LINE


แนะนำ 4 มัลติเอฟเฟคกีตาร์ตัว Top เสียงครบจบในตัวเดียว ปี 2022

ไปซื้อ แนะนำ 4 มัลติเอฟเฟคกีตาร์ตัว Top เสียงครบจบในตัวเดียว ปี 2022ที่สาขา

มัลติเอฟเฟคเป็นสิ่งที่มือกีตาร์หลายคนเลือกใช้ เพราะค่อนข้างสะดวกในการเคลื่อนย้าย เหมาะสำหรับนักดนตรีที่ต้องเดินทางเป็นประจำ หลายรุ่นจะมีเสียงให้เลือกมากมายรวมถึง Preset ที่ตั้งค่าได้ล่วงหน้าพร้อมเรียกใช้ได้เลย จึงมีคำถามจากมือกีตาร์มากมายว่ามัลติเอฟเฟครุ่นไหนดี ตอบโจทย์ได้กว้าง วันนี้ Music Arms จะมาแนะนำ 4 มัลติเอฟเฟคที่เรียกได้ว่าครบเครื่องทุกการใช้งาน ไม่ตกรุ่นง่ายๆ ใครที่หามัลติเอฟเฟคเจ๋งๆอยู่เลื่อนดูด้านล่างได้เลยครับ

ดูมัลติเอฟเฟคทั้งหมด คลิกที่นี่

1. Line 6 Helix Floor

ราคา : 65,000 บาท
69,000 บาท
ประหยัด6%
Face cover Line-6-Helix-Floor
ข้อมูล : 

Line 6 Helix Floor มัลติเอฟเฟคสายพันธ์ใหม่ที่รวมแอมป์ คาบิเนต ไมโครโฟน และเอฟเฟคกีต้าร์เอาไว้มากมาย ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ให้เสียงสมจริงมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะมีซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเอง ไม่มีปัญหา เพราะสามารถปรับแต่งเสียงที่ต้องการได้อย่างใจต้องการ ใช้ได้ทั้งบนเวทีและในห้องอัดได้อย่างดีเยี่ยม จุดเด่นของรุ่นนี้ยังเป็นเรื่องการจำลองเสียงแอมป์ที่จัดมาเต็มรูปแบบถึง 45 รุ่น และยังจำลองเสียงคาบิเนตได้อีกด้วย ช่องเสียบเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆมาอย่างครบครัน เป็นมัลติเอฟเฟค แห่งยุคที่จัดได้ว่าเป็นตัวที่ยอดนิยมที่สุดเลบก็ว่าได้ เพราะด้วยเสียงที่ใกล้เคียงกับระบบ Analog และการใช้งานที่แสนจะยืดยุ่น และใช้ง่ายง่ายมากๆ แถมยังมี ระบบพระเอกอย่าง Snapshot ที่ทำให้หมดปัญหากระตุก ของมัลติเอฟเฟค

ความสามารถที่โดดเด่นของ Line 6 Helix Floor

  • ระบบLINE Dual DSP-powered HX modeling เป็นระบบที่สามารถต่อซิกเนลโพร์ได้
  • เป็นประเภทแอมป์โมเดลลิ่งสามารถจำลองเสียงแอมป์ได้
  • จำนวนเสียง 45 แอมป์, 30 คาบิเนท, 16 ไมค์ และ 70เอฟเฟค
  • 12 สวิตช์ ที่ตอบสนองต่อการเหยียบสัมผัส และเเข็งแรง
  • การปรับอิสระตามต้องการ
  • การดีไซด์สวิชท์ให้ควบคุมง่ายไม่ห่างกันเกินไป
  • สามารถต่อฟุตสวิทช์เพิ่มได้อีกถึง 3 ช่อง
  • ทำเสียง Loop ได้ 60 วินาทีในระบบโมโน และ 30 วินาทีในระบบสเตอริโอ
  • ช่องเสียบแจ็คกีต้าร์ขนาด 1/4 นิ้ว 1 ช่อง และช่องเสียบรีเทิร์นขนาด 1/4 นิ้ว 2 ช่อง

Line 6 Helix Floor Content 14

โทนเสียงที่สมจริง

ระบบเสียง dual-SHARC ในผลิตภัณฑ์ Helix สร้างลักษณะเสียง และการตอบสนองการเล่นไดนามิกของแอมพลิฟายเออร์ อย่างแม่นยำ

Line 6 Helix Floor Content 15

HX Cabs/การตอบสนองแบบอิมพัลส์

ตู้รุ่น Helix มีตัวเลือกไมโครโฟน 12 ประเภทซึ่งอาจวางตำแหน่งไว้ที่ระยะห่างต่างๆ จากกรวยลำโพง เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น มีการตอบสนองที่ดีชัดเจน

Line 6 Helix Floor Content 2

การสร้างแบบจำลอง

กระบวนการสร้างโมเดลจำลองแอมป์ ให้เหมือนกับแอมป์จริงมากที่สุด เพื่อให้มั่นใจได้ถึงเสียงที่สมจริง และประสบการณ์การเล่นที่แท้จริง

Line 6 Helix Floor Content 16

แบบจำลอง

เทคโนโลยีการสร้างแบบจำลอง HX จำลองเอฟเฟกต์อนาล็อก โดยการวัดส่วนประกอบแต่ละชิ้น ส่งผลให้เกิดการสร้างแบบจำลองที่สมจริง

Line 6 Helix Floor Content 3

หน้าตา

ผลิตภัณฑ์ตระกูล Helix มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย แทนที่เมนูที่ยุ่งยากด้วยการออกแบบตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย

Line 6 Helix Floor Content 8

สัญญาณสเตอริโอสี่ทาง

โปรเซสเซอร์ Helix มีเส้นทางสัญญาณสเตอริโอสี่เส้นทาง ช่วยให้สามารถสร้างค่าที่ซับซ้อนพร้อมเอฟเฟกต์มากมาย ยังกำหนดค่าแยกกัน ทำให้สามารถประมวลผลเครื่องมือได้ถึงสี่เครื่องพร้อมกัน

Line 6 Helix Floor Content 6

สวิตช์

สวิตช์เท้าเหยียบ Helix Floor สิบสามตัวมีแถบเขียนแสดงสีไฟ LED หากมีการกำหนดบล็อกหรือพารามิเตอร์มากกว่าหนึ่งรายการให้กับฟุตสวิตช์ตัวเดียว แถบเขียนอาจอ่านว่า “MULTIPLE (X)” โดยที่ X คือจำนวนการกำหนด เพียงแตะสวิตช์เท้าเพื่อข้ามไปยังบล็อกใดๆ ได้ทันที และปรับพารามิเตอร์หรือกำหนดตัวควบคุมได้อย่างรวดเร็ว วงแหวน LED ที่มีรหัสสีช่วยถ่ายทอดการกำหนดสวิตช์เท้าและสถานะโดยสรุป

Line 6 Helix Floor Content 17

การปรับแต่ง

ซอฟต์แวร์ HX Edit มีอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ใช้งานง่ายเช่นเดียวกับโปรเซสเซอร์ Helix สร้างสัญญาณที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย ปรับการตั้งค่า และพารามิเตอร์โดยใช้แถบเลื่อน ปรับแต่งป้ายกำกับฟุตสวิตช์ และอื่นๆ อีกมากมาย ปลั๊กอิน Helix Native นำพลังของ Helix มาสู่เวิร์กสเตชันเสียงดิจิทัล สามารถถ่ายโอนไปยังโปรเซสเซอร์ฮาร์ดแวร์ Helix สำหรับการแสดงสด

Line 6 Helix Floor Content 18

พาวเวอร์แค็บ

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Powercab® ประกอบด้วยระบบลำโพงกีตาร์แบบแอคทีฟ Powercab 112, Powercab 112 Plus และ Powercab 212 Plus ทั้งหมดนี้มอบประสบการณ์การเล่นแบบ “แอมป์ในห้อง” ที่สมจริงเมื่อจับคู่กับแอมป์ Helix และโปรเซสเซอร์เอฟเฟกต์ การรวม Powercab Plus เข้ากับ Helix ผ่าน L6 LINK™ นั้นทรงพลังเป็นพิเศษ โดยส่งสัญญาณเสียง และข้อมูลคำสั่งหลายรายการผ่านสายเคเบิลเส้นเดียว

Line 6 Helix Floor Content 13

สเปค : 
  • ระบบใหม่จาก LINE Dual DSP-powered HX modeling เป็นระบบที่สามารถต่อซิกเนลโพร์ได้
  • เป็นประเภทแอมป์โมเดลลิ่งสามารถจำลองเสียงแอมป์ได้
  • จำนวนเสียง 45 แอมป์, 30 คาบิเนท, 16 ไมค์ และ 70 เอฟเฟค
  • 12 สวิตช์ ที่ตอบสนองต่อการเหยียบสัมผัส และเเข็งแรง
  • การปรับอิสระตามต้องการ
  • การดีไซด์สวิชท์ให้ควบคุมง่ายไม่ห่างกันเกินไป
  • สามารถต่อฟุตสวิทช์เพิ่มได้อีกถึง 3 ช่อง
  • ทำเสียง Loop ได้ 60 วินาทีในระบบโมโน และ 30 วินาทีในระบบสเตอริโอ
  • ช่องเสียบแจ็คกีต้าร์ขนาด 1/4 นิ้ว 1 ช่อง และช่องเสียบรีเทิร์นขนาด 1/4 นิ้ว 2 ช่อง
  • สแนปชอต 8 ต่อพรีเซ็ต
  • ฟุตสวิตช์สัมผัสแบบ capacitive 12 อัน
  • USB อินเทอร์เฟส : 8 อิน 8 เอาท์
  • ช่องหูฟัง ¼ สเตอริโอ
  • อินพุต 1/4 กีตาร์, Aux, รีเทิร์น 1-4
  • เอาต์พุตหลัก 1/4 L/R, ส่งรีเทิร์น 1-4
  • XLR อินพุต Mic pre พร้อมพลัง Phantom
  • XLR เอาต์พุตหลัก L/R
  • ความสูง (นิ้ว/ซม.) 3.61/9.2
  • ความกว้าง (นิ้ว/ซม.) 22.05/56.0
  • ความลึก (นิ้ว/ซม.) 11.87/30.1
  • น้ำหนัก (ปอนด์/กก.) 14.6/6.6


2. Kemper Profiler Stage

ราคา : 59,000 บาท
ประหยัดพิเศษ
Kemper-Profiler-Stage
ข้อมูล : 

Kemper Profiler Stage ขุมพลังมัลติเอฟเฟค และแอมพลิฟายเออร์กีตาร์ล้ำสมัย มาพร้อมเทคโนโลยี PROFILING™ อันเป็นเอกลักษณ์ของ KEMPER สามารถจับ DNA เสียงของแอมป์กีตาร์ทุกตัว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแอมป์กีตาร์ที่ดีที่สุดในโลก PROFILE™ หลายร้อยตัว สัมผัสความสมบูรณ์แบบในสตูดิโอมืออาชีพทั่วโลก

Kemper Profiler Stage Content 2

ความสามารถที่โดดเด่นของ Kemper Profiler Stage

  • เทคโนโลยี Kemper Profiler
  • แอมป์จากสตูดิโอชั้นนำ และการออกแบบโทนเสียงต่างๆ
  • เอฟเฟคเสียงระดับสตูดิโอ
  • Output ที่ครอบคลุมการใช้งาน
  • มีโหมด Full Range , Guitar Cab และ KEMPER Kone™
  • โหมดสำหรับการแสดงโดยเฉพาะ
  • เสียงที่ไม่ซ้ำใคร
  • ปรับแต่งแบบไร้สายผ่าน iPad หรือระบบปฏิบัติการ iOS

Kemper Profiler Stage Content 1

แอมป์ที่ดีที่สุดในโลก

โทนเสียงทั้งหมดที่ PROFILER มีชื่อเสียง คอลเลกชัน Rigs จำนวนมากจากผู้สร้างโทนเสียงที่ดีที่สุดในโลก FX ระดับสตูดิโอ และ Stomp FX และเสียงสะท้อน FX ที่ไม่มีใครเทียบได้ในด้านเสียง และความสามารถที่รอบด้าน

Kemper Profiler Stage Content 4

สร้างโปรไฟล์ของคุณเอง

เป็นเจ้าของแอมป์ดีๆ สร้างเสียงของคุณเอง ปรับแต่งตามที่คุณต้องการ และเล่นแสดงให้โลกได้เห็น

Kemper Profiler Stage Content 3

การควบคุมแบบเรียลไทม์แบบที่ไม่ซ้ำใคร

เชื่อมต่อแป้นเหยียบได้สูงสุดสี่แป้น และปรับเปลี่ยนได้อย่างราบรื่น การแสดงของคุณจะมีชีวิตชีวา และเป็นธรรมชาติมากกว่าที่คุณคิดว่าจะเป็นไปได้ หากคุณต้องการใช้แป้นเหยียบน้อยลง คุณสามารถรวมฟังก์ชันต่างๆ เข้าด้วยกันได้ โดยไม่จำกัดความคิดสร้างสรรค์ของคุณ

Kemper Profiler Stage Content 5

สเปค : 
  • ความสูง: 8.5 ซม. (3.35 นิ้ว)
  • ความกว้าง: 47 ซม. (18.5 นิ้ว)
  • ความลึก: 26 ซม. (10.24 นิ้ว)
  • น้ำหนัก : 4.6 กก.
  • อนาล็อกอินพุต : ¼ นิ้ว TS อันบาลานซ์ ไดนามิก > 108 dB
  • รีเทิร์น 1-4 : ¼ นิ้ว TRS อันบาลานซ์ ไดนามิก > 105 dB
  • อนาล็อกเอาท์พุต
  • เมน เอาท์พุต : XLR balanced, ¼ นิ้ว
  • มอนิเตอร์เอาท์ : ¼ นิ้ว TS unbalanced
  • Send 1+2 : ¼ นิ้ว TS unbalanced
  • ช่องหูฟัง : 3.5 มม. TRS สเตอริโอ
  • MIDI เข้า/ออก/ผ่าน: ขั้วต่อ DIN 5 พิน
  • สวิตช์/คันเหยียบ: TRS ¼ นิ้ว อย่างละอัน
  • สวิตช์โมโน/สเตอริโอ หรือแป้นเหยียบนิพจน์
  • เครือข่าย: ขั้วต่อ RJ45 (ใช้ไม่ได้กับ PROFILER Stage)
  • ยูเอสบี: อุปกรณ์ที่รองรับ USB 0 (FS)
  • ความถี่: 50 Hz ถึง 60 Hz, เฟสเดียว
  • อุณหภูมิในการทำงาน: 10° ถึง 35° C (50° ถึง 95° F)
  • อุณหภูมิขณะไม่ทำงาน: -20° ถึง 47° C (-4° ถึง 116° F)


3. Neural DSP Quad Cortex

ราคา : 69,000 บาท
75,000 บาท
ประหยัด8%
Neural Quad Cortex effect
ข้อมูล : 

Neural DSP Quad Cortex มัลติเอฟเฟคทรงพลังโทนมาสเตอร์ Neural DSP ระบบประมวลผล Quad-Core SHARC ช่วยให้ได้เสียงที่สมจริงมากขึ้นแม้ว่าจะเป็นการจำลองเสียงต่างๆ รวมถึงระยะการหน่วงเวลาที่น้อย จึงสามารถสลับ/เพิ่มเอฟเฟคได้อย่างฉับไว สามารถจำลองเสียงแอมป์มากกว่า 50 แบบ เสียงเอฟเฟคมากกว่า 70 แบบ และจำลองเสียง IR มากกว่า 1,000 แบบ นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถโหลดฟังก์ชั่น Loop เวอร์ชั่นล่าสุดได้อีกด้วย

ตัวเอฟเฟคจะมีปุ่มกด 11 ปุ่ม ปรับแต่งเสียงตามใจคุณโดยใช้ Parametric EQ อันทรงพลังบนจอแสดงผลมัลติทัชขนาด 7 นิ้ว ปรับแต่งโทนเสียงที่สมบูรณ์แบบของคุณด้วย Neural DSP ทั้งหมดที่มีใน Quad Cortex รวมถึงความสามารถในการบันทึก เสียบ Quad Cortex เข้ากับการตั้งค่าใดๆ ไม่ว่าจะเป็นสเตอริโอหรือโมโน ติดตั้ง TS, TRS และ XLR เข้าและออกเพื่อจัดการกับทุกสิ่ง สามารถตั้งค่าได้ 32 Preset พร้อมใช้งาน ด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กก. ขนาดกะทัดรัดและการเชื่อมต่อที่ครบครัน จึงพกพาไปได้ทุกที่

ความสามารถที่โดดเด่นของ Neural DSP Quad Cortex

  • มัลติทัชพร้อมเทคโนโลยีเครื่องมือสร้างโมเดลกีต้าร์ และเบส
  • หน้าจอสีมัลติทัชขนาด 7 นิ้ว
  • Quad-Core SHARC DSP มอบพลังการประมวลผลที่ยอดเยี่ยม
  • แอมป์มากกว่า 50 แอมป์ เอฟเฟกต์ 70 รายการ และ Cabs 1,000 แบบ
  • Looper ในตัวพร้อมเวลาบันทึกสูงสุด 4 นาที 44 วินาที
  • Neural Capture แปลงแอมป์ สต็อป และแค็บที่คุณชื่นชอบให้เป็นดิจิทัล
  • ตัวเครื่องอะลูมิเนียมอะโนไดซ์กันกระสุนพร้อมชีลด์กระจกหนา 1.8 มม.
  • I/O อเนกประสงค์พร้อมการกำหนดเส้นทางที่กำหนดค่าได้
  • MIDI ผ่าน USB พร้อมโหมดการเล่นเสียงหลายโหมด
  • สวิตช์โรตารีสองฟังก์ชันจ่ายสวิตช์เท้า และปุ่มควบคุม
  • Wi-Fi ออนบอร์ด เข้าถึงโทนเสียงแบบไร้สาย การสำรองข้อมูลบนคลาวด์

เพลิดเพลินอยู่ในโลกของเสียง

ได้แอมป์มากกว่า 50+ แอมป์ เอฟเฟกต์ 50+ เสียง และ Cabs 50+ แบบ เพลิดเพลินไปกับความหลากหลายของเสียง

Neural DSP Quad Cortex-Content 4

Neural Capture แปลงแอมป์ สต็อป ที่คุณชื่นชอบให้เป็นดิจิทัล

มีแอมป์ที่ดีที่สุดในโลกรอคุณอยู่ แปลงเป็นดิจิทัล และพาพวกเขาไปเล่นได่ทุกที่โดยใช้คุณสมบัติ Neural Capture อันทรงพลังของ Neural DSP Neural Capture แตกต่างจากโมเดลการจับเสียงแบบดั้งเดิมตรงที่ใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อจำลองการโต้ตอบที่ซับซ้อนระหว่างแอมป์ และเครื่องเล่น ความหย่อนคล้อย ความอิ่มสี การแตกออก การบีบอัด ทั้งหมดนี้ได้รับการเก็บรักษาอย่างระมัดระวังจากแหล่งกำเนิดเสียงโดยตรงไปยัง Quad Cortex ทำให้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์บันทึกเสียงที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Neural DSP Quad Cortex-Content 3

Quad-Core SHARC DSP

มอบพลังการประมวลผลที่ยอดเยี่ยม

Neural DSP Quad Cortex-Content 2

ปรีแอมป์ไมโครโฟน XLR พร้อมพลัง Phantom 48 โวลต์

คุณไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงยุค 57 เมื่อจับแอมป์จาก Neural DSP Quad Cortex ของคุณ ปรีแอมป์ไมโครโฟนพร้อมอินพุต XLR คอมโบ และพลัง Phantom 48 โวลต์ในตัว คุณสามารถทดลองตัวเลือก และการวางตำแหน่งไมโครโฟนได้อย่างแท้จริง

Neural DSP Quad Cortex-Content 7

หน้าจอมัลติทัชขนาด 7 นิ้ว

หน้าจอสัมผัสสีสดใสขนาด 7 นิ้วที่ตอบสนองได้ดีทำให้ Neural DSP Quad Cortex ใช้งานง่าย สนุกสนานไปกับการเข้าถึงการตั้งค่า ช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะไม่หลงทางเมื่อคุณกำลังค้นหาโทนเสียง

Neural DSP Quad Cortex-Content 6

11 ฟุตสวิตช์แบบฟังก์ชัน

นอกเหนือจากอินเทอร์เฟซหน้าจอสัมผัสที่รวดเร็วแล้ว Quad Cortex ฟุตสวิตช์สแตนเลสแบบ 2-in-1 ควบคุมทั้งหน้าแอมป์มาไว้ที่นิ้วของคุณในคราวเดียว เชื่อถือได้เหมือนกับฟุตสวิตช์แบบเดิม ช่วยประหยัดพื้นที่บน Quad Cortex ช่วยปกป้องคุณจากการไปเหยียบปุ่มที่เปราะบางโดยไม่ตั้งใจท่ามกลางการแสดงอันดุเดือดอีกด้วย

Neural DSP Quad Cortex-Content 5

Wi-Fi ในตัว

ช่วยให้ Quad Cortex สามารถสื่อสารกับโทรศัพท์ และเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ได้แบบไร้สาย

Neural DSP Quad Cortex Content 6

สเปค : 
  • มัลติเอฟเฟคสำหรับกีตาร์ไฟฟ้าและเบสไฟฟ้า
  • จำลองเสียงแอมป์มากกว่า 50 แบบ
  • เสียงเอฟเฟคมากกว่า 70 แบบ
  • จำลองเสียง IR มากกว่า 1,000 แบบ
  • ทรงพลังและกะทัดรัดพร้อม DSP เฉพาะ 2 GHz จากสถาปัตยกรรม Quad-Core SHARC
  • ระบบที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยให้สามารถวิเคราะห์และจำลองไดนามิกและเสียงของแอมพลิฟายเออร์อื่นๆ
  • Wifi ในตัวสำหรับการแชร์การตั้งค่าล่วงหน้า การสำรองข้อมูล และการอัพเดตเฟิร์มแวร์
  • เทคโนโลยีการสร้างแบบจำลองที่เหนือกว่าเดิม จำลองเสียงได้สมจริงมากขึ้น
  • ตัวเครื่องอะลูมิเนียมแบบชิ้นเดียวชุบอะโนไดซ์
  • เวลาแฝงที่ต่ำมากและความยืดหยุ่นในการใช้งาน
  • หน้าจอมัลติทัช 7 นิ้ว
  • 11 สวิตช์เท้าแบบผสมที่พัฒนาขึ้นใหม่พร้อมฟังก์ชันควบคุมแบบหมุน
  • ตัวควบคุมระดับเสียง
  • การเชื่อมต่อ TS, TRS, XLR, USB, MIDI และหูฟัง
  • แหล่งจ่ายไฟผ่านอะแดปเตอร์ DC 12 V
  • ขนาด 290 x 191 x 48 มม.
  • น้ำหนัก 1.6 กก.


4. Fractal AXE FX-III MKII

ราคา : 79,000 บาท
ประหยัดพิเศษ
Fractal AXE FX-III MKII
ข้อมูล : 

Fractal AXE FX-III MKII มัลติเอฟเฟคที่ให้รายละเอียดและความสมจริง ตัวประมวลผลสัญญาณดิจิตอล (DSP) 1.0 GHz สองตัวเป็น DSP ที่ทรงพลังที่สุดทำงานได่เต็มรูปแบบ ให้การเปลี่ยนเอฟเฟคที่รวดเร็วและเสียงที่ทรงพบังกว่าเดิม เอฟเฟคในตัวมากกว่า 100 แบบ โดยสามารถจัดวางเป็น 6 แถว 14 คอลัมน์พร้อมการเรียกใช้งาน สามารถตั้งค่า Preset ได้มากถึง 1024 Preset และจำลองตู่ IR ได้มากกว่า 2000 ตู้ จอแสดงผลสีขนาดใหญ่ 800 × 480 มีความละเอียด 30 เท่าของรุ่นก่อนหน้า ช่วยให้ป้อนข้อมูลและควบคุมพารามิเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว มีอินพุตแบบอะนาล็อก 6 ช่องรองรับการเชื่อมต่อทุกรูปแบบ ให้ทุกการใช้งานบนเวทีหรือสตูดิโอหมดปัญหาด้วยเอฟเฟคเครื่องเดียว

สเปค : 
  • หน่วยความจำ Super-FLASH แบบช่วยให้จัดเก็บได้ถึง 768 Preset และคาบิเนต 512 User
  • พอร์ต FASLINK™ ในตัวสำหรับเชื่อมต่อกับ MFC-101 Mark III ผ่านสาย XLR ทั่วไป
  • MIDI THRU เฉพาะให้การถ่ายข้อมูล MIDI ที่มีความหน่วงต่ำ (เทียบกับ OUT/THRU ที่ใช้ร่วมกันใน Mark II)
  • แจ็ค PEDAL ออนบอร์ดสองตัว
  • ปุ่ม VALUE มีตัวเข้ารหัสแบบออปติคัลที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 1,000,000 รอบการหมุน
  • อินพุตอุปกรณ์ “Secret Sauce III” มีเสียงรบกวนที่ต่ำกว่า
  • ขนาดพรีเซ็ตความจุสองเท่าช่วยให้ขยายฟังก์ชันได้ รวมถึงการสลับ X/Y ในบล็อกที่มากขึ้นและเอฟเฟคอื่นๆ
  • เฟิร์มแวร์สำรองในตัวช่วยให้สามารถกู้คืนได้ในกรณีที่เกิดปัญหาระหว่างการอัปเดต
  • การตั้งค่าล่วงหน้า Axe-Fx II Mark I/II ผ่านซอฟต์แวร์ Axe-Edit
  • ตัวประมวลผล DSP 1.0 GHz
  • จอแสดงผลสีไดนามิกขนาด 800 × 480
  • I/O Monitor
  • เสียง USB 16 ช่องสัญญาณ
  • จำลองเสียง IR ได้มากกว่า 2200 แบบ


ทั้ง 4 รุ่นนี้คือมัลติเอฟเฟคตัวท็อปที่มือกีตาร์หลายคนต้องยกนิ้วให้กับฟังก์ที่เพียบพร้อมตอบโจทย์ทั้งการเล่นบนเวทีหรืองานสตูดิโอห้องอัดเสียง หากใครสนใจมัลติเอฟเฟคทั้ง 4 รุ่นนี้ก็สามารถติดต่อ Music Arms ได้ทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ได้เลยนะครับ หรือใครสนใจรุ่นอื่นและอยากได้คำแนะนำก็สามารถปรึกษาทีมงาน Music Arms กันได้ ทางเรายินดีช่วยเหลือเพื่อนๆทุกคนให้ได้รับสินค้าและประสบการณ์ดีๆก่อนออกจากร้านไปเสมอครับ

×