแหน่งนักร้องนำและคีย์บอร์ด ทำให้เต่อได้โลดแล่นในวงการดนตรีตั้งแต่ขณะนั้น พ.ศ. 2526 เต๋อก็รวมตัวกับเพื่อนที่จุฬาฯ คือ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ก่อตั้งบริษัทแกรมมี่ขึ้นมา และเป็นสิลปินเบอร์ 2 ของค่ายต่อจาก แพทย์หญิงพันทิวา เต๋อออกสตูดิโออัลบั้มมาทั้งหมด 4 ชุด สร้างเพลงฮิตมากมาย อาทิเช่น เจ้าสาวที่กลัวฝน, ดอกไม้พลาสติก และ ยิ่งสูงยิ่งหนาว ก่อนที่ช่วงหลังจะผันตัวมาเป็นโปรดิวเซอร์เสียส่วนใหญ่ เต๋อ เรวัต  ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งจากการตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 6 ซม. ในสมอง จึงได้เดินทางไปรักษาตัวที่สหรัฐอเมริกา ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2539 รวมอายุ 48 ปี

พุ่มพวง ดวงจันทร์
พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีชื่อเล่นว่า ผึ้ง เกิดเมื่อ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504 ชื่อจริงคือ รำพึง จิตรหาญ เป็นชาวจังหวัดชัยนาท เกิดในครอบครัวที่ยากจนไม่ได้เรียนหนังสือแต่ก็มีความจำดีเยี่ยม เธอเริ่มหัดร้องเพลงและเข้าประกวดตามงานต่าง ๆ ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนมาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตเมื่อไวพจน์ เพชรสุพรรณ นำวงดนตรีมาแสดงที่วัดทับกระดาน เธอได้ร่วมร้องเพลงและแสดงความสามารถจนไวพจน์เห็นแววและเกิดความเมตตา จึงรับเป็นบุตรบุญธรรมรวมถึงพาไปอยู่กรุงเทพฯ ทำให้ผึ้งได้โอกาสทำเพลงโดยมีครูเพลงลูกทุ่งชื่อดัง มนต์ เมืองเหนือ ตั้งชื่อในวงการให้ว่า พุ่มพวง ดวงจันทร์ ออกอัลบั้มมาถึง 14 ชุดในช่วงเวลาแค่ 10 ปีตั้งแต่พ.ศ. 2525-2535 สร้างเพลงดังประดับวงการไว้มากมายเช่นเพลง ตั๊กแตนผูกโบว์, อื้อฮือหล่อจัง, สาวนาสั่งแฟน และ หนูไม่รู้ แต่โชคร้ายเมื่อตรวจพบว่าเธอป่วยด้วยโรคเอสแอลอีหรือโรคแพ้ภูมิตัวเองอาการขั้นรุนแรงลุกลามถึงไต แม้ว่าจะทำการรักษาทั้งทางวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ แต่เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ก็เกิดอาการช็อกหมดสติ ญาตินำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช และถึงแก่กรรมอย่างสงบเมื่อเวลา 20.55 น. ขณะมีอายุได้แค่ 30 ปีเท่านั้น

อิทธิ พลางกูร
อิทธิ พลางกูร หรือชื่อจริงว่า เอกชัยวัฒน์ พลางกูร เป็นน้องชายของ อุกฤษฏ์ พลางกูร สมาชิกวงบัตเตอร์ฟลาย อิทธิฉายแววนักดนตรีมาตั้งแต่ยังเด็ก เข้าสู่วงการด้วยการเป็นมือกีต้าร์วง เดอะ เบลส์ โดยในวงมีสมาชิกชื่อดังอย่าง สุรสีห์ อิทธิกุล ในตำแหน่งมือเบส และไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว (ปั่น) เป็นนักร้องนำ เล่นตามไนท์คลับและโรงแรมต่างๆ หลังจากยุบวง เดอะ เบลส์ ที่มีอายุถึง 8 ปี อิทธิได้ไปทำงานเบื้องหลังเป็นซาวด์เอ็นจิเนียร์และโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินหลายรายอยู่พักใหญ่ๆจนได้รับการชักชวนจาก สุรชัย เชษฐ์โชติศักดิ์ เจ้าของบริษัทอาร์เอส ให้ออกอัลบั้มชุดแรกในพ.ศ. 2531 ชื่อชุด ให้มันแล้วไป เพียงแค่อัลบั้มแรกก็ประสบความสำเร็จสุดขีดสามารถทำยอดขายได้เกิน 7 แสนตลับ มีเพลงฮิตอย่าง ให้มันแล้วไป และ เก็บตะวัน ยุครุ่งเรืองของอิทธิเรียกได้ว่าออกอัลบั้มแทบทุกปี เพราะอัลบั้มที่ 2 ชุดไปต่อไป จนถึงอัลบั้มที่ 5 อิทธิ 5 กำลัง D ออกในปี พ.ศ.2532-2536 หรือ 4 อัลบั้มใน 5 ปีเท่านั้น ส่งเพลงดังเข้าสู่วงการมากมายไม่ว่าจะเป็นเพลง เราสามคน หรือเพลง ทรมาน จนกระทั่งปีพ.ศ. 2545 ก็มีข่าวร้ายเมื่ออิทธิประกาศว่าเป็นมะเร็งขั้นรุนแรง เจ้าตัวจึงได้ทำอัลบั้มสุดท้ายชุด เวลาที่เหลืออยู่ ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอาการมะเร็งลุกลามในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2547 ปิดตำนานศิลปินร็อคแถวหน้าเมืองไทยในวัย 49 ปี

ประชาธิป มุสิกพงศ์
สิงห์ ประชาธิป มุสิกพงศ์ มือกีต้าร์ฝีมือดีหนึ่งในสองสมาชิกหลักของวง Sqweez Animal เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2527 เป็นบุตรชายของ วีระกานต์ มุสิกพงศ์ นักการเมืองชื่อดัง เริ่มสนใจดนตรีตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดยมีวงดนตรีโมเดิร์นด็อกเป็นแรงบันดาลใจ จนพี่ชายคือ แชมป์ วีรพัฒน์ มุสิกพงศ์ ได้แนะนำให้รู้จักกับ วิน ศิริพงศ์ เนื่องจากทั้งสิงห์และวินมีความสนใจแนวดนตรีเดียวกัน พวกเขาจึงร่วมกันตั้งวงและออกซิงเกิลเพลง อาจยังไม่สาย กับ ฉันไม่เหงา โดยเมื่อบันทึกเสร็จ ก็นำออกวางจำหน่ายในงานแฟตเฟสติวัลครั้งที่ 4 พร้อมทั้งส่งเดโมให้กับแฟตเรดิโอและนำซีดีเพลงไปเสนอกับค่ายเพลงต่าง ๆ จนกระทั่งค่ายสไปซีดิสก์ให้ความสนใจ วง Sqweez Animal ออกอัลบั้มกับค่ายสไปซีดิสก์ 2 ชุด คืออัลบั้ม อาจยังไม่สาย และ ไม่มีที่มา มีเพลงฮิตอย่าง คำบางคำ, พรุ่งนี้ที่ดีกว่า และ จะรักดีไหม ในขณะที่กำลังรุ่งเรืองกับเส้นทางดนตรีนั้น ก็มีข่าวเศร้าเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2558 มีผู้พบศพ สิงห์ ประชาธิป พลัดตกจากอาคารเสียชีวิตที่คอนโดมิเนียม ทองหล่อ ซอย 5 ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยวัยเพียงแค่ 31 ปีเท่านั้น

ปีย์ชนิตถ์ อ้นอารี
ปีย์ชนิตถ์ อ้นอารี มีชื่อเล่นว่า ปีย์ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524 ที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เข้าวงการบันเทิงมาจากการถ่าบแบบและเล่นโฆษณาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปีย์ได้รู้จักกับ บ๋อม-สุวาทิน (กลอง) และ โน้ต นันทไกร (กีต้าร์) ในโฆษณาเครื่องดื่มโค้ก ด้วยความรักในเสียงดนตรีจึงรวมตัวฟอร์มวงขึ้นมา ก่อนที่จะได้สมาชิกใหม่มาเพิ่มอีก 2 คน คือ ปั๊บ พัฒน์ชัย (กีต้าร์) และ และ นุช อรนุช (เบส) และโฆษณานี้ก็ได้ไปเข้าตาทางแกรมมี่จึงเรียกมาสกรีนเทสต์ จนกำเนิดวงโปเตโต้กับอัลบั้มแรกชื่อเดียวกับวงเมื่อปี 2544 ในลุควงที่คล้าย J-Pop มีความเป็นญี่ปุ่นสูง มีเพลงดังอย่าง ทำนองที่หายไป, เร็วมาก และ คนดีไม่มีที่อยู่ แต่ออกได้แค่ชุดเดียวทางวงก็พบข่าวช็อคเมื่อพบศพปีย์ในห้องน้ำที่บ้านพักของตนเอง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2545 โดยสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรขณะผู้ตายอาบน้ำ หรืออาจเกิดจากการที่หัวใจวายเนื่องจากผู้ตายป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว ในขณะมีอายุเพียงแค่ 21 ปี ทำให้อัลบั้มหลังๆปั๊ปกลายเป็นนักร้องนำอย่างเต็มตัว

บิ๊ก ดีทูบี
ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ มีชื่อเดิมว่า อภิเชษฐ์ กิตติกรเจริญ หรือ บิ๊ก เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2525 เข้าวงการด้วยการประกวดร้องเพลงในโครงการ Panasonic Star Challenge ใช้เพลง งมเข็มในทะเล ของ โดม ปกรณ์ ลัม ในการประกวด และมีผลงานถ่ายแบบกับถ่ายโฆษณาประปรายก่อนจะมาเป็นหนึ่งในสมาชิกวงดีทูบีสังกัด RS  ออกอัลบั้มมาทั้งหมด 3 ชุด รวมไปถึงมีคอนเสิร์ตใหญ่ถึง 3 ครั้ง สร้างปรากฏการณ์เป็นวงบอยแบนด์ที่ดังที่สุดแห่งยุค มีเพลงฮิตมากมายไม่ว่าจะเป็น ซ่าส์ (สั่นๆ), คนใจอ่อน (อ่อนใจ) และ หึง ขณะที่ดีทูบีกำลังโด่งดังถึงขีดสุด บิ๊กประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์ส่วนตัวตกคูน้ำเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ซึ่งบิ๊กมีอาการน้ำครำท่วมปอดช่วงแรกการรักษาเป็นไปได้ด้วยดี เมื่อบิ๊กรู้สึกตัวสามารถทักทายแฟนเพลงได้อีกครั้ง ก่อนกลายเป็นฝันร้ายเมื่ออาการกลับโคม่าเฉียบพลัน แพทย์ตรวจพบเชื้อราในสมองทำให้กลายเป็นเจ้าชายนิทรา จนวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2550 บิ๊ก ดีทูบี ก็จากไปอย่างสงบด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดทางปอด หลังเป็นเจ้าชายนิทราจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ถึง 4 ปีและหลังฉลองวันเกิดครบรอบ 25 ปีของเจ้าตัวได้ไม่นาน

เปิ้ล ทีโบน
ธรรมนูญ ทัศโน หรือ เปิ้ล ทีโบน ศิลปินแนวเร็กเก้ยุคบุกเบิกของเมืองไทย เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2510 เป็นสมาชิกวงทีโบนตั้งแต่ยุคก่อตั้งกับเพื่อนสมาชิกอีก 8 คน รวมตัวกันเล่นร้านบลูมูนและแซ็คโซโฟน จนฝีมือไปเข้าตา ประภาส ชลศรานนท์ จึงชักชวนวงทีโบนให้มาทำอัลบั้ม มีผลงานชุดแรกเมื่อปี พ.ศ. 2535 ชื่อชุด จังหวะนี้ใจดีเข้ากระดูกดำ มีเพลงฮิตอย่าง เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม ที่เปิ้ลเป็นผู้ขับร้อง และเพลงอื่นๆอย่าง แรงดึงดูด หรือ พิภพมัจจุราช แจ้งเกิดในวงการดนตรีได้ทันที เปิ้ลออกผลงานกับวงมา 3 ชุดก็ได้รับการทาบทามให้ไปเป็นพระเอกภาพยนตร์เรื่อง กลิ่นสีและทีแปรง ด้วยลุคที่ดูติสต์ๆทรงผมบ็อบมาเล่ย์และดูหล่อที่สุดในวง ทีโบน ในช่วงเวลานั้นวงทีโบนกำลังได้รับความนิยมเป็นวงกว้างทั้งเรื่องดนตรีและการแสดง แต่เรื่องนี้ยังไม่ทันได้เข้าฉายก็เกิดข่าวเศร้าเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2539 เปิ้ลเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในวัย 29 ปีเท่านั้น ก่อนภาพยนตร์ฉายเพียง 3 เดือนและอยู่ในระหว่างการตัดต่อ ทำให้เสียงบทสนทนาของ บางรัก ตัวละครนำที่เปิ้ลเล่นในเรื่องถูกแทนด้วยเสียงของ หนุ่ม ทีโบน เพื่อนร่วมวงเนื่องจากมีน้ำเสียงพูดคล้ายกัน

สุรพล สมบัติเจริญ
สุรพล สมบัติเจริญ มีชื่อจริงว่า ลำดวน สมบัติเจริญ เป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2473 รักการร้องเพลงมาตั้งแต่ยังเล็ก แม้ว่าจะไม่ได้เรียนร้องเพลงอย่างที่หวังเพราะคุณพ่ออยากให้รับราชการตามครอบครัว แต่โชคชะตาก็พาสุรพลไปเป็นนักร้องอย่างเหลือเชื่อ หลังจบการศึกษาชั้นมัธยมก็ได้สมัครเรียนจ่าพยาบาล สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ แต่เจ้าตัวหนีออกไปร้องเพลงยามค่ำคืนอยู่บ่อยครั้งจนได้รับโทษถูกคุมขัง ทำให้ชะตาชีวิตพลิกผันกลายเป็นขวัญใจของนักโทษด้วยการร้องเพลง เมื่อได้รับอิสรภาพน้ำเสียงของเขาโดนใจเรืออากาศเอก ปราโมทย์ วัณณะพงษ์ จึงได้เข้าไปรับราชการประจำกองกองดุริยางค์ทหารอากาศและปี 2496 ก็บันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกชื่อเพลง ชูชกสองกุมาร หลังจากไปเปิดในสถานีวิทยุกระจายเสียงก็ได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้สุรพล สมบัติเจริญได้ทำเพลงอย่างต่อเนื่องและมีเพลงโด่งดังมากมายไม่ว่าจะเป็น สิบหกปีแห่งความหลัง, เป็นโสดทำไม, หัวใจผมว่าง และ สุรพลมาแล้ว ได้รับการยอมรับว่าเป็นราชาเพลงลูกทุ่งทั้งแต่งเพลงเองขับร้องเอง แต่น่าเสียดายที่ต้องจบชีวิตด้วยวัยเพียงแค่ 37 ปี เมื่อถูกลอบยิงหลังการแสดงที่จังหวัดนครปฐมในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2511 สร้างความโสกเศร้าครั้งใหญ่ให้กับวงการเพลงลูกทุ่งไทย

โมเดิร์นด็อก
นี่คือศิลปินร็อคเบอร์แรกจากค่ายนี้ตั้งแต่ยุคก่อตั้งในช่วงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟกำลังเฟื่องฟู และวงโมเดิร์นด็อกก็เปรียบเหมือนหัวหมู่ทะลวงฟันจนทำให้คอเพลงรู้จักกับค่ายเบเกอรี่ มิวสิคมากขึ้น ปัจจุบันวงประกอบด้วย 3 สมาชิก ป็อด (ร้องนำ), เมธี (กีต้าร์) และ โป้ง (กลอง) โดยมี บ็อบ เป็นอดีตมือเบสในสองชุดแรก ก่อนจะไปใช้บริการ ก้อ วงกรูฟไรเดอร์ และ ป็อก วงซีล เป็นมือเบสรับเชิญแทนในงานชุดหลัง ทางวงเข้าค่ายเบเกอรี่จากการชนะเลิศเวทีโค้กมิวสิกอวอร์ด ประจำปี พ.ศ. 2535 แค่อัลบั้มเปิดตัวชื่อชุดเสริมสุขภาพในปี 2537 ก็ทำให้คนฮือฮากับเพลง บุษบา และ ก่อน จนกลายเป็นผู้นำเทรนด์อัลเทอร์เนทีฟไปโดยปริยาย วงโมเดิร์นด็อกทำเพลงกับค่ายเบเกอรี่มาทั้งหมด 6 อัลบั้ม และยังมีผลงานพิเศษเป็นการแจมศิลปินอื่นๆอีกมากมายจนเป็นตำนานของค่าย มีเพลงดังมากมายไม่ว่าจะเป็น บุษบา, ก่อน, ติ๋ม และ รูปไม่หล่อ ล่าสุดก็เพิ่งมีคอนเสิร์ตใหญ่ฉลองครบรอบ 22 ปีของวงไปไม่นาน

Pause
วงที่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มนักศึกษาภาควิชาดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สามคน ประกอบไปด้วย เอ พลกฤษณ์ (กีต้าร์), นอ นรเทพ (เบส), บอส นิรุจ (กลอง) ก่อนจะได้ โจ้ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ นักร้องนำเสียงดีที่ชนะการประกวด โค้ก มิวสิก อวอร์ดปี 2536 เข้าร่วมวง วงพอสถูกชักชวนเข้าค่ายเบเกอรี่จากการไปเล่นโชว์ในงานของคลื่นวิทยุเพลงร็อค “ไพเรทเรดิโอ” ที่ฮาร์ดร็อคคาเฟ่ จนได้โอกาสทำอัลบั้มแรกของตนเองเมื่อปี 2539 ชื่อชุด Push (Me) Again อัลบั้มชุดนี้มีทั้งเพลงหนักจนไปถึงเพลงฟังสบาย สามารถแจ้งเกิดในวงการได้สำเร็จมีเพลงดังมากมายอย่าง ยื้อ, ที่ว่าง และ ไม่มีแล้ว ทำให้ผู้คนรู้จักวงพอสกับเสียงร้องอมตะอันเป็นเอกลักษณ์ของ โจ้ หลังจากนั้นก้ได้ทำเพลงมาอีก 2 อัลบั้ม จนเกิดเหตุเศร้าเมื่อวันที่ 20 กพ. 2545 ก็มีข่าวช็อคแฟนเพลงเมื่อพบศพ โจ้ วงพอส ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เป็นเหตุให้วงพอสได้ยุบตัวลงในวันเดียวกันนี้ แต่ปัจจุบันกลับมารวมตัวกันอีกครั้งโดยมี เฟ้นท์ ประภาพ ตันเจริญ รับหน้าที่ร้องนำแทน

พรู
วงรุ่นใหญ่ของพี่น้องเจ้าของค่ายเพลงอย่าง สุกี้ กมล สุโกศล แคลปป์ ที่จับเอาน้องชายตนเองอย่าง น้อย กฤษฎา สุโกศล แคลปป์ มาเป็นนักร้องนำด้วยลีลาไม่เหมือนใคร ทำให้ลีลาการแสดงสดของวงพรูบนเวทีเป็นที่กล่าวขวัญมาก กับการเต้นประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแจ๊สหรือบัลเลต์เข้ามาใส่ไว้ในบทเพลง พรูออกอัลบั้มแรกเมื่อปี 2544 มีสมาชิก 4 คน คือสองพี่น้องสุโกศลและยังมี ยอด ยอดเถา (เบส) และ คณิน คณินญาน (กลอง) ช่วงแรกนั้นโดนกระแสค่อนแคะมากพอสมควรเนื่องจากหลายคนคิดว่าเป็นแค่ความต้องการเจ้าของค่ายที่อยากมีผลงานตัวเองซักชุด แต่พอเวลาผ่านไปวงพรูกลับลบคำสบประมาทนั้นได้หมด มีเพลงฮิตไปทั้งประเทศอย่าง ทุกสิ่ง, ยังรอคอยเธอเสมอ และ Romeo & Juliet ได้รับการยอมรับในเรื่องดนตรีที่หนักแน่นและการแสดงสุดมันส์บนเวทีคอนเสิร์ต จนก้าวมาเป็นหนึ่งในวงร็อคระดับประเทศในที่สุด

เครสเชนโด้
วงที่เริ่มจาก นอ นรเทพ อดีตมือเบสวงพอสที่ต้องการฟอร์มวงหลังจากการเสียชีวิตของโจ้ นักร้องนำวงเก่า จึงได้รวบรวมนักดนตรีฝีมือจากหลากหลายวง ไม่ว่าจะเป็น เอก เอกพงศ์ อดีตมือกลองจากวงซีเปีย ,จั๋ง ธีรพงษ์ มือเพอร์คัสชั่นที่เคยมีผลงานร่วมกับโยคีเพลย์บอยมาก่อน , บี พีระพัฒน์ อดีตนักร้องนำจากวง “อาร์อาร์อาร์แอนด์บี” และ แชมป์ ชินพัฒน์ มือกีต้าร์ที่มีประสบการณ์ทางดนตรีไม่น้อยเช่นกัน มารวมตัวกันเป็นวงเครสเชนโด้ เป็นศัพท์ทางด้านดนตรีในภาษาอิตาเลียน ที่มีความหมายว่า “ค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ” ก่อนหน้าที่จะเข้ามาอยู่กับค่ายเบเกอรี่นั้นได้ทำอัลบั้มของตัวเองเป็น EP 2 ชุดและได้โอกาสจากทางเบเกอรี่ให้ออกอัลบั้มเต็มชื่อชุด Crescendo เมื่อปี 2547 ในแนวดนตรีป็อปร็อค มีเพลงฮิตอย่าง โลกหมุนด้วยความรัก, ความจริงในใจ แต่แค่ชุดเดียว บี พีรพัฒน์ก็ขอออกจากวงเนื่องจากไปทำเพลงเดี่ยว ทางวงจึงได้เปลี่ยนนักร้องมาเรื่อยๆ วงเครสเชนโด้มีผลงานกับค่ายเบเกอรี่ทั้งหมด 5 ชุด ปัจจุบันก็เพิ่งออกอัลบั้ม อัตตวิถี เมื่อปี 2558 แต่ทำเพลงกับค่ายอิสระ

ฟลัวร์ (Flure)
วงที่เริ่มจาก เท็ดดี้ (กีต้าร์), วิ (กีต้าร์) และ เอิร์ธ (กลอง) สามเพื่อนสนิทจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้ตั้งวงด้วยกันเพื่อทำเพลงเสนอตามค่ายต่างๆ ในช่วงแรกนั้นเท็ดดี้รับหน้าที่มือเบสในวง มีนักร้องนำเป็นคนฝรั่งเศสซึ่งเป็นเพื่อนของเท็ดดี้ เดโมเพลงที่พวกเขานำเสนอค่ายเบเกอรี่มิวสิคครั้งแรกจึงเป็นเพลงภาษาอังกฤษทั้งหมด แม้ว่าในครั้งแรกจะโดนปฏิเศธแต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อทำเพลงมาเสนออีกครั้งโดยครั้งที่ 2 นั้นเป็นเพลงภาษาไทยซึ่งเท็ดดี้รับหน้าที่ร้องนำและเล่นกีต้าร์ มี อ้น มาเล่นเบสให้ รอบที่ 2 นี้พวกเขาออดิชั่นผ่าน แต่ในภายหลังทางสุกี้ได้แนะนำให้ทางวงหานักร้องใหม่ ซึ่งทางวงก็ได้ทำการค้นหาและออดิชั่นนักร้อง และได้ คิว สุวีระ อดีตสมาชิกวงบีไฟว์เป็นนักร้อง จึงออกอัลบั้มแรกกับค่ายเบเกอรี่เมื่อปี 2545 ชื่ออัลบั้ม Flure มีเพลงดังอย่าง “เปลี่ยน” และ “เรื่องเดียว” ถือเป็นวงร็อคน้องใหม่ที่น่าจับตามองเพราะมีกลิ่นอายดนตรีต่างประเทศค่อนข้างมาก จนมาถึงอัลบั้มที่ 2 Vanilla เมื่อปี 2548 ก็โด่งดังไปทั่วประเทศกับเพลง “ฤดูที่ฉันเหงา” และ “คนที่รออยู่” จนได้รับรางวัลมากมาย น่าเสียดายที่อัลบั้มที่ 3 Tales เมื่อปี 2550 จะค่อนข้างเงียบ ทำให้พวกเขาพักงานยาวมาเกือบ 10 ปี

กรู๊ฟไรเดอร์
วงดนตรีแนวดิสโก้ฟังค์ที่เริ่มจาก ก้อ ณฐพล อดีตมือเบสวงพีโอพีเป็นผู้รวมตัวและก่อตั้งวง โดยได้ชักชวนเพื่อนสนิท มาตร มาตรชัย (กลอง), กั้ง อดิศักดิ์ (กีต้าร์ ) และ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ รับหน้าที่ร้องนำ ด้วยความที่ก้อเป็นโปรดิวเซอรืเบื้อหลังให้กับศิลปินต่างๆในสังกัดเบเกอรี่ ทางวงกรู๊ฟไรเดอร์จึงทำงานเพลงได้อย่างราบรื่น ออกอัลบั้มแรกชื่อชุด Discovery เมื่อปี 2543 มีเพลงฮิตอย่าง “รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป”,”ฮอร์โมน” และ “อย่าให้ฉันรักคนเดียว” ถือเป็นวงที่เปิดดนตรีแนวดิสโก้ให้กับวงการเพลงไทย งานชุดแรกกระแสตอบรับดีมากจึงทำอัลบั้มพิเศษ Discovery2 เพิ่มเพลง 4 เพลง ซึ่ง 1 ในนั้นคือเพลง “หยุด” ที่ยังคงความอมตะโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ น่าเสียดายที่ทางวงออกอัลบั้มกับค่ายเบเกอรี่ได้แค่ชุดเดียวก็ย้ายไปอยู่ค่ายสไปซี่ดิส ก่อนจะประกาศยุบวงเมื่อปี 2553 โดยบุรินทร์กับไปทำงานส่วนตัวนั่งแท่นผู้บริหารโตโยต้าและมีผลงานในวงการเป็นระยะ ส่วนก้อนั้นกลับไปฟอร์มวงพีโอพีเช่นเดิม

Tea For Three
วงดนตรีแนวป็อปกับสมาชิก 3 คนคือ หมู นิวัฒน์, หลน วรุณ และ ผี ศุภวัฒน์ ตอนแรกพวกเขาทำเพลงกันเองขายเป็นซิงเกิล คือเพลง ลมหนาว กับ ใช่ฉันหรือเปล่า ก่อนที่จะได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับเบเกอรี่มิวสิกในเวลาถัดมา ถือเป็นสิลปินยุคแรกๆของค่ายเบเกอรี่ ทางวงได้แรงบันดาลใจมาจากวงแกรนด์เอ็กซ์และปั่น ไพบูลเกียรติ แนวเพลงจึงเป็นแบบ Easy Listening อัลบั้มแรกที่ออกกับค่ายเบเกอรี่ชื่อชุด “Base On The True Story” เมื่อปี 2539 มีเพลงฮิตอย่าง ลมหนาว ที่กลายเป็นเพลงดังตลอดกาลของวงนี้ เพลงนี้เล่นเปียโน แต่งทำนอง และเรียบเรียงโดย เบิร์ด กิติกร อดีตศิลปินค่ายคีตา ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ทางวงออกผลงานกับค่ายเบเกอรี่มา 3 ชุดคือ ชุดที่ 2 Clear และชุดที่ 3 Three สร้างเพลงฮิตติดหูคนฟังากมายอย่าง ใช่ฉันหรือเปล่า และ ผู้ชายในเงาจันทร์ ก่อนจะย้ายไปอยู่ค่ายสไปซีดิส และเมื่อปี 2550 ก็มีข่าวร้ายเมื่อ ผี ศุภวัฒน์ หนึ่งในสมาชิกของวงเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ทำให้วง Tea For Three ยุติผลงานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

Soul After Six
หนึ่งในวงดนตรีแนวโซลยุคแรกๆของเมืองไทยที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลัง เกิดจาก 3 หนุ่มผู้หลงใหลในดนตรีโซล ปึ่ง (เปียโน,ร้องนำ), ปิงปอง (เปียโน,กลอง) และบิ๊ก (เบส) โดยชื่อวงมาจากการนัดซ้อมดนตรีหลังเวลา 6 โมงเย็น ช่วงแรกฟอร์มวงในฐานะศิลปินอิสระ ก่อนจะได้มาร่วมงานกับค่าย เบเกอรี่มิวสิก ในปี 2539 มีอัลบั้มแรกชื่อชุด Soul After Six แจ้งเกิดทันทีกับเพลง ก้อนหินละเมอ ทีเปิดท่อนอินโทรเพลงด้วยไลน์เบสอันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีเพลงฮิต “รู้” และ “รอ…คงเพียงพอ” ก่อนจะทำอัลบั้มชุดที่ 2 ในปี 2545 ชื่อชุด The Rhythm แต่งานเพลงชุดนี้กระแสความนิยมไม่ดีเท่าไหร่ แม้จะออกอัลบั้มพิเศษ Mellow Moods ที่หยิบเอาเพลงเก่ามาทำใหม่ในปี 2546 ก็ไม่มีอัลบั้มไหนกระแสดีเท่าชุดแรก พวกเขาจึงแยกย้ายกันไปทำงานส่วนตัวและงานเบื้องหลัง โดยมี บิ๊ก ศรุต มือเบสที่คุ้นหน้าคุ้นตากับงานละครทางโทรทัศน์

พีโอพี
พีโอพี (P.O.P มาจาก Period of Party) เริ่มตั้งวงโดยมีสมาชิก 3 คนคือ นภ พรชำนิ (ร้องนำ), โต้ง มณเฑียร (กีต้าร์) และ ก้อ ณฐพล (เบส) ช่วงที่ส่งเดโมมายังค่ายเบเกอรี่นั้นใช้ชื่อวง TNK ย่อมาจาก โต้ง, นภ และ ก้อ ซึ่งเรียงตามความสูงของแต่ละคน ก่อนจะเปลี่ยนเป็น P.O.P ช่วงแรกนั้นออกมินิอัลบั้มมาชิมลางก่อนชื่อชุด Era ในปี 2541ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างเหลือเชื่อ มีเพลงดังอย่าง รักของเธอมีจริงหรือเปล่า และ ไม่มี ทางค่ายจึงให้โอกาสทำอัลบั้มเต็มชื่อชุด Party of the Period ในปีต่อมาก็มีเพลงดังอย่าง ดอกไม้ และ หมื่นพันแสนล้าน กลายเป็นวงป็อปยอดขายแถวหน้าของค่ายทันที ทางเบเกอรี่จึงให้วงทำอัลบั้ม P.O.P, Time For Me and You และ In The Room ในปี 2543 ปีเดียวกันทั้ง 3 อัลบั้ม ส่งเพลงฮิต เวลา, ยอม และ ทำไม่ไหว ติดหูคนฟังทั่วประเทศ ก่อนที่ทางวงจะขอพักงานโดย นภ ไปออกอัลบั้มเดี่ยว และ ก้อไปทำวง กรูฟไรเดอร์ ล่าสุดกลับมารวมตัวกันอีกครั้งภายใต้สังกัดเลิฟอีส เพิ่มสมาชิกอีก 2 คนคือ เจอรี่ 2 มือกีต้าร์จากวง Days Ago Kids และ สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ หรือ Mr.Z มือมิกซ์ชื่อดังเข้าร่วมว