ProCo RAT ตำนานเสียงแตกที่สร้างประวัติศาสตร์ร็อกแอนด์โรล
ProCo RAT เสียงคำรามในตำนานที่จารึกประวัติศาสตร์ร็อกแอนด์โรลมาตั้งแต่ยุค 70s ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้มันยังคงเป็นที่ต้องการของมือกีตาร์หลายคนจนถึงปัจจุบัน
ประวัติความเป็นมาของ ProCo RAT
ในโลกแห่งเสียงดนตรีที่ขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณขบถของร็อกแอนด์โรล มีเอฟเฟกต์เพียงไม่กี่ชิ้นที่ยืนหยัดข้ามผ่านกาลเวลา และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยได้อย่างแท้จริง ProCo RAT คือหนึ่งในนั้น มันไม่ใช่แค่กล่องโลหะที่สร้างเสียงแตก แต่มันคือตำนานที่ถูกหล่อหลอมขึ้นจากความบังเอิญ เสียงคำรามของมันได้กรีดลึกเข้าไปในหน้าประวัติศาสตร์ดนตรีตั้งแต่ยุค 70s และด้วยมนต์เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อเสียงที่หยาบกร้านแต่ทรงพลัง ทำให้ “หนู” ตัวนี้ยังคงเป็นที่ปรารถนาของมือกีตาร์ทั่วโลกจวบจนปัจจุบัน
กำเนิดจากความบังเอิญในห้องใต้ดิน
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในมุมอับของห้องใต้ดินช่วงกลางยุค 1970s ณ บริษัท ProCo วิศวกรสองนาม Scott Burnham และ Steve Kyes กำลังง่วนอยู่กับการซ่อมแซมเอฟเฟกต์ Fuzz ตัวหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นตะกั่วบัดกรีนั้นเอง โชคชะตาก็ได้เล่นตลก ในชั่วขณะแห่งความไม่ตั้งใจ Scott Burnham ได้หยิบ Op-Amp ผิดตัว มาบัดกรีลงบนแผงวงจร

Scott Burnham

Steve Kyes
แต่แทนที่จะเกิดความเสียหาย สิ่งที่ระเบิดออกมาจากลำโพงกลับเป็นเสียงแตกแบบใหม่ที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน มันคือเสียงที่ทั้งดุดัน ทรงพลัง และเต็มไปด้วยคาแรคเตอร์ มันไม่ใช่ความผิดพลาด แต่คือการค้นพบโดยบังเอิญที่กำลังจะเปลี่ยนโลกแห่งเสียงกีตาร์ไปตลอดกาล และด้วยต้นกำเนิดในห้องใต้ดินที่มักเป็นที่อยู่ของเหล่าหนู เอฟเฟกต์ตัวนี้จึงถูกขนานนามว่า “The Rat” (หนู) ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่ถือกำเนิดในที่ต่ำต้อย แต่สุดท้ายกลับแพร่พันธุ์และแทรกซึมเข้าไปอยู่ใน Pedalboard ของมือกีตาร์แทบทุกบ้าน

Bud Box
กลไกการสร้างเสียงแตก: Hard Clipping vs. Soft Clipping
- อุปกรณ์เสียงจะมีสิ่งที่เรียกว่า “Headroom” ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่สัญญาณเสียงจะถูกขยายได้โดยไม่ผิดเพี้ยน เมื่อสัญญาณถูกเร่งจนเกิน Headroom จะเกิดการ “Clipping” หรือการตัดหัวสัญญาณ ทำให้เกิดเสียงแตก
- Soft Clipping: มักจะใช้กับเอฟเฟกต์ Overdrive ให้เสียงแตกที่นุ่มนวลกว่า
- Hard Clipping: มักจะใช้กับเอฟเฟกต์ Distortion ให้เสียงแตกที่ดุดันและคมชัดกว่า ProCo RAT เป็นตัวอย่างคลาสสิกของ Hard Clipping Distortion
เหตุผลที่ ProCo RAT ได้รับความนิยมอย่างสูง
- ตอบโจทย์ยุคสมัย: ในช่วงปลายยุค 1970s แอมป์กีตาร์ที่ให้ Gain สูงๆ ยังมีน้อย แอมป์ส่วนใหญ่จะให้เสียงแตกในระดับ Crunch (เช่น Deep Purple, Scorpions) ส่วนเอฟเฟกต์ Fuzz (เช่น Jimi Hendrix) ก็มีคาแรคเตอร์ที่ “บี้” และค่อนข้างเฉพาะทาง
- เสียงที่เป็นเอกลักษณ์: RAT เสนอ “ทางเลือกใหม่” ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Overdrive และ Fuzz มันให้ Gain ที่มากกว่า Overdrive แต่ไม่บี้เท่า Fuzz มีความคมชัดและดุดัน ทำให้มือกีตาร์ในยุคนั้นสามารถสร้างสรรค์ซาวด์ Hard Rock และ Metal ยุคแรกได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
มือกีตาร์ระดับตำนานที่ใช้ ProCo RAT
- ศิลปินยุค 70s/ต้น 80s: Jeff Beck, David Gilmour, Joe Perry, John Scofield
- ศิลปินยุค 80s และปัจจุบัน: Metallica (ใช้ในบางอัลบั้ม), Nuno Bettencourt (Extreme) ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการใช้ RAT มาอย่างสม่ำเสมอจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของซาวด์กีตาร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา
- ศิลปินยุค 90s และ Alternative: Kurt Cobain (Nirvana) (มักใช้ร่วมกับ Boss DS-1), Dave Grohl (Foo Fighters)
การควบคุมและโทนเสียงที่หลากหลายของ ProCo RAT
- ปุ่มควบคุม:
- Distortion: ปรับปริมาณ Gain หรือความแตกของเสียง
- Filter: ปุ่ม EQ ที่ทำงานแบบย้อนกลับ หมุน ตามเข็มนาฬิกาจะตัดเสียงแหลมออก ทำให้เสียงอุ่นขึ้น ในขณะที่หมุน ทวนเข็มนาฬิกาจะเพิ่มเสียงแหลม ให้เสียงคมชัดและสว่างขึ้น
- Volume: ปรับระดับความดังของเอาต์พุต
- ความหลากหลายของโทนเสียง:
- Overdrive: สามารถทำได้โดยการปรับ Distortion ในระดับต่ำและใช้ Filter ตัดเสียงแหลมลง
- Fuzz: สามารถทำได้โดยการปรับ Distortion สูงสุด และปรับ Filter เพื่อให้ได้ความคมชัดที่เหมาะสมกับคาแรคเตอร์ Fuzz ที่ “บี้”
- Distortion หลัก: ให้เสียงที่ชัดเจน คม พุ่ง และมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวที่แตกต่างจาก High-Gain สมัยใหม่
- Boost สำหรับ High-Gain: เมื่อใช้ RAT บูสต์แอมป์ที่กำลังแตกอยู่แล้ว (เช่น แอมป์สไตล์ Marshall JCM 800) จะเปลี่ยนเสียง Crunch ให้กลายเป็น High-Gain ที่แน่น กระชับ และมีพลัง เหมาะสำหรับแนว Metal ในยุค 80s
ProCo Little RAT (ตัวเล็ก) vs. RAT ตัวใหญ่
- Little RAT เป็นเวอร์ชันย่อส่วนที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า
- แม้จะยังคง DNA และคาแรคเตอร์หลัก ของ RAT ตัวใหญ่ไว้ แต่ด้วยข้อจำกัดทางกายภาพ วงจรภายในจึงต้องมีการปรับเปลี่ยน
- Little RAT มี Headroom ที่น้อยลง ทำให้เสียงที่ได้ ถูก Compress มากขึ้น แน่นขึ้น กระชับขึ้น และมี Dynamic Range ที่ลดลง ซึ่งบางครั้งอาจเป็นที่ต้องการสำหรับไลน์กีตาร์ที่ต้องการความแน่นและความชัดเจนของหัวโน้ต
- การเลือกระหว่างสองรุ่นนี้ขึ้นอยู่กับ ความชอบส่วนตัว (Dynamic Range vs. Compression), งบประมาณ และ พื้นที่บน Pedalboard
บทสรุปและคำแนะนำ
- ProCo RAT เป็นเอฟเฟกต์ที่มี ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่มือกีตาร์ทุกคนควรลองสัมผัส
- มันมอบ คาแรคเตอร์เสียงที่โดดเด่น และยากที่จะเลียนแบบด้วยเอฟเฟกต์อื่น
- สามารถเป็น เอฟเฟกต์ All-in-One ที่หลากหลายได้ (ใช้ได้ทั้ง Overdrive, Fuzz, Distortion และ Booster) หากคุณมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณหรือพื้นที่บนบอร์ด
- ท้ายที่สุดแล้ว การ ทดลองด้วยตัวเอง กับอุปกรณ์ของคุณคือกุญแจสำคัญในการค้นหาว่า ProCo RAT เหมาะสมกับสไตล์และโทนเสียงที่คุณต้องการหรือไม่






