LINE


10 อัลบั้มนูเมทัลยอดเยี่ยมที่ต้องหามาฟัง

ไปซื้อ 10 อัลบั้มนูเมทัลยอดเยี่ยมที่ต้องหามาฟังที่สาขา

Image result for Static-X, Machine

Static-X, Machine (2001)
อัลบั้มที่ 2 ของวง Static-X วงเมทัลจากอเมิรกาที่บินไปอัดเสียงกันที่แคลิฟอร์เนีย ซาวด์ในอัลบั้มนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากชุดแรกพอสมควรเนื่องจากใช้ซาวด์อิเลคโทรนิคส์มากขึ้นแต่ตัวดนตรียังหนักแน่นเช่นเดิม อัลบั้มนี้ โคอิชิ ฟุคุดะ มือกีต้าร์ในชุดแรกผันตัวมาเล่นคีย์บอร์ดและเป็นโปรแกรมมิ่งดูแลด้านอิเล็คโทรนิคส์ซาวด์เต็มตัว เนื่องจากวงได้ตัว ทริปป์ เอสเซ่น มาเล่นกีต้าร์แมน โปรโมทด้วย 2 เพลง ที่ปล่อยออกมาติดต่อกันทั้ง This Is Not และ Black and White ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดและคำชมว่าเป็นเพลงนูเมทัลที่ทำออกมาได้หนักแน่นเข้าถึงอารมณ์ ก่อนที่จะปล่อยเพลง Cold ออกมาตอกย้ำกระแส ซึ่งเพลงนี้คนฟังจะคุ้นหูกันดีเนื่องจากประกอบภาพยนตร์เรื่อง Queen of the Damned อัลบั้มน้กวาดยอดขายไปเกิน 5 แสนชุด และขึ้นถึงอันดับ 11 ในบิลบอร์ดชาร์ต ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยากมากที่วงนูเมทัลจะมาถึงจุดนี้ได้

Image result for Korn, Korn

Korn, Korn (1994)
อัลบั้มแจ้งเกิดของตำนานนูเมทัลอย่าวง Korn ที่ใช้ชื่ออัลบั้มชื่อเดียวกับวง ออกมาเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ปี 1994 คอนเซปต์ของอัลบั้มค่อนข้างรุนแรงทั้งเรื่องยาเสพติดและเรื่องทางเพศ แต่เพลงเปิดตัว Blind ที่ส่งมาชิมลางเดือนสิงหาคมก่อนจะออกอัลบั้มเต็มกลับได้รับความนิยมเกินคาดในหมู่วัยรุ่นและนักเล่นสเก็ตบอร์ด จนวงต้องบินไปอัดเสียงกันที่แคลิฟอร์เนียเพื่อที่จะทำเพลงเพิ่มให้เต็มอัลบั้มทั้งที่ช่วงแรกนั้นคาดว่าจะมีคนฟังเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่เมื่อออกอัลบั้มเต็มมากระแสแรงอย่างไม่น่าเชื่อทั้งเพลง Need To และเพลง Clown ฮิตจนขึ้นชาร์ตเพลงตามค่ายวิทยุ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกเพราะดนตรีนูเมทัลในขณะรั้นยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่อัลบั้มนี้ของวง Korn ฟันยอดขายไปเกิน 10 ล้านชุดทั่วโลก เฉพาะที่อเมริกาก็เกิน 2 ล้านชุดเข้าไปแล้ว จัดเป็นอัลบั้มตำนานของเจ้าพ่อนูเมทัลอย่าง Korn ที่ขึ้นหิ้งไปแล้ว

Image result for Linkin Park, Hybrid Theory

Linkin Park, Hybrid Theory (2000)
อัลบั้มแรกของ Linkin Park หนึ่งในตำนานนูเมทัล ซึ่งชื่ออัลบั้มมาจากชื่อวงเก่าของพวกเขาก่อนจะเปลี่ยนเป็น Linkin Park เปิดตัวด้วยเพลง “One Step Closer” ก็เรียกเสียงฮือฮาด้วยการเข้าบิลบอร์ดชาร์ตในอันดับ 75 ก่อนจะปล่อยเพลง “Crawling” และ “Papercut” ออกมาตอกย้ำความสำเร็จกับซาวด์ดนตรีที่หนักแน่นและเสียงร้องแร๊พเท่ๆของเชสเตอร์และไมค์ ชิโนดะ และก็มาถึงซิงเกิ้ลที่ 4 เพลง In the end เพลงที่ส่งให้พวกเขาขึ้นแท่นวงนูเมทัลระดับแถวหน้าของโลก ขึ้นอันดับ 2 ในบิลบอร์ดชาร์ตและอันดับ 1 ในอีกหลายประเทศ อัลบั้มนี้ดังแทบทุกเพลงถือเป็นวงนูเมทัลที่โด่งดังในวงกว้างที่สุด ฟันยอดขายไปถึง 30 ล้านชุดทั่วโลกและถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อวอร์ดอีกด้วย

Image result for Slipknot, Slipknot

Slipknot, Slipknot (1999)
อัลบั้มเปิดตัวของวงนูเมทัลอันมีเอกลักษณืคือใส่หน้ากาก สำหรับอัลบั้มนี้พวกเขายังเพิ่มความแหวกแนวด้วยการใส่ชุดนักโทษทั้งวงอีกด้วย เปิดตัวด้วยเพลง WAIT AND BLEED ในแนวเมทัลขนานแท้ซาวด์ดนตรีดิบเถื่อนและมีการทำเสียงคำรามหรือว๊าก ต่อด้วย Slip it out มาให้เหล่าสาวกโยกหัวกันอย่างเมามันส์ เพียงแค่ 2 เพลงก็ทำให้ชื่อของวง Slipknot ขึ้นแท่นวงนูเมทัลหน้าใหม่ที่ต้องจับตามองในขณะนั้น อัลบั้มนี้สามารถขึ้นถึงอันดับ 51 ในบิลบอร์ดชาร์ต ซึ่งตามปกติแล้วแค่แนวดนตรีเมทัลจะขึ้นชาร์ตเพลงยังยาก แต่กระแสของ Slipknot แรงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ และคว้ารางวัลยอดขายแพลตตินั่มในอเมริกา รวมไปถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่อวอร์ดสาขาวงเมทัลยอดเยี่ยมอีกเช่นกัน

Image result for Slipknot, Iowa

Slipknot, Iowa (2001)
อัลบั้มที่ 2 ของวงนูเมทัลที่มีเอกลักษณืคือการสวมหน้ากาก หลังจากทำให้โลกประจักษ์ถึงความดิบเถื่อนในชุดแรกแล้ว ทางวงก็ได้พัฒนางานเพลงของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง และนี่คืออัลบั้มที่ว่ากันว่าดีที่สุดของพวกเขา เริ่มด้วยการเพิ่มสมาชิกในวงเป็น 9 คน ได้ตัว โจอี้ ยอร์ดิสัน มาตีกลอง และ พอล เกรย์ มาเล่นเบส ไปอัดเสียงกันที่ลอสแองเจลิส ชื่ออัลบั้ม IOWA นั้น เอามาจากชื่อเมืองอันเป็นบ้านเกิดอันที่รักของสมาชิกในวง ซึ่งชื่อเมือง IOWA นี้ ตั้งตามชื่อของเผ่าอินเดียนแดงเผ่าหนึ่งที่ชื่อ IOWA นั่นเอง เปิดตัวซิงเกิ้ลแรกด้วยเพลง Left Behind กลายเป็นเพลงที่โด่งดังที่สุดของพวกเขาและขึ้นอันดับชาร์ตเพลงทันที อัลบั้มนี้แนวเพลงพูดถึงเรื่อง บาป และ ซาตานอย่างชัดเจน มีการลือว่า Slipknot เป็นพวกบูชาซาตาน โดยตีความจากเนื้อเพลง HERETIC ANTHEM ในท่อนที่ร้องว่า “IF YOU’RE 555 THEN I’M 666” เนื่องจาก 666 เป็นเลขแทนความหมายของซาตาน อย่างไรก็ตามสำหรับสาวกนูเมทัลแล้ว อัลบั้มนี้จัดว่าขึ้นหิ้งและต้องหามาฟังอย่างยิ่ง

Image result for Limp Bizkit, Three Dollar Bill, Y’all

Limp Bizkit, Three Dollar Bill, Y’all (1997)
งานเดบิวต์ของวง”แร๊พร็อค”อเมริกันในชื่อวง Limp Bizkit ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมปี 1997 สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงทันทีเพราะผสมผสานดนตรีร็อคกับท่อนแร๊พได้อย่างลงตัว อัลบั้มนี้ได้ รอสส์ โรบินสัน โปรดิวเซอร์วง Korn มาทำเพลงให้ ดังนั้นแนวดนตรีจึงเป็นเมทัลขนานแท้ เปิดตัวด้วยเพลง “Counterfeit” ถูกจริตชาวนูเมทัลเป็นอย่างมาก ก่อนจะมาเปรี้ยงปร้างกับเพลง “Faith” ที่เปลี่ยนอารมณ์เพลงจากกีต้าร์เบาๆในช่วงต้นเพลงมาเป็นฮาร์ดคอร์สุดเจ๋งผสมผสานกับเทิร์นเทเบิ้ลได้ลงตัว ขึ้นที่ 22 บิลบอร์ดชาร์ตและคว้ารางวัลนักร้องหน้าใหม่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงกวาดยอดขายระดับดับเบิ้ลแพลตตินั่ม

Image result for Limp Bizkit, Chocolate Starfish and the Hot Dog Flavored Water (2000)

Limp Bizkit, Chocolate Starfish and the Hot Dog Flavored Water (2000)
หลังจากเปิดตัวได้สวยงามกับสองอัลบั้มที่ผ่านมา วง Limp Bizkit ก็ออกอัลบั้มที่ 3 ในปี 2000 ซึ่งว่ากันว่านี่คืออัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของพวกเขา สามารถทะยานขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ตอย่างที่ไม่เคยมีวงนูเมทัลวงไหนทำได้ และทำยอดขายเกิน 1 ล้านชุดในสัปดาห์แรกที่วางแผงเท่านั้น แค่ซิงเกิ้ลแรก “Take a Look Around” ก็ทำให้เหล่าสาวกเฮลั่นกับการคัมแบ็ค ก่อนจะต่อด้วยเพลง “My Generation” ที่กลายเป็นเพลงโด่งดังที่สุดของวงถึงขนาดคนที่ไม่ได้ฟังเพลงแนวนี้ยังเคยได้ยิน นอกจากนี้ยังมีเพลง “Rollin'” ให้โยกหัวกันอย่างถึงใจกับซาวด์ดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ งานเพลงชุดนี้ไม่ได้นิยมกันแค่กลุ่มนูเมทัลแต่โด่งดังไปทั่วโลก ทำยอดขายได้รวมเกิน 10 ล้านชุด

Image result for Papa Roach, Infest

Papa Roach, Infest (2000)
งานชุดที่ 2 ของวงร็อคอเมริกัน ก่อนหน้านี้เคยออกผลงาน Old Friends from Young Years ในปี 1997 แต่ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น อัลบั้มที่ 2 นี้จึงมีการปรับแนวดนตรีให้เข้าถึงตลาดกันเล็กน้อย เปิดตัวด้วยเพลง “Last Resort” ได้รับความนิยมเกินคาดขึ้นถึงอันดับ 57 ในบิลบอร์ดชาร์ต ทำให้วงการดนตรีรับรู้ว่ามีวงนูเมทัลที่น่าจับตามองเกิดขึ้นแล้ว ต่อเนื่องด้วยเพลง “Broken Home” และ “Between Angels and Insects” ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้ฟัง เรียกว่าการเปลี่ยนแนวเพลงประสบความสำเร็จอย่างสูง อัลบั้มนี้ขึ้นสูงสุดถึงอันดับ 5 ในบิลบอร์ดชาร์ต และทำยอดขายได้เกิน 7 ล้านชุดทั่วโลก เฉพาะที่อเมริกาก็เกิน 3 ล้านชุดเข้าไปแล้ว และทำให้พวกเขากลายเป็นวงนูเมทัลชื่อดังในช่วงเวลาไม่กี่เดือน

Image result for P.O.D., Satellite

P.O.D., Satellite (2001)
อัลบั้มที่เปิดตัวอย่างสวยงามของวง P.O.D สามารถทำยอดขายได้ถึง 7 ล้านชุด และขึ้นถึงอันดับ 6 บิลบอร์ดชาร์ต จริงอยู่ว่าชุดนี้อาจจะยังไม่เป็นนูเมทัลเต็มตัวเพราะมีแนวเพลงเร็กเก้ร็อคเข้ามาผสมเล็กน้อย เปิดตัวด้วยเพลง Alive ที่ใส่แนวเพลงนูเมทัลกันมาเต็มที่บ่งบอกให้แฟนเพลงรับรู้ถึงแนวทาง ซึ่งกระแสตอบรับนั้นดีเกินคาดสำหรับวงหน้าใหม่ จากนั้นก็โด่งดังต่อเนื่องกับเพลง “Youth of the Nation” และ “Boom” ไม่บ่อยครั้งที่นิตยสารโรลลิ่งสโตนจะให้คะแนนถึง 4 ดาวกับวงเมทัล แต่ P.O.D สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อวอร์ดสาขาวงเมทัลยอดเยี่ยมอีกด้วย แม้ว่าจะพลาดรางวัลไปแต่ก็ถือเป็นอัลบั้มที่เปิดตัวได้อย่างสวยงาม

×