LINE


มิกเซอร์ (Mixer) คืออะไร ?

ไปซื้อ มิกเซอร์ (Mixer) คืออะไร ?ที่สาขา

หลายคนอาจสงสัยว่า มิกเซอร์ (Mixer) คืออะไร ทำงานอย่างไร มีกี่ประเภท และมีความสำคัญอย่างไรสวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านวันนี้ Music Arms จะพาทุกท่านมารู้จักกับอุปกรณ์ชิ้นนึงที่ใช้ในงาน Live Sound อุปกรณ์ที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้มีชื่อว่า มิกเซอร์ (Mixer) ในงานแสดงดนตรี หรือ Live Sound อุปกรณ์ชิ้นนี้มีความสำคัญอย่างมาก และเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว มาดูกันครับว่า มิกเซอร์ (Mixer) คืออะไร ?

มิกเซอร์ (Mixer) คืออะไร ?

               มิกเซอร์(Mixer) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ในการรวมเสียงจากแหล่งเสียงต่าง ๆ  ทำการผสมเสียงเข้าด้วยกัน และปรับแต่งเสียงต่าง ๆ ที่เข้ามา ถ้าพูดถึงองค์ประกอบของระบบเสียงแล้วมิกเซอร์(Mixer) จะจัดอยู่ใน ภาคโปรเซสเซอร์(Processer) นั่นเองครับ ดังนั้น มิกเซอร์(Mixer) จึงมีความสำคัญ และจำเป็นอย่างมากในงานแสดงดนตรี หรือ Live Sound เพราะ มิกเซอร์(Mixer) จะทำการรวบรวมเสียงทุกอย่างที่ใช้ในการแสดงเข้าด้วยกันครับ

มิกเซอร์(Mixer) ทำงานอย่างไร ?

การทำงานของ มิกเซอร์(Mixer) คือการรับสัญญาณเสียงจาก ภาคอินพุต(Input) เข้ามาไม่ว่าจะเครื่องดนตรี ไมโครโฟน(Microphone) เสียงจากคอมพิวเตอร์ หรือเสียงจากUSB โดย มิกเซอร์(Mixer) จะมีช่องที่ใช้ต่อสัญญาณอินพุต(Input) เข้ามา จะมีกี่ช่องอินพุต(Input) ก็จะขึ้นอยู่กับขนาดของ มิกเซอร์(Mixer) ตัวนั้น ๆ หลังจากรับสัญญาณอินพุต(Input) มาแล้วจะทำการปรับแต่งเสียงที่รับเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการ EQ Gate  Compressor Effect เสียงต่าง ๆ และส่งสัญญาณเสียงออกทาง ภาคเอาท์พุท(Output)

มิกเซอร์(Mixer) มีกี่ประเภท ?

  1. อนาล็อก มิกเซอร์ (Analog Mixer) สำหรับ อนาล็อกมิกเซอร์(Analog Mixer) จะปรับทุกอย่างด้วยมือ หน้าตาของ อนาล็อก มิกเซอร์(Analog Mixer) จะดูเป็นมิตร และปรับแต่งเสียงได้ง่ายกว่า มิกเซอร์ดิจิตอล(Digital Mixer) รวมถึงความรวดเร็วในการปรับแต่งเสียงในกรณีที่เกิดปัญหาหน้างานอีกด้วย
  2. ดิจิตอล มิกเซอร์ (Digital Mixer) จะปรับแต่งเสียงได้ละเอียดมากกว่า อนาล็อกมิกเซอร์(Analog Mixer) ควบคุมทุกอย่างผ่าน Tablet หรือ iPad สามารถควบคุมการทำงานระยะไกลได้ รวมถึงมีฟังก์ชั่นมากมายในการใช้งาน เช่นการ Save Scene ข้อดีของการ Save Scene คือความรวดเร็วในการทำงานถ้าเป็น อนาล็อกมิกเซอร์(Analog Mixer) เวลาเปลี่ยนวงดนตรี คุณจะต้องทำการหมุนอุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อปรับแต่งเสียงใหม่แต่ถ้าเป็น ดิจิตอลมิกเซอร์(Digital Mixer) คุณสามารถกด Scene ที่คุณ Save ไว้ได้เลยไม่ต้องทำการปรับใหม่ ถึงแม้จะมีหน้าตาที่ดูใช้งานยากกว่า อนาล็อกมิกเซอร์(Analog Mixer) แต่ก็ได้มาซึ่งความละเอียดในการปรับแต่ง และความรวดเร็วในการใช้งาน
  3. พาวเวอร์มิกเซอร์ (Powered Mixer) จะเป็นมิกเซอร์ที่มีกำลังไฟฟ้าในการขับ ลำโพง PA ได้โดยตรงไม่ต้องต่อผ่าน พาวเวอร์แอมป์(PowerAmpifier) เหมือนกับมิกเซอร์ 2 ประเภทก่อนหน้า ทำให้ไม่ต้องต่ออุปกรณ์มากมาย เหมาะกับงานที่ต้องการความรวดเร็วในการติดตั้งอุปกรณ์

การเลือกซื้อมิกเซอร์ (Mixer)

ในการเลือกซื้อ มิกเซอร์ (Mixer) จะขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณว่าต้องการใช้งานช่อง อินพุต(Input) กี่ช่อง ยกตัวอย่างเช่น ถ้างานร้องคาราโอเกะ ที่มีแค่ ไมโครโฟน(Microphone) กับ เสียงเพลงจากคอมพิวเตอร์ คุณก็ไม่จำเป็นต้องใช้มิกเซอร์(Mixer) ที่มีช่อง อินพุต(Input) มากมาย เพราะใช้เพียง 2 อินพุต(Input) เท่านั้น หรือถ้างานคุณเป็นงานแสดงดนตรีแบบเต็มวงก็ต้องใช้มิกเซอร์(Mixer)ที่มีช่องอินพุต(Input)หลายช่อง จะเป็นอนาล็อกหรือดิจิตอลก็ขึ้นอยู่กับงาน ถ้าต้องการความง่ายในการใช้งานใช้มือหมุน ๆ ปรับ ๆ ก็อาจเลือกใช้ อนาล็อกมิกเซอร์(Analog Mixer) ถ้าต้องการความรวดเร็ว และความละเอียดในการปรับเสียง ก็อาจเลือกใช้ ดิจิตอลมิกเซอร์(Digital Mixer) หากคุณไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้ มิกเซอร์(Mixer) แบบใดคุณสามารถสอบถามทาง Music Arms ได้ทุกช่องทาง พวกเรายินดีให้บริการ

สรุป

สรุป มิกเซอร์(Mixer) นั้นมีหน้าที่ในผสมสัญญาณเสียง ปรับแต่งเสียงที่ได้รับมา และส่งไปขยายเสียงต่อใน ภาคเอาท์พุท(Output) หากคุณสนใจ มิกเซอร์(Mixer) คลิกที่นี่ เพื่อดูสินค้าของทางเรา หรือเข้าไปดูสินค้าที่หน้าสาขาได้เลยครับ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้หวังว่าบทความบทนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณนะครับ สุดท้ายนี้ขอให้เป็นวันที่ดีของคุณนะครับ Music Arms ขอลาไปก่อนนน -/\-

×