LINE


10 เพลงสากลสุดฮิตแห่งยุค 2000

ไปซื้อ 10 เพลงสากลสุดฮิตแห่งยุค 2000ที่สาขา

เวปไซด์ http://tsort.info (The World’s Music Charts) เป็นเวปไซด์ที่รวบรวมสถิติต่างๆเกี่ยวกับวงการเพลงสากลไว้มากมาย และที่นี่มีการจัดอันดับเพลงตามชาร์ตต่างๆในแต่ละประเทศ โดยรวบรวมมาเป็นคะแนนในการตัดสินเพลงที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี ดังนั้น ชาร์ต 10 อันดับเพลงสากลนี้จึงเป็นผลโหวตจมาจากชาร์ตเพลงทั่วโลก รวมถึงการได้รับรางวัลในสถาบันต่างๆ ทั้งในวงการเพลงและยอดขายแผ่นทั่วโลก  วันนี้จะขอยก 10 เพลงดังในอดีตแห่งยุค 2000 มาให้ได้รับชมกัน ซึ่งหลายเพลงนั้นยังอยู่ในความทรงจำมาจนถึงปัจจุบัน

10. Hey Ya! – OutKast (2003)

เพลงของดูโอ้ฮิปฮอพ OutKast ที่ออกผลงานมาตั้งแต่ปี 1991 อยู่ในอัลบั้มชุดที่ 5 Speakerboxxx/The Love Below สิ่งที่ทำให้เพลงนี้แจ้งเกิดคือมิวสิควีดีโอซึ่งเลียนแบบการแสดงของ The Beatles ในปี 1964 ใน The Ed Sullivan Show โดยเอาสมชิกวง André 3000 ทั้ง 8 คนมาเป็นแบ็คอัพ เพลงได้รับความนิยมถึงขั้นคว้ารางวัลแกรมมี่อวอร์ดครั้งที่ 46 สาขา Best Alternative และนำไปประกอบภาพยนตร์ Flight of the Phoenix ในปี 2004 ขึ้น US Bilboard นานถึง 32 สัปดาห์ ทำยอดขายที่อเมริกาเกิน 1 ล้านชุด และยอดวิวมิวสิควีดีโอในยูทูปก็ทะลุหลัก 300 ล้านไปแล้ว

9. Can’t Get You Out of My Head – Kylie Minogue (2001)

เพลงจากอัลบั้ม Fever ชุดที่ 8 ของศิลปินสาวจากออสเตรเลีย Kylie Minogue ทันทีที่เพลงถูกปล่อยออกมา ก็สร้างกระแสไปทั่วโลกด้วยการขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงถึง 24 ประเทศ กลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Kylie Minogue ชั่วโมงนั้นผับทั่วประเทศไทยต้องเปิดเพลงนี้กันทั้งสิ้น เป็นอัลบั้มแรกของ Minogue ที่ทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านชุดแจ้งเกิดเป็นเจ้าแม่เพลงแดนซ์แห่งออสเตรเลียทันที โดยกวาดยอดขายไปทั่วโลกกว่า 5 ล้านแผ่น และทะลุถึงอันดับ 7 ใน บิลบอร์ดชาร์ต

8. Hips don’t lie – Shakira & Wyclef Jean (2006)

เพลงในอัลบั้มชุดที่ 7 Oral Fixation, Vol. 2. ของนักร้องสาวชากีร่า ส่งผลให้เธอแจ้งเกิดไปทั่วโลกเต็มตัวกับท่าเต้นสะโพกดินระเบิด นอกจากท่าเต้นเป็นเอกลักษณืแล้ว เพลงนี้ยังได้คำชมจากนักวิจารณ์เพลงทั่วโลกอีกด้วย ทะลุขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ต และอยู่ในชาร์ตยาวนานถึง 31 สัปดาห์ ประเทศที่นิยมมากที่สุดคืออังกฤษ 38 สัปดาห์ และแน่นอนว่าคว้ารางวัลมากมายไม่ว่าจะเป็น Best Art Direction Video ของ MTV รวมถึง Best Latin Track จากงานประกาศรางวัลเพลงแดนซ์นานาชาติ ทำยอดดาวน์โหลดในยุคดิจิตัลไปถึง 13 ล้านครั้ง

7. Without Me – Eminem (2002)

หนึ่งในเพลงที่โด่งดังที่สุดของเจ้าพ่อเพลงแร๊พ Eminem ผับต่างๆในประเทศไทยต่างเปิดกันถ้วนหน้า นักเที่ยวยุค RCA รุ่งเรืองย่อมได้ยินแน่นอน เพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 ใน 15 ประเทศทั่วโลก ตอกย้ำความสำเร็จของ Eminem ในอัลบั้มชุดที่ 4 The Eminem Show ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2002 มิวสิควีดีโอได้รับการยกย่องอย่างมากจนคว้ารางวัล Best Music Video จากแกรมมี่อวอร์ดมาครอง และยังคว้ารางวัลจาก MTV ถึง 4 สาขา ทำยอดขายเกิน 5 ล้านชุด และเพลงยังถูกนำไปประกอบภาพยนตร์เรื่อง Suicide Squad อีกด้วย รวมถึงทำยอดวิวในยูทูปเกิน 500 ล้านวิว

6. I Gotta Feeling – The Black Eyed Peas (2009)

เพลงที่คนอังกฤษฮิตข้ามปีเพราะอยู่ในชาร์ต UK1 ยาวนานเป็นอันดับ 2 ถึง 105 สัปดาห์ อยู่ในอัลบั้ม The E.N.D., ชุดที่ 5 ของ The Black Eyed Peas วงแดนซ์ชื่อดังฝั่งอเมริกา ทำสถิติเป็นเพลงแรกในประวัติศาสตร์โลกดิจิตัลที่ทำยอดดาวน์โหลดมากกว่า 7 ล้านครั้งในอเมริกา ทะยานขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ตอย่างยาวนาน 14 สัปดาห์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบันทึกเสียงยอดเยี่ยมจากแกรมมี่อวอร์ดแต่พลาดรางวัลไปอย่างน่าเสียดาย และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเพลงแห่งปีของ World Music Awards 2009 อีกด้วย

5. Bleeding Love – Leona Lewis (2007)

ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมเหลือเกินสำหรับเพลง Bleeding Love งานเพลงเดบิวต์ของ Leona Lewis ที่ฝ่ากระแสเพลงแดนซ์ในยุค 2000 มาแจ้งเกิดได้ เพลงขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงต่างๆทั่วโลกถึง 35 ประเทศ ทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านแผ่นซึ่งถือว่ายากสำหรับยุคดิจิตัลแบบนี้ และยังมียอดดาวน์โหลดมากถึง 4 ล้านครั้งอีกด้วย เพลงอยู่ในบิลบอร์ดชาร์ตนานถึง 39 สัปดาห์ และ UK1 ถึง 66 สัปดาห์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่อวอร์ดสาขา Record of the Year และ Best Pop Vocal Performance จนถึงปัจจุบันยังคงเป็นเพลงเดียวของ Leona Lewis ที่เข้าถึงท็อปเท็นของ Billboard Hot 100 และเป็นซิงเกิ้ลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวิตของเธอ

4. Umbrella – Rihanna & Jay-Z (2007)

เพลงที่สร้างประวัติศาสตร์อยู่ในชาร์ต UK1 ยาวนานสุด 108 สัปดาห์ อยู่ในอัลบั้มชุดที่ 3 Good Girl Gone Bad ของศิลปินสาวชาวบาร์บาเดี้ยน ริฮานน่า เพลงนี้ได้ Jay-Z แร๊พเปอร์อเมริกันมาร่วมแจมด้วย ความโด่งดังของเพลงนี้ถึงขั้นนิตยสารโรลลิ่งสโตนบรจจุเข้าทำเนียบ 500 เพลงยอดเยี่ยมตลอดกาล ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่อวอร์ด 3 สาขา และคว้ารางวัลเพลงแร๊พยอดเยี่ยมมาครอง ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงแทบทุกประเทศทั่วโลก ทำยอดขายที่อเมริกาในยุคดิจิตัลไปได้ถึง 4 ล้านชุด เป็นเพลงที่ริฮานน่าประสบความสำเร็จมากที่สุด ส่งเธอเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงทั่วโลกไปโดยทันที

3. Lose Yourself – Eminem (2002)

เพลงประกอบภาพยนตร์ 8 Mile ที่ตัว Eminem นำแสดงเอง ถือเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของแร๊พเปอร์อเมริกันรายนี้ สื่อหลายสำนักต่างยกย่องให้เป็นเพลงแร๊พยอดเยี่ยมแห่งยุค คว้ารางวัลออสการ์สาขา Best Original Song ในปี 2003 รวมถึงกวาดรางวัลแกรมมี่อวอร์ด 2 สาขา Best Rap Song และ Best Rap Solo Performance ทำยอดขายเฉพาะที่อเมริกาเกิน 10 ล้านชุด เป็นเพลงแร๊พที่ทำยอดขายได้มากที่สุดหลังยุค 2000 และปัจจุบันยังมียอดดาวโหลดเพลงนี้รวมถึง 7 ล้านครั้งอีกด้วย แน่นอนว่าขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ตชาร์ตโดยเบียดนักร้องดังอย่าง เจนนิเหอร์ โลเปซ และ คริสติน่า อากีเลร่า โดยใช้เวลาแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น

2. Poker Face – Lady GaGa (2009)

เพลงแจ้งเกิดของศิลปินเจ้าแม่แฟชั่นอย่าง เลดี้ กาก้า อยู่ในอัลบั้ม The Fame ออกมาเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2008 ในแนวเพลง synth-pop เนื้อเพลงกล่าวถึงความรักของไบเซ็กช่วล ซึ่งเธอออกมายอมรับว่าเป็นไบเซ็กช่วลด้วย กลายเป็นอเมริกันไอดอลยุคใหม่ไปในทันที ทำยอดดาวโหลดยุคดิจิตัลสูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 3 20.58 ล้านครั้ง เป็นรองแค่เพลง “Rolling in the Deep” (20.6 ) และเพลง “See You Again” (20.9) เท่านั้น ขึ้นอันดับบิลบอร์ดชาร์ตนานถึง 40 สัปดาห์ และ UK1 84สัปดาห์ รวมถึงเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่อวอร์ด 3 สาขา ก่อนจะคว้ามา 1 รางวัลคือ Award for Best Dance Recording แน่นอนว่าเธอไม่ลืมแต่งชุดแฟชั่นหลุดโลกขึ้นรับรางวัลอีกด้วย

1. Yeah! – Usher (2004)

เพลงชาติของขาแดนซ์ยุค 2000 อยู่ในอัลบั้มชุดที่ 4 Confessions เพลงนี้ได้ Lil Jon และ Ludacris มาร่วมแจมด้วย กลายเป็นเพลงสุดฮิตของวัยรุ่นอเมริกันทันที ด้วยการขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ตใน 2 สัปดาห์เท่านั้น และครองอันดับ 1 ยาวนานถึง 12 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังขึ้นอันดับ 1 US BB 1 คลื่นวิทยุชาวอเมริกันนานถึง 31 สัปดาห์ ทำยอดขายไปถึง 4 ล้านชุดในอเมริกา สื่อหลายสำนักยกย่องในแนวคิดรวมเพลง R&B เข้ากับเพลงแร๊พได้อย่างยอดเยี่ยม คว้า 2 รางวัล MTV สาขา Best Dance Video และ Best Male Video และแน่นอนว่าไม่พลาดรางวัลเพลงแร๊พยอดเยี่ยมแห่งปีจากแกรมมี่อวอร์ด 2005

×