LINE


แนะนำ 8 พาวเวอร์มิกเซอร์น่าใช้ราคาย่อมเยา

ไปซื้อ แนะนำ 8 พาวเวอร์มิกเซอร์น่าใช้ราคาย่อมเยาที่สาขา

Powered Mixer คือมิกเซอร์ที่มีเครื่องขยายเสียงในตัว หรือมีการขยายสัญญาณให้มีกำลังพอที่จะไปขับลำโพง เรียกว่าตัวเดียวทำงานถึง 2 แบบ โดยจะมีราคาที่ย่อมเยา แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานอาจน้อยกว่าแบบดิจิตอลที่มีความทันสมัยมากกว่า อย่างไรก็ตาม Powered Mixer ยังคงได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันเนื่องจากใช้งานง่าย มียี่ห้อดังๆต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นของ Yamaha ที่รู้จักกันดีในนามแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกของญี่ปุ่น รวมถึง Behringer แบรนด์ยอดนิยมจากฝั่งยุโรปก็มาเป็นอีกทางเลือก ทำให้มือมิกซ์ปัจจุบันมีความหลากหลายในการหาอุปกรณ์มาใช้งานมากขึ้น วันนี้ Music Arms ก็จะขอเอาใจคนชอบมิกซ์ด้วยการแนะนำ 8 พาวเวอร์มิกเซอร์น่าใช้ ส่วนจะมีรุ่นไหนกันบ้างกันไปชมกันเลย

1. Line6 StageScape M20d

ราคา : 85,500 บาท
95,000 บาท
ประหยัด10%
Line6 StageScape M20d
ข้อมูล : 

Line6 StageScape M20d มิกเซอร์ลูกเล่นเพียบจากทาง Line6 สามารถเชื่อมต่อเข้ากับไมโครโฟนแบบ XLR ได้ถึง 12 ช่อง และยังปรับระดับเองตามความเหมาะสมได้อีกด้วย ช่องเสียบแบบ Input มาพร้อมสรรพทั้งแบบตรวจจับสัญญาณอัตโนมัติ, แบบดิจิตอล และแบบสเตอริโอ ให้เลือกใช้งานตามความชอบ ช่องเสียบ Output เป็นแบบ XLR สามารถปรับระดับเองได้เช่นเดียวกัน เชื่อมต่อได้ทั้ง USB และ SD Card

หน้าจอแสดงผลเป็นแบบทัชสกรีนใช้งานง่าย เชื่อมต่อกับลำโพงของ Line6 ได้แทบทุกรุ่นอย่างไม่มีปัญหา หากใครมี iPad ก็สามารถใช้เป็นรีโมทควบคุมเครื่องได้ บัทึกแทรคเพลงได้ใส่ตรงยังคอมพิวเตอร์เพื่อทำเพลงสบายๆ เสียงระบบ 32 บิท พลังเสียงชัดเจน มีเอฟเฟคในตัวมาให้หลายแบบไม่ว่าจะเป็น รีเวิร์, ดีเลย์ และคอรัส มือมิกซ์ทำเพลงบอกเลยว่าต้องชอบในลูกเล่นที่ทาง Line6 จัดเต็มมากับรุ่นนี้แน่นอน

สเปค : 

รายละเอียดมิกเซอร์ Line6 StageScape M20d

  • ช่องเสียบไมโครโฟนแบบ XLR 12 ช่องแบบปรับระดับเอง
  • ช่องเสียบ Input 4 ช่องแบบตรวจจับสัญญาณอัตโนมัติ
  • ช่องเสียบ Input 2 ช่อง แบบดิจิตอล
  • ช่องเสียบ Input แบบสเตอริโอ 1 ช่อง
  • สามารถเชื่อมต่อ USB และ SD การ์ดได้
  • ช่องเสียบ Output แบบ XLR 4 ช่อง สามารถปรับระดับเอง
  • สามารถใช้กับลำโพงหรือเครื่องขยายเสียงของ Line6
  • จอแสดงผลแบบสัมผัส
  • สามารถควบคุมระยะไกลด้วย iPad หรือ iPad 2
  • สามารถบันทึก Multitrack ไปยัง USB card, SD media หรือโดยตรงไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์
  • จับภาพภายในได้อย่างรวดเร็วเพื่อการตรวจสอบเสียงที่รวดเร็ว
  • การประมวลผลเสียงภายใน 32 บิต
  • DSP ที่มีประสิทธิภาพสำหรับพารามิเตอร์, EQs, คอมเพรสเซอร์, คอมเพรสเซอร์แบบ multiband
  • มีระบบ Multiband feedback
  • เอฟเฟครีเวิร์ป, ดีเลย์ และ คอรัส ในตัว สามารถตั้งค่าบันทึกได้
https://www.youtube.com/watch?v=c5cB-AXwTKg

2. Mackie Mix5

ราคา : 2,290 บาท
3,590 บาท
ประหยัด36%
Mackie
ข้อมูล : 

Mackie Mix5 มิกเซอร์รุ่นประหยัดที่จัดฟังก์ชั่นจำเป็นมาอย่างเพียงพอ มีแชนแนลไมโครโฟนสามารถปรับ EQ ได้ พร้อมช่อง Line แบบสเตอริโออีก 2 แชนแนล ใช้งานในปาร์ตี้ได้อย่างสบายๆ สามารถบันทึกเพลงหรือทำเพลงแบบเบาๆได้ด้วยช่องสัญญาณ RCA I/O พร้อมช่องเสียบหูฟัง เป็นระบบอนาล็อคที่ใช้งานง่าย มากถึง 5 แชนแนลกับราคาที่สบายกระเป๋า ใครมองหามิกเซอร์ขนาดเล็กสำหรับเริ่มต้น หรือใช้งานฟังก์ชั่นที่จำเป็นถือว่าตอบโจทย์มาก

สเปค : 

รายละเอียดมิกเซอร์ Mackie Mix5

  • ระบบ อนาล็อค
  • 5 แชนแนล
  • 1 แชนแนลไมโครโฟนพร้อมปรับ EQ ได้ 2 แบนด์
  • 2 แชนแนล Line สเตริโอ ปรับ EQ ไม่ได้
  • ช่อง Output แบบ Balance
  • มีช่องเสียบหูฟัง
  • มีช่องสัญญาณ RCA I/O สำหรับบันทึกเสียง
  • ใช้พลังงาน phantom + 15V


3. Behringer PMP-500MP3

ราคา : 8,910 บาท
9,900 บาท
ประหยัด10%
Face cover พาวเวอร์มิกเซอร์-Behringer-PMP-500MP3
ข้อมูล : 

มิกเซอร์ Behringer PMP-500MP3 พาวเวอร์มิกเซอร์แบบ 8 แชนแนลที่เหมาะกับงานเลี้ยงสังสรรค์เพราะมีเครื่องเล่น MP3 ในตัว ช่องต่อมีให้ครบครันไม่ว่าจะเป็น ช่องเสียบแบบ XLR ช่องเสียบแบบ Mic 4 ช่องและช่องเสียบแบบสเตอริโอ 2 ช่อง รวมถึงมีขาตั้งไมโครโฟนสำหรับร้องเพลงคาราโอเกะ สามารถปรับ EQ ได้ 2 ย่านเสียง กำลังขับ 500 วัตต์ ให้พลังเสียงที่สะใจ มีเครื่องนี้ไว้งานเลี้ยงไหนๆก็เอาอยู่

สเปค : 

รายละเอียดมิกเซอร์ Behringer PMP-500MP3

  • พาวเวอร์มิกเซอร์ขนาด 8 แชนแนล
  • ช่องเสียบแบบ XLR
  • MP3 ในตัว
  • ช่องเสียบแบบ Mic 4 ช่อง
  • ช่องเสียบแบบสเตอริโอ 2 ช่อง
  • ปรับ EQ ได้ 2 ย่านเสียง
  • สามารถเชื่อมต่อ Wireless-ready ได้ (ขายแยก)
  • ฟังก์ชั่น Voice-over เหมือนออกอากาศ
  • มีขาตั้งไมโครโฟน
  • กำลังไฟ 500 วัตต์

4. Yamaha MG12XUK

ราคา : 16,200 บาท
ประหยัดพิเศษ
Yamaha-MG12XUK-Analog-Mixer
ข้อมูล : 

Yamaha MG12XUK มิกเซอร์ที่พัฒนามาจากรุ่น MG12XU โดยจะทำเพื่อมือมิกซ์ที่ต้องเครื่องราคาประหยัดลง รุ่นนี้จะปรับมาใช้ลูกบิดแทน Faders และปรับขนาดทรงให้กะทัดรัดพกพาง่ายขึ้น รวมถึงลดจำนวนแชนแนลสเตอริโอเหลือ 3 จาก 4 แต่ไปเพิ่มแชนแนล Mono แทน โดยที่ออปชั่นเดิมต่างๆอย่างสามารถต่อสัญญาณออกได้ 2 ช่อง และยังมีระบบปรีแอมป์กลับเฟสให้อีกด้วย สามารถใช้งานกับไมโครโฟนประเภทคอนเดนเซอร์ได้โดยจะมีระบบจ่ายไฟไปที่ไมค์ ยังอยู่ครบครัน ใครหามิกซ์ราคาประหยัด ก็ไม่น่าพลาด

สเปค : 

รายละเอียดมิกเซอร์ Yamaha MG12XUK

  • มิกเซอร์ ขนาด 12 ช่อง
  • สามารถต่อไมโครโฟนได้สูงสุด 6 ไมค์ / 12 อินพุตแบบ Line (6 โมโน + 3 สเตอริโอ)
  • ช่องต่อสัญญาณ 2 Buses group สเตอริโอ  1 ช่อง
  • ช่องสัญญาณออกชนิด 2 AUX (รวม FX)
  • มีระบบ D-PRE ไมค์ปรีแอมป์ด้วยวงจรกลับเฟสของดาร์ลิงตัล
  • มีระบบคอมเพรสเซอร์ 1-Knob
  • มี PAD สวิทช์สำหรับช่องต่อสัญญาณโมโน
  • มีรบบจ่ายไฟ Phantom ขนาด +48 V
  • ช่องต่อสัญญาณออกชนิด XLR balanced
  • สามารถใช้แหล่งจ่ายไฟได้ทั่วโลก
  • ตัวถังเป็นโลหะ


5. Yamaha MG12XU

ราคา : 19,800 บาท
22,000 บาท
ประหยัด10%
ร้านขาย Yamaha MG12XU
ข้อมูล : 

Yamaha MG12XU มิกเซอร์ขนาดใหญ่สำหรับมืออาชีพที่มีฟังก์ชั่นให้ใช้งานกันอย่างครบครัน รุ่นนี้จะเป็นมิกเซอร์ขนาด 12 ช่อง โดยจะต่อไมโครโฟนได้สูงสุดถึง 6 ไมค์ เป็นแบบโมโน 4 ช่อง และสเตอริโอีก 4 ช่อง สามารถต่อสัญญาณออกได้ 2 ช่อง และยังมีระบบปรีแอมป์กลับเฟสให้อีกด้วย สามารถใช้งานกับไมโครโฟนประเภทคอนเดนเซอร์ได้โดยจะมีระบบจ่ายไฟไปที่ไมค์ให้ ตัววัสดุทำจากโลหะอย่างดี กินไฟน้อยสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบายเพราะน้ำหนักแค่ 4 กก. บอกเลยว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์ครบถ้วนสำหรับมืออาชีพ

สเปค : 

รายละเอียดมิกเซอร์ Yamaha MG12XU

  • มิกเซอร์ ขนาด 12 ช่อง
  • สามารถต่อไมโครโฟนได้สูงสุด 6 ไมค์ / 12 อินพุตแบบ Line (4 โมโน + 4 สเตอริโอ)
  • ช่องต่อสัญญาณ 2 Buses group สเตอริโอ  1 ช่อง
  • ช่องสัญญาณออกชนิด 2 AUX (รวม FX)
  • มีระบบ D-PRE ไมค์ปรีแอมป์ด้วยวงจรกลับเฟสของดาร์ลิงตัล
  • มีระบบคอมเพรสเซอร์ 1-Knob
  • มี PAD สวิทช์สำหรับช่องต่อสัญญาณโมโน
  • มีรบบจ่ายไฟ Phantom ขนาด +48 V
  • ช่องต่อสัญญาณออกชนิด XLR balanced
  • สามารถใช้แหล่งจ่ายไฟได้ทั่วโลก
  • ตัวถังเป็นโลหะ
  • ขนาดตัวเครื่อง 308 x 118 x 422 มม.
  • น้ำหนัก 4 กิโลกรัม


6. Yamaha รุ่น EMX2

ราคา : 17,600 บาท
ประหยัดพิเศษ
Yamaha EMX2
ข้อมูล : 

Yamaha EMX2 มิกเซอร์รุ่นเล็กที่คุณภาพนั้นคับแก้ว แม้ว่าจะใช้กำลังไฟเพียงแค่ 170-250 วัตต์ แต่เรื่องพลังเสียงจัดเต็มกันมาเต็มที่ ให้ซาวด์ที่คมชัดในสไตล์มิกเซอร์ Yamaha เป็นขนาด 10 ช่อง เชื่อมต่อได้ทั้งแบบ XLR และสเตอริโอ พิเศษด้วยช่อง Hi-Z สำหรับเสียบกีต้าร์ สามารถปรับ EQ ได้ทั้ง 3 ย่านเสียง หากไม่ชอบใจก็ยังมีระบบ Master EQ ที่ควบคุมได้ในปุ่มเดียวให้อีกด้วย มีระบบป้องกัน Frrdback หรือเสียงหอน เชื่อมต่อได้ทั้งหูฟังและ Mp3 รวมถึงฟุตสวิทช์ งานนี้ไม่ว่าจะซ้อมหรือปาร์ตี้กับเพื่อนๆก็จัดเต็มกันได้อย่างสนุกสนาน

สเปค : 

รายละเอียดมิกเซอร์ Yamaha EMX2

  • พาวเวอร์มิกเซอร์ขนาด 10 Input
  • ช่องเสียบแบบ XLR 4 ช่อง
  • ช่องเสียบแบสเตอริโอ 3 ช่อง
  • มีช่อง Hi-Z สำหรับกีต้าร์
  • ปรับ EQ ได้ 3 ย่านเสียง
  • ระบบเอฟเฟค SPX 4 แบบ
  • มีช่องต่อฟุตสวิทช์
  • มีระบบป้องกัน Feedback
  • มีระบบ Master EQ ในปุ่มเดียว
  • กำลังไฟ 170-250 วัตต์
  • แรงต้านไฟ 4-8 โอห์ม
  • สามารถเชื่อมต่อไมโครโฟนและ MP3 ได้


7. Behringer PMP-2000D

ราคา : 17,500 บาท
ประหยัดพิเศษ
Behringer-PMP2000Dแนวตรง
ข้อมูล : 

Behringer PMP-2000D มิกเซอร์รุ่นใหญ่ที่มากด้วยกำลังขับถึง 2 x 1,000 วัตต์ ให้พลังเสียงกระหึ่มด้วยเทคโนโลยีเครื่องขยายเสียง Class-D น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ เชื่อต่อไมโครโฟนได้ เป็นมิกเซอร์แบบ 14 แชนแนล โดยจะมี 6 ช่องแบบโมโน และ 4 ช่องแบบสเตอริโอ สามารถปรับ EQ ได้ 3 แบนด์ นอกจากนี้ยังมี EQ กราฟิกคู่ 9 แบนด์ช่วยให้การแก้ไขความถี่ที่แม่นยำของจอภาพและเอาท์พุทหลัก รองรับการทำงานในทุกรูปแบบ

สเปค : 

รายละเอียดมิกเซอร์ Behringer PMP-2000D

  • กำลังขับ 2 x 1,000 วัตต์
  • เทคโนโลยีเครื่องขยายเสียง Class-D น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ
  • pre ไมค์“ Invisible” 9 ไมโครโฟนพร้อมกำลังไฟ 48 V แบบสลับได้สำหรับไมโครโฟนคอนเดนเซอร์
  • หน่วยประมวลผล KLARK TEKNIK FX คุณภาพสูงเป็นพิเศษพร้อม 25 สถานีที่ตั้งไว้ล่วงหน้ารวมถึงเสียงสะท้อน, คอรัส, นักร้อง, นักจัดดอกไม้, ดีเลย์, ระยะพิทช์ชิลต์และมัลติเอฟเฟกต์ต่างๆ
  • “พร้อมใช้งานแบบไร้สาย” สำหรับระบบไร้สายดิจิตอล BEHRINGER คุณภาพสูง (ไม่รวม)
  • ส่วนมิกเซอร์ 14 ช่องมี 6 โมโนและ 4 ช่องสเตอริโอ
  • ปรับ EQ ได้ 3 แบนด์
  • LED Clip ในทุกช่องโมโน
  • EQ กราฟิกคู่ 9 แบนด์ช่วยให้การแก้ไขความถี่ที่แม่นยำของจอภาพและเอาท์พุทหลัก
    สเตอริโอที่เลือกได้ (หลัก L / R), โมโนคู่ (เมน / มอนิเตอร์) หรือโหมดการทำงานของเครื่องขยายเสียงโมโน
  • สเตอริโออินพุต Aux ที่ปรับได้สำหรับการเชื่อมต่อแหล่งสัญญาณภายนอก
  • แหล่งจ่ายไฟโหมดสวิทช์ภายในเสียงไร้เสียงตอบสนองชั่วคราวที่เหนือกว่าและใช้พลังงานต่ำมาก
  • ออกแบบและวางระบบในเยอรมนี


8. Yamaha MG16XU

ราคา : 25,900 บาท
ประหยัดพิเศษ
Yamaha MG16XU
ข้อมูล : 

Yamaha MG16XU มิกเซอร์เอนกประสงค์ใช้งานง่ายโดยที่สามารถเชืื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอรืและมีเอฟเฟคในตัว XU นั้นย่อมาจาก SPX ซึ่งเป็นระบบเอฟเฟคและ USB ซึ่งในที่นี้จะให้มาเป็นระบบ 24 บิท สามารถทำงานร่วมกับ iPad2 ขึ้นไปในระบบ iOS แยกเป็นระบบโมโน 8 ช่อง และระบบสเตอริโอ 4 ช่อง Output มีทั้งแบบ XLR และ TRS ให้เลือกใช้งาน มีระบบ D-PRE ไมค์ปรีแอมป์ด้วยวงจรกลับเฟสของดาร์ลิงตัล ให้เสียงออกมาเป็นธรรมชาติและคมชัด งานนี้จะทำเพลงหรือจัดปาร์ตี้ก็สามารถทำได้ง่ายๆด้วยเครื่องเดียว

สเปค : 

รายละเอียดมิกเซอร์ Yamaha MG16XU

  • มิกเซอร์ ขนาด 16 ช่อง
  • ช่องต่อสัญญาณแบบ D-Pre
  • ระบบโมโน 8 ช่อง ระบบสเตอริโอ 4 ช่อง
  • ช่อง Output แบบ XLR และ TRS
  • ช่องเสียบ USB แบบ 24 บิท
  • ทำงานร่วมกับ iPad2 ขึ้นไป
  • เอฟเฟค SPX 24 แบบ
  • มีระบบ Cubase AI
  • ช่องสัญญาณออกชนิด 2 AUX (รวม FX)
  • มีระบบ D-PRE ไมค์ปรีแอมป์ด้วยวงจรกลับเฟสของดาร์ลิงตัล
  • มีระบบคอมเพรสเซอร์ 1-Knob
  • มี PAD สวิทช์สำหรับช่องต่อสัญญาณโมโน
  • สามารถใช้แหล่งจ่ายไฟได้ทั่วโลก
  • ขนาดตัวเครื่อง 5.1 x 10.5 x 19.7 นิ้ว
  • น้ำหนัก 15.7 ปอนด์


และนี่คือทั้ง 8 รุ่นพาวเวอร์มิกเซอร์คุณภาพดีจาก 2 แบรนด์ดังฝั่งอเมริกาและญี่ปุ่น โดยมีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาเบาๆ ไปจนถึงรุ่นใหญ่ไฟกระพริบมาเป็นเซ็ทพร้อมใช้งานระดับสูงกันเลย ซึ่งราคานั้นก็จะแตกต่างไปตามฟังก์ชั่นการใช้งานเช่น มีทั้งแบบ USB หรือแบบเล่น MP3 รวมถึงการเชื่อมต่อต่างๆก็จะไม่เหมือนกัน ก่อนจะซื้อควรต้องรู้ก่อนว่าตนเองใช้งานฟังก์ชั่นแบบไหน ถนัดแบบไหนถึงจะได้พาวเวอร์มิกเซอร์ที่ตรงตามความต้องการ หากยังไม่แน่ใจสามารถเข้ามาสอบถามที่ร้าน Music Arms ทุกสาขาได้เลย เรายินดีให้คำปรึกษาเพื่อนๆทุกคนเพื่อให้ได้ประสบการณ์ดีๆก่อนออกจากร้านไปเสมอครับผม

×