LINE


จะซื้อกลองไฟฟ้าทั้งที ยี่ห้อไหนดี? Roland, Yamaha, Carlsbro, Midiplus

ไปซื้อ จะซื้อกลองไฟฟ้าทั้งที ยี่ห้อไหนดี? Roland, Yamaha, Carlsbro, Midiplusที่สาขา

กลองไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์เครื่องดนตรีประเภทตีกระทบที่พัฒนาต่อมาจากกลองชุดตามวิวัฒนาการ โดยกลองไฟฟ้าจะให้เสียงจากลำโพงและมีแป้นตีเป็นยาง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการถนอมหนังกลองแต่อย่างใด เสียงที่ได้จากกลองไฟฟ้าจะเป็นลักษณะซาวด์สังเคราะห์เพราะสามารถใส่เอฟเฟคต่างๆลงไปในเสียงกลองได้ อีกทั้งยังสามารถปรับเสียงได้หลากหลายรูปแบบตามที่ตัวกลองไฟฟ้าให้มา กลองไฟฟ้าจึงเป็นที่นิยมทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ เนื่องจากสามารถควบคุมเสียงไม่ได้ดังเกินไปได้จึงซ้อมในบ้านได้อย่างสะดวก หลายคนจึงเริ่มมองหากลองไฟฟ้ากันมากขึ้น

Midiplus ED9 Pro

เมื่อมองหากลองไฟฟ้ากันแล้ว หลายๆคนอาจมีข้อสงสัยเพราะแบรนด์ดังที่ผลิตกลองไฟฟ้าในตลาดปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อเหลือเกิน ซึ่งก็ต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป จนทำให้ผู้ซื้อเริ่มลังเลใจว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี วันนี้ Music Arms จะขอแนะนำแบรนด์กลองไฟฟ้าหลัก 4 แบรนด์ ได้แก่ Roland, Yamaha, Carlsbro, Midiplus ซึ่งน่าจะคุ้นหูเพื่อนๆกันอย่างดี และมีราคาที่คุ้มค่ารวมถึงคุณภาพที่เชื่อถือได้

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กลองไฟฟ้า carlsbro

เริ่มจากแบรนด์แรก Carlsbro แต่เดิมนั้นเป็นบริษัทที่เริ่มจากการผลิตแอมป์มาตั้งแต่ปี 1959 ก่อตั้งโดยนาย Stuart และ Sheila Mercer จากเมืองน็อตติ้งแฮมในประเทศอังกฤษ โดยมีคอนเซปต์คือคำว่า British Sound ให้ซาวด์แบบอังกฤษแท้ๆ ใช้โดยศิลปินดังไม่ว่าจะเป็น The Beatles, Mick Jagger และ Oasis จนมาช่วงหลังทาง Carlsbro ได้เริ่มผลิตเครื่องดนตรีอื่นๆ เช่น ไมค์และกลองไฟฟ้า แน่นอนว่าคอนเซ็ปต์แบบนี้ กลองไฟฟ้าของ Carlsbro จึงมีเอกลักษณ์เรื่องซาวด์เฉพาะตัวที่ออกแนวยุโรป

Carlsbro CSD-500

นอกจากซาวด์จะมีเอกลักษณ์แล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้กลอง Carlsbro ติดตลาดคือเรื่องของคุณภาพ แต่ละรุ่นที่ให้มาจะมีเซ็ทกลองขนาดใหญ่ พร้อมตีได้ทุกแนว ลูกเล่นอย่าง Rim Shot มาครบ และ โมดุลกลองเป็นแบบไดนามิก ให้ซาวด์ที่ชัดเจน ใกล้เคียงกลองชุดจริง ทำเสียงเครื่องดนตรีประเภทอื่นได้ เชื่อมต่อได้ทั้ง USB เล่นเพลงไฟล์ MP3 รวมถึงกลองส่วนใหญ่จะทำจากหนังมุ้งแข็งแรงทนทาน ไม่แปลกที่จะติดตลาดเป็นเบอร์ต้นๆของโลก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กลองไฟฟ้า yamaha

มาถึง Yamaha แบรนด์ดังจากฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง รายนี้คุ้นชื่อกันดีจากการผลิตเครื่องดนตรีคุณภาพมากมาย จุดเด่นของทาง Yamaha จะเป็นเรื่องความสมดุล และสินค้าที่ได้มาตรฐาน เช่นเดียวกับอุปกรณ์ดนตรีอื่นๆ แต่เรื่องราคาอาจจะแรงกว่าแบรนด์อื่นๆนิด หากคิดถึงคุณภาพที่ได้รับก็ต้องบอกว่าคุ้มค่า เหมาะสำหรับการใช้งานยาวๆ

แบรนด์ Yamaha มีจุดเด่นอีกเรื่องคือเทคโนโลยีที่ทาง Yamaha คิดค้นสิ่งใหม่ๆขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งเสียงแต่ละโซนกลองแต่ละตัวด้วยตนเอง สามารถโหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆมาใช้งานควบคู่กันไปด้วย กลอง Yamaha จึงมีเสียงกลองในรูปแบบต่างๆมากกว่ายี่ห้ออื่นๆ หากใครโอเคกับราคาแล้ว รับรองว่าตัวเดียวใช้ได้ครบทั้งการทำเพลงและบันทึกเสียง

แนะนำ 5 กลองไฟฟ้า Yamaha ราคาไม่เกิน 30,000 บาท | ส่งด่วน มีรีวิว ราคาพิเศษ  ผ่อน0% Music Arms 6 สาขา

แบรนด์ที่ 3 คือ Roland ที่มีชื่อเสียงด้านกลองชุดมายาวนาน เป็นแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งโดยนาย อิคูทาโร่ คาเคฮาชิ ในเมืองโอซาก้าเมื่อปี 1972 เริ่มจากการผลิตเครื่องดนตรีออร์แกน เพียงแค่ปีเดียวบริษัทก็สร้างชื่อเสียงได้ไปประกวดในงาน NAMM Show ที่อเมริกาทันที จุดเด่นของกลอง Roland จะเป็นเรื่องความประหยัดเพราะราคาไม่แพงมากแต่ได้เซ็ทกลองชุดใหญ่

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ electric drum roland

นอกจากเซ็ทกลองชุดใหญ่แล้ว เรื่องลูกเล่นก็จัดเต็มมาแบบไม่มีกั๊ก เชื่อมต่อได้ทั้ง USB เล่นเพลงไฟล์ MP3 และ WAV ทำเพลงเป็นเรื่องง่าย เสียบหูฟังซ้อมส่วนตัวได้สบายๆ นอกจากนี้ยังปรับเสียงเบสเสียงแหลมได้ตามใจชอบ ซาวด์ใกล้เคียงกลองจริงอย่างมาก เป็นแบรนด์ที่ทำซาวด์แบบกลองจริง โดยซาวด์กลองภาคไฟฟ้าอาจน้อยกว่าแบรนด์อื่นเช่น Yamaha แต่หากใครชอบซาวด์แน่นๆแบบกลองชุดที่ต้องชื่นชอบ

กลองไฟฟ้า Midiplus ED9 Pro

มาถึงแบรนด์สุดท้าย Midiplus เป็นแบรนด์เครื่องดนตรีจากไต้หวัน ก่อตั้งโดยบริษัท ไต้หวัน ต้าหว่อง วู้ด เมื่อปี 1974 เริ่มจากการผลิตคีย์บอร์ดออกสู่ตลาดก่อน ได้รับความนิยมอย่างสูงจนร่วมมือกับทางบริษัท AVID ของทางอเมริกาเข้ามาร่วมทุนและผลิตเครื่องดนตรีประเภทอื่นออกจำหน่ายด้วย โดยมีฐานผลิตใหญ่ที่ประเทศจีน ซึ่งกลองไฟฟ้า Midiplus ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องดนตรีที่มาผลิตในช่วงหลังแต่ได้รับความนิยมสูง เพราะราคาประหยัดย่อมเยา แต่คุณภาพคับแก้ว

กลอง Midiplus ED9 Pro

เรื่องราคาถือเป็นจุดเด่นของ Midiplus เช่นเดียวกับ Roland มีราคาที่ถูกและได้กลองชุดคุ้มค่า อาจมีข้อเสียนิดนึงตรงที่ว่ากลองแต่ละชุดนั้น Fix มาแล้วไม่สามารถต่อเพิ่มได้ หากจะเพิ่มต้องซื้อกล่องโมดุลใหม่ แต่รวมๆแล้วถ้าใครพึงพอใจกับจำนวนชิ้นกลองถือว่าคุ้มมาก เพราะกลอง Midiplus มีความทนทานใช้งานได้ยาวๆ เหมาะสำหรับในสตูดิโอ ทำเพลงส่วนตัว หรือซ้อมในบ้านสบายๆ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ electric drum midiplus

และทั้ง 4 ยี่ห้อนี้คือแบรนด์กลองไฟฟ้าหลักๆยอดนิยมที่ขายดีในร้าน Music Arms ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้งงานแล้วว่าชอบซาวด์แบบไหน หรือต้องการจำนวนกลองกี่ชิ้นเพื่อเล่นเพลงตามแบบที่ชอบได้ หากเพื่อนๆคนไหนยังไม่มั่นใจก็สามารถเดินเข้ามาที่ร้าน Music Arms ของเราทุกสาขาได้เลย ทางพนักงานร้านยินดีต้อนรับและให้คำแนะนำในการเลือกสิ้นค้าทุกชนิด เพื่อเพื่อนๆจะได้สินค้าคุณภาพดีก่อนออกจากร้านไป สนใจกลองไฟฟ้ารุ่นไหน แวะมาที่ Music Arms ได้เลยยย

เทคนิคการเลือกกลองไฟฟ้าให้คุ้มค่า แบบฉบับ Music Arms

การจะเลือกซื้อกลองไฟฟ้าแน่นอนอยู่แล้วว่ายิ่งซื้อของแพงยิ่งได้ของดี แต่ในบางครั้งของที่เราซื้อมาก็ใช้ได้ไม่คุ้มค่า เราจึงอยากแนะนำ 4 หลักการพิจารณาเพื่อให้ซื้อกลองไฟฟ้ามาใช้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

  • 1.การใช้งาน ให้เราดูการใช้งานของเรา ว่าเราต้องการนำไปใช้งานหลักๆ ด้านใด อาจจะไว้ใช้ซ้อม , ใช้อัดเพลง หรือแม้แต่การเล่นดนตรีสด หากต้องการซื้อเพื่อไว้เล่นดนตรีสดบ่อยครั้ง เราก็จะแนะนำเป็น Roland และ Yamaha ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า แต่หากใช้ซ้อมส่วนตัวก็แนะนำเป็น Carlsbro Midiplus Hampback เพื่อให้เซฟเงินเราลงได้อีก
  • 2.การตอบสนองต่อความไวในการตี  การตอบสนองต่อการตีของกลองถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ และเราจำเป็นต้องทดสอบว่ารุ่นที่เราสนใจนั้น มีสัมผัส ไดนามิกการตอบสนองที่ดีไหม รับความเร็วในการตีได้ดีหรือเปล่า โดยทั้ง 5 แบรนด์ ถือว่าเป็นกลองไฟฟ้าที่เราคัดสรรมาแล้วว่ามีการตอบสนองความไวได้ดีมาก
  • 3.ฟังชั่นของกลอง ให้เราสังเกตว่าเรามีความต้องการเน้นฟังชั่นไหนเป็นพิเศษหรือไม่ เช่น ต้องการตัวที่มีฟังชั่นการบันทึกเสียงในตัว , ต้องการตัวที่มีบลูทูธในตัว หรือต้องการ Output ออกเป็น Midi เป็นต้น เราก็จะได้รุ่นที่ตอบโจทย์ของเราได้
  • 4.ราคา เทียบราคาของแต่ละแบรนด์ อยากแนะนำให้ลองเทียบรุ่นที่อยู่ใน Rate ราคาใกล้เคียงกัน เพื่อเทียบสเปค เพราะบางทีเราเทียบรุ่นที่คนละ Rate ราคากันทำให้เราเลือกผิดรุ่นพลาดได้
×