Fender American Elite Jazz Bass เบส 4 สาย

ขายเพียง  74,700฿ จาก  79,000฿

Fender American Elite Jazz Bass V เบส 5 สาย

ขายเพียง  74,700฿ จาก  83,000฿

Fender Flea Signature Roadworn Jazz Bass เบส 4 สาย

ขายเพียง  49,500฿ จาก  55,000฿

Ibanez RGAIX6FM กีตาร์ไฟฟ้า

ขายเพียง  33,300฿ จาก  37,000฿

Fender Jimi Hendrix Stratocaster กีตาร์ไฟฟ้า

ขายเพียง  39,600฿ จาก  44,000฿

10 นักไวโอลินหญิงยอดเยี่ยมของโลก

ไวโอลินถือเป็นเครื่องดนตรีที่กำเนิดมาบนโลกนี้อย่างยาวนานเกิน 100 ปี ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาได้มีนักไวโอลินที่บรรเลงเพลงได้อย่างไพเราะจับใจมากมายได้ทั้งชายและหญิง แต่ปัจจุบันเนื่องจากเป็นเครื่องดนตรีที่มีขนาดค่อนข้างเล็กทำให้ส่วนใหญ่แล้วนักไวโอลินในปัจจุบันมักจะเป็นสตรีเพศเสียมากกว่า ซึ่งวันนี้ทาง Musicarms ก็จะขอพาไปแนะนำกับนักไวโอลินหญิงทั้ง 10 คนที่ทางต่างประเทศยกย่องว่าเป็นที่สุดของโลกจริงๆ ซึ่งแต่ละท่านนั้นเปี่ยมด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง ถ้าเพื่อนๆต้องการรับฟังฝีมืออันไพเราะของพวกเธอเหล่านี้ก็สามารถนำชื่อไปค้นหาคลิปกันได้เลย รับรองว่าไม่ธรรมดาอยู่แล้ว จะมีใครบ้างนั้นไปรับชมกันได้เลย

Ida Haendel

คุณยาย Ida ที่ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ด้วยวัยเกือบ 90 ปี เป็นนักไวโอลินชาวโปแลนด์อันเลื่องชื่อ เธอเกิดเมื่อปี 1928 ภายในครอบครัวที่คุณพ่อเป็นนักไวโอลิน, Ida Haendel จึงได้จับไวโอลินตั้งแต่ 5 ขวบ และด้วยพรรวรรค์อันเหลือเชื่อเธอได้รับรางวัลแรกของชีวิตในงานประกวดไวโอลินที่สามารถชนะเลิศด้วยวัยเพียง 7 ขวบเท่านั้น เมื่อผลงานเข้าตาเสียขนาดนี้ทางโรงเรียนดนตรีที่อังกฤษและฝรั่งเศสจึงไม่รีรอที่จะยื่นข้อเสนอรับ Ida ไปเรียนดนตรีทันที ซึ่งหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณยาย Ida ก็ได้มีผลงานลือเลื่องมากมายตั้งแต่ปี 1952 และเคยขึ้นคอนเสิร์ต Live in Montreal เช่นเดียวกับวง Queen จนได้รับรางวัลเครื่องราชอิศริยาภรณ์ชั้น CBE (รองจากอัศวิน) จากควีนอลิซาเบธของอังกฤษ และได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งไวโอลินในปัจจุบัน

Ginette Neveu

อัจฉริยะทางด้านไวโอลินที่อายุสั้นแค่ 30 ปีเท่านั้น Gilnette แสดงความเป็นอัจฉริยะด้านดนตรีของเธอมาอย่างเต็มเปี่ยมด้วยการเล่นเครื่องดนตรีประเภทสายทั้งไวโอลินและเชลโล่ได้ภายในอายุแค่ 7 ปีเท่านั้น และเมื่อเธออายุ 15 ปีก็ได้ประกวดเวที Wieniewski และได้รางวัลชนะเลิศ ว่ากันว่าเพียงแค่อายุ 15 ก็สามารถเข้าถึงไวโอลินได้ทุกจังหวะเพราะเพลงที่เธอใช้เล่นตอนประกวดคือเพลงจังหวะ Waltz ที่ค่อนข้างยากสำหรับนักไวโอลิน หลังจากชนะเลิศการประกวดแล้วก็ได้รับการทาบทามจากมหาวิทยาลัยดนตรีในฝรั่งเศสและเริ่มเปิดการแสดงคอนเสิร์ตไปทั่วโลกทั้งยุโรปและอเมริกา แต่โชคร้ายที่ไม่นานนักก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เธอต้องพักการแสดงไป จนเสียชีวิตด้วยเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อวัยแค่ 30 ปี นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการไวโอลินโลก

Anne Sophie Mutter นักไวโอลินหญิง

Anne-Sophie Mutter

นักดนตรียุคปัจุบัน (เกิดปี 1963) จากเยอรมันคนนี้มีฝีไม้ลายมือที่ไม่ธรรมดา เธอเริ่มเล่นดนตรีเพียงแค่ 5 ขวบเท่านั้นซึ่งเริ่มจากเปียโนก่อนจะมาหลงรักในไวโอลินเข้าอย่างจัง ซึ่งถือว่าโชคดีอย่างมากที่ทางบ้านสนับสนุนด้วยการส่งไปเรียนกับ Aida Stucki นักไวโอลินชาวเช็กชื่อดัง ซึ่งตัว Anne เองก็เก็บเกี่ยววิชามาได้เต็มเปี่ยมจนอายุแค่ 13 ปีก็สามารถเล่นเพลง Mozard Violin Concerto No.4 in D Major ซึ่งเป็นเพลงที่ยากมากได้แล้ว พออายุ17 ปีก็เริ่มออกแสดงทัวร์ไปทั้งอเมิรกาและแคนาดา โดยไวโอลินที่เธอใช้ก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้วเพราะเธอมีไวโอลิน Stradivarius ที่หายากถึง 2 รุ่น (รุ่นปี 1703 และปี 1710) เกียรติประวัติก็ยังได้รับรางวัลแกรมมี่อวิร์ดสาขา Best Instrumental Soloist ประเภทเครื่องดนตรีอออเคสตราถึง 3 ครั้ง

Julia Fischer

จัดเป็นนักไวโอลินหญิงดาวรุ่งพุ่งแรงเพราะตอนนั้นเธออายุแค่ 33 ปีเท่านั้น แต่ได้รับคำชมอย่างมากกับการแสดงที่ผสมผสานเสียงของดนตรีแบบเก่าและสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว Julia สาวชาวเยอรมันคนนี้เริ่มต้นเล่นดนตรีจากเปียโนก่อนตามพี่ชาย แต่เธอเห็นว่าไม่ควรเล่นเครื่องดนตรีเหมือนกันจึงเบนเข็มไปจับไวโอลิน และนั่นทำให้โลกกำเนิดนักไวโอลินระดับโลกคนใหม่ขึ้นมา เธอสามารถเรียนรู้ได้เร็วจนอายุแค่ 19 ปีก็สามารถเล่นเพลงของโมสาร์ทได้อย่างแตกฉาน ด้วยครอบครัวที่มีพื้นฐานทางดนตรีเธอจึงได้ร่วมกับวงออเคสตราไปทัวร์คอนเสิร์ตที่อเมริกาและยุโรปในปี 2003 ซึ่งได้รับการจับตามองทันที จนเมื่อปี 2007 Julia ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดไวโอลินนานาชาติที่อัมสเตอร์ดัมส์ และได้รับคำชมว่าเป็นนักดนตรีคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามอง

Tasmin Little

นักไวโอลินสาวชาวอังกฤษผู้นี้เป็นที่รู้จักกันดีเพราะเธอขึ้นคอนเวิร์ตแสดงเยอะมาก ซึ่ง Tasmin นั้นมีพื้นฐานมาจากคุณพ่อเป็นนักแสดงชื่อดัง ทำให้เธอมีโอกาสคลุกคลีในวงการบันเทิงตั้งแต่ยังเล็ก บวกกับพรรสวรรค์ในด้านดนตรีที่ทำได้ดีเริ่มเรียนไวโอลินเพียงแค่ 8 ขวบเท่านั้นกับ Nigel Kennedy นักดนตรีชาวอังกฤษ มีผลงานการแสดงเล็กๆน้อยๆมาเรื่องจนอายุ 18 ปีก้ได้รับรางวัล BBC Young Musician of the Year ในปี 1982 ผลงานที่สร้างชื่อคือบทเพลง Sonata No.3 in D minor และได้ออกอัลบั้มมาหลายอัลบั้ม ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Tasmin Little Symphony no. 1 และล่าสุดเมื่อปี 2008 ชื่อว่า The Naked Violin ซึ่งก็เป็นการยืนยันฝีมือขั้นสุดยอดของเธอได้เป็นอย่างดี

Kwung-wha Chung

นักไวโอลินวัย 68 ปีจากเกาหลีใต้คนนี้ได้รับการยกย่องไปทั่วโลก ด้วยพื้นฐานครอบครัวที่คุณแม่เป็นนักเปียโนทำให้เธอได้มีโอกาสเรียนไวโอลินตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จนอายุ 13 ปีก็ได้ไปเรียนดนตรีที่อเมริกาและได้เข้าร่วมวง โซล ออเคสตราของเกาหลีใต้ ในปี 1967 นั้นเธอได้ลงประกวดไวโอลินในเวที Edgar Leventritt และสร้างประวัติศาสตร์เป็นชาวเอเชียคนแรกที่ชนะเลิศ จนได้รับการทางทามจากวงออเคสตราระดับโลกมากมาย ซึ่งเธอได้ตอบรับวง ลอนดอน ซิมโฟนี่ จนออกอัลบั้มในปี 1974 ได้เดินสายเล่นคอนเสิร์ตไปทั่วทั้งยุโรปและอเมริกาซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นชาวเอเชียที่ไปถึงระดับโลก จนปี 2007 เธอก็ได้กลับมาเปิดโรงเรียนสอนดนตรีที่เกาหลีใต้บ้านเกิดเพื่อพัฒนาวงการดนตรีต่อไป

Monica Huggett

นักไวโอลินชาวอังกฤษวัย 60 กว่าปีผู้นี้ โด่งดังจากการก่อตั้งวงออเคสตราขึ้นมาเองเมื่อปี 1980 ชื่อวง อัมสเตอดัมส์ บาร็อค ออเคสตรา เนื่องจากในสมัยเรียนนั้นเธอได้เรียนโรงเรียนดนตรีที่ลอนดอนมาตลอดจนรวบรวมเพื่อนสมาชิกตั้งวงกันเองเลยซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง และได้ทัวร์การแสดงไปทั้งยุโรปและอเมริกา คุณป้า Monica นั้นเรียกว่าเป็นประเภทเก่งเงียบมาตลอดเพราะเธอไม่ได้มีผลงานที่โดดเด่นตั้งแต่วัยเยาว์เหมือนนักไวโอลินระดับโลกคนอื่นๆทั่วไป แต่การออกมาทำวงครั้งเดียวของเธอนั้นสร้างชื่อเสียงที่โลกไม่ลืมได้อย่างแท้จริงด้วยการกวาดรางวัลจาก BBC ไปถึง 5 รางวัลรวมไปถึง การชนะเลิศ ASV Gramophone Award เมื่อปี 2002

Viktoria Mullova

นักไวโอลินสาวชาวรัสเซียวัย 50 กว่าปีผู้นี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักไวโอลินแจ๊สชื่อก้องของโลก เธอเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนดนตรีในมอสโกและชนะเลิศการประกวดไวโอลินที่ฟินแลนด์เมื่อปี 1982 จนได้เริ่มเปิดการแสดงไปทางแถบสแกนดิเนเวียและเป็นที่รู้จักมากขึ้น ได้ร่วมแจมกับนักดนตรีชื่อดังมากมายและมีบทเพลงที่สร้างชื่อเสียงเช่น Beethoven Violin Sonatas No. 3, 9 ที่ร่วมบรรเลงคู่กับ Kristian Bezuidenhout จนโด่งดังไปทั่วโลก Viktoria ขึ้นชื่อว่าหลงใหลในดนตรีแจ๊สอย่างมากจึงปรากฏตัวในงานแสดงโชว์ดนตรีแจ๊สค่อนข้างบ่อย เมื่อปี 2005 เธอก้ได้รับรางวัล Grammy Award จากบทเพลง Mozart Violin Concertos No 1 ที่บรรเลงได้อย่างยอดเยี่ยม

Nicola Benedetti

สาววัย 29 ปีลูกครึ่งอิตาเลียน-สก็อตต์รายนี้ได้รับการกล่าวขานคู่กับ Julia Fischer ว่าจะโด่งดังมาคู่กัน เพราะ Nicola เองเริ่มฉายแววของการเป็นยอดนักไวโอลินด้วยอายุเพียง 8 ขวบด้วยการเป็นหัวหน้าวงออเคสตราเด็กของเกาะอังกฤษไปแล้ว (เธอเริ่มเรียนไวโอลินตั้งแต่อายุ 4 ขวบ) จนเมื่อปี 2000 ซึ่งขณะนั้นเธออายุแค่ 13 ปีเท่านั้นก็ถูกทางวงออเคสตราของสก็อตแลนด์กวักมือให้เข้าร่วมเป็นนักไวโอลินหลัก และชนะเลิศการประกวดไวโอลินระดับโลกอย่างรายการ BBC Young Musician of the Year ด้วยบทเพลง Szymanowski Concerto หนึ่งในเพลงยากระดับโลกเมื่อปี 2004 ซึ่งขณะนั้นเธออายุแค่ 16 ปีเท่านั้น ปัจจุบัน Nicola เองก็ยังร่วมวงออเคสตราของเกาะอังกฤษและมีผลงานออกมาให้รับฟังกันเรื่อยๆ

Janine Jansen

นักไวโอลินสาววัย 30 กว่าปีชาวฮอลแลนด์รายนี้เริ่มเล่นไวโอลินตั้งแต่อายุแค่ 6 ขวบซึ่งครอบครัวของเธอให้การสนับสนุนอย่างดี จนอายุ 23 ปีก็ได้มีผลงานโซโล่ Brahms Violin Concerto ที่เปิดการแสดงในสก็อตแลนด์และสร้างความตื่นตาต่อผู้เข้าชมในฐานะนักไวโอลินที่น่าจับตามอง ไวโอลินที่เธอใช้ยังเป็นรุ่น Stradivari “Barrere” ที่ผลิตในปี 1727 ที่หายากอีกด้วย ซึ่ง Janine แตกต่างจากนักไวโอลินคนอื่นตรงที่เธอมักจะไม่ค่อยรวมวงกับวงออเคสตราเท่าไหร่นักเน้นการเล่นโซโล่เสียมากกว่า ซึ่งก็มีผลงานส่วนตัวมาแล้วถึง 4 อัลบั้ม รวมไปถึงเพลงใน iTune อย่าง “Trio Sonata in G Major” และ “Sonata for Violin and Harpsichord No. 6 In G Major”. ที่สามารถโหลดมาฟังความเป็นอัจฉริยะของนักไวโอลินสาวผู้นี้ได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณบทความจาก Spinditty

ขอบคุณรูปภาพจาก Spinditty, Youtube

Ibanez RG421EX กีตาร์ไฟฟ้า

ขายเพียง  16,200฿ จาก  18,000฿

Hofner AS-060B ดับเบิ้ลเบส

Hofner AS-060C เชลโล

Marshall MG15CFX แอมป์กีตาร์ไฟฟ้า

ขายเพียง  9,600฿ จาก  12,000฿

10 กีต้าร์แบรนด์ดังคุ้มราคา

พูดถึงแบรนด์ดังๆของกีต้าร์ไฟฟ้าก็คงหนีไม่พ้น Gibson และ Fender ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าสองค่ายยักษ์ใหญ่นี้เป็นที่นิยมไปทั่วโลกและผลิตกีต้าร์ออกมาได้อย่างมีคุณภาพ แต่เนื่องจากราคาของสองแบรนด์นี้จะค่อนข้างสูงสำหรับนักกีต้าร์มือใหม่หลายๆคน ซึ่งบางคนอาจกำลังมองหากีต้าร์สำหรับเริ่มฝึกซ้อม หรือกีต้าร์คุณภาพดีใช้แก้ขัดในช่วงที่กำลังเก็บหอมรอมริบที่จะซื้อกีต้าร์ดีๆต่อไป ดังนั้นในวันนี้ Musicarms จึงจะมาแนะนำกีต้าร์ 10 รุ่นที่คุณภาพดีเสียงเนี๊ยบในราคาย่อมเยาแบบเหลือเชื่อ เพื่อที่เพื่อนๆจะได้มีทางเลือกในการเลือกซื้อกีต้าร์สำหรับฝึกฝีมือในทุนทรัพย์ที่เหมาะสม จะมีรุ่นไหนบางนั้นเชิญรับชมกันได้เลย

Squier Affinity Stratocaster

แบรนด์ Squier นั้นรู้กันดีว่าเป็นแบรนด์ค่ายลูก Fender อยู่แล้ว คุณภาพกีต้าร์ที่ออกมาจึงได้มาตรฐานจากค่ายหลักพอสมควร เรื่องราคาถือว่าถูกอย่างเหลือเชื่อทาง Musicarms จำหน่ายอยู่ที่ 7470 บาทเท่านั้น หรือถ้าใครอยากใช้แบบฮัมบัคกิ้งก็แค่ 7650 บาทเช่นกัน ข้อดีของรุ่นนี้คือมีมีปิ๊กอัพทั้งสองแบบ Single-Coil และ Humbucking ให้เลือกใช้ได้ตามความชอบ นอกจากนี้ยังมีแบบคอขาวที่ทำจากไม้เมเปิ้ลและคอดำที่ทำจากไม้โรสวู้ดให้เลือกอีกด้วย จัดเป็นรุ่นราคาถูกที่ผู้ใช้สามารถเลือกสเป็คกีต้าร์ได้หลากหลาย วัสดุไม้ที่ใช้ทำบอดี้ยังเป็นไม้เอลเดอร์แบบเดียวกับ Fender อีกด้วย คอก็เป็นไม้เมเปิ้ล เรียกได้ว่าเหมือนจับกีต้าร์ Fender ในราคาที่ย่อมเยาอย่างเหลือเชื่อ

Squier Affinity Telecaster

เมื่อมีทรง Strat ก็ต้องมีทรง Tele เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีต้าร์ทรงนี้ ซึ่งแบรนด์ลูกของ Fender ก็ยังทำออกมาได้ดีด้วยราคาที่เท่ากันกับ Strat ไม้บอดี้เป็นไม้เอลเดอร์เช่นเดียวกันซึ่งหาได้ยากมากในกีต้าร์แบรนด์ล่างๆ รวมไปถึงคอเมเปิ้ลให้เสียงที่ใส กังวานเกินราคา ตัวปิ๊กอัพยังใช้รุ่นแบบวินเทจที่นิยมใช้ในกีต้าร์ Fender อีกด้วย ตัวบริดจ์และลูกบิดทั้งหมดตามแบบมาตรฐานบริษัทแม่อย่าง Fender เป๊ะๆ ทำให้เจ้า Squier Aff Tele รุ่นนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมสูงในหมู่กีต้าร์ราคาถูกที่ให้เสียงดีและคุ้มเรื่องคุณภาพ

Epiphone LP Special II

ค่ายลูกของ Gibson ซึ่งออกกีต้าร์รุ่นนี้มาเพื่อตอบโจทย์นักดนตรีที่ต้องการกีต้าร์ราคาย่อมเยาอย่างแท้จริง เรื่องคุณภาพนั้นไว้วางใจได้ตามแบรนด์ Epiphone mี่จำหน่ายกีต้าร์มาอย่างยาวนาน ด้วยทรง Les Paul ที่เป็นเหมือนซิกเนเจอร์ของค่ายแม่ในราคาที่ถูกจนตกตะลึงแล้ว ตัววัสดุที่ใช้ทำบอดี้อย่างไม้มะฮอกกานียังถือเป็นไม้ที่เกินราคากีต้าร์ไปเยอะอีกด้วย รุ่นนี้จะให้เสียงที่หนาตามแบบฉบับ Gibson แม้ๆ เพราะส่วนคอก็ทำจากไม้มะฮอกกานี รวมไปถึงการใช้ปิ๊กอัพแบบ Humbucking คู่เหมือนกีต้าร์ราคา Hi-end รุ่นนี้ทาง Musicarms วางขายที่ 6300 บาทเท่านั้น เมื่อดูราคาเทียบกับวัสดุและเสียงก็ต้องบอกว่าถูกจนไม่รีบจับจองเป็นเจ้าของไม่ได้ซะแล้ว

Epiphone SG Special

กับราคาที่ทาง Musicarms วางจำหน่ายมาแค่ 6750 บาท แต่ผู้ซื้อจะได้บอดี้ไม้มะฮอกกานีและคอไม้เมเปิ้ลถือเป็นเรื่องประหลาดใจสำหรับกีต้าร์ราคานี้แล้ว ทางค่ายยังใส่ปิ๊กอัพแบบ Humbucking รุ่น 650R และ 700T มาให้อีกด้วยซึ่งถือว่าคุ้มค่ามาก ทำให้เรื่องเสียงนั้นดุดันกว่ากีต้าร์แบรนด์ระดับล่างทั่วไปให้ความรู้สึกกีต้าร์น้องๆ Gibson แท้ๆ แถมทรง SG นั้นเป็นกีต้าร์ที่แบรนด์ระดับล่างมักจะไม่ค่อยผลิตออกมาจำหน่าย ทำให้ซื้อเจ้าตัวนี้ไปแล้วนอกจากจะได้ความคุ้มในเรื่องซาวด์และคุณภาพ ยังได้ความเท่แหวกแนวเรื่องทรงบอดี้กีต้าร์อีกด้วย

Ibanez GRX-55B

แบรนด์ดังอย่าง Ibanez ได้ส่งรุ่นนี้เข้ามาชิงชัยในกลุ่มกีต้าร์ราคาถูก ด้วยราคาเพียงแค่ 6800 บาท ที่หาซื้อได้ที่ Musicarms เอง คุณจะได้กีต้าร์ที่ทำจากไม้ป็อปลาร์ที่ให้เสียงเช่นเดียวกับไม้เอลเดอร์เหมือนกีต้าร์แบรนด์ดังฝั่งอเมริกา นอกจากนี้ยังจะได้ปิ๊กอัพ 3 ตำแหน่งซึ่งเป็นแบบฮัมบัคกิ้งถึง 2 ตัวของ Ibanez เองทำให้สามารถเลือกซาวด์กีต้าร์ได้ตามความชอบ คอไม้เมเปิ้ลเนื้อเสียงเด้งๆชัดทุกเม็ด รวมไปถึงลูกเล่นเพิ่มเติมเช่นบริดจ์ที่ใส่คันโยกได้ เทียบกับราคาที่ออกมาถือว่าเกินคุ้มสำหรับแบรนด์ดังที่นักดนตรีทั่วโลกนิยมใช้อย่าง Ibanez

Sterling SUB Silo3

สาวกมิวสิคแมนได้กรี๊ดกร๊าดกันเต็มที่เมื่อแบรนด์ลูกอย่าง Sterling ผลิตกีต้าร์รุ่น SUB Silo3 ออกมาวางจำหน่ายในราคาแค่ 8100 บาท เพราะเป็นที่รู้กันว่าแบรนด์นี้คุณภาพเยี่ยมและราคาค่อนข้างสูงพอสมควร ทำให้เจ้า SUB Silo3 ได้รับความนิยมภายในเวลาอันรวดเร็ว การออกแบบกีต้าร์ทำได้เหมือนกีต้าร์ Hi-end ในแบรนด์แม่โดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์เดิมเช่นทรง Double Cutaway หรือการวางลูกบิดกีต้าร์ ตัววัสดุอื่นๆอย่างบริดจ์และปิ๊กอัพใช้ของทางมิวสิคแมนเองซึ่งได้มาตรฐานและนิยมกันไปทั่วโลกอยู่แล้ว กับราคาเพียงเท่านี้ได้สเป็คกีต้าร์แบบมิวสิคแมนนี่โอกาสแบบนี้ถือว่าหายาก ต้องรีบเป็นเจ้าของให้ไว

Yamaha Pacifica PAC112J

แบรนด์ยามาฮ่านั้นค่อนข้างไว้ใจได้สำหรับมือกีต้าร์อยู่แล้ว ด้วยวัสดุที่ใช้ทำกีต้าร์ได้มาตรฐานตามแบบฉบับยามาฮ่าเอง และรุ่น PAC112J นี้ก็ยังคงคอนเซปต์ของยามาฮ่าได้อย่างสมบูรณ์แบบในราคาเพียงแค่ 8415 บาทเท่านั้นซึ่งสามารถซื้อได้ที่ Music Arms เอง ซึ่งรุ่นนี้ไม้บอดี้จะเป็นไม้เอลเดอร์ที่หาได้ยากในกีต้าร์ระดับล่าง นอกจากนี้ยามาฮ่ายังจัดเต็มสำหรับลูกค้าเน้นๆด้วยการใช้ปิ๊กอัพ Humbucking รวมกับ Single-Coil มาให้รวมไปถึงใช้บริดจ์แบบมีคันโยกอีกด้วย เรื่องราคานี่ยังไงก็คุ้มกับแบรนด์ระดับโลกอย่างยามาฮ่าอยู่แล้ว ได้ออปชั่นกีต้าร์เน้นๆแบบนี้ไม่ซื้อไม่หาคงไม่ได้แล้ว

Yamaha PACIFICA012

เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ยามาฮ่าส่งมาตีตลาดล่างด้วยคุณภาพที่คุ้มเกินคุ้ม เพราะราคาแค่ 6400 บาท (ซื้อได้ที่ Music Arms) ซึ่งราคาแบบนี้ปกติจะได้แค่ไม้เบสวู้ดเท่านั้น แต่ทางยามาฮ่าใช้ไม้เอลเดอร์กับไม้มะฮอกกานีประกบคู่เช่นเดียวกับแบรนด์ดังอย่าง Fender หรือ Gibson รวมไปถึงการใช้คอเป็นไม้เมเปิ้ลที่เกินราคากีต้าร์แบรนด์ล่างไปมาก ตัวปิ๊กอัพยังเป็นทั้ง Humbucking และ Single-Coil ปรับซีเล็คเตอรืได้ถึง 5 ทางผสมเสียงได้กว้างตอบโจทย์ทุกแนวดนตรี ราคาน่าคบหาแบบนี้ใครที่กำลังมองหากีต้าร์สำหรับฝึกหัดก็มาจับจองซื้อหาเจ้า PACIFICA012 กันได้ รับรองว่าคุ้ม

SGR by Schecter Solo-II

เมื่อแบรนด์อื่นส่งกีต้าร์ราคาถูกบุกตลาด ทำให้ค่ายยักษ์อย่าง Schecter ทนไม่ไหวต้องส่งรุ่น SGR Solo II เข้าร่วมประลองด้วย ทำให้ผลดีมาตกที่นักดนตรีอย่างเราๆเพราะจะได้กีต้าร์คุณภาพในราคาแค่ 6160 บาทเท่านั้น เรื่องคุณภาพเสียงสไตล์ Schecter ที่ดุดันเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ซึ่งรุ่นนี้จะใส่ปิ๊กอัพของ Schecter แบบ Humbucking มาให้ทั้ง 2 ตัว รวมไปถึงวัสดุอื่นๆที่มีคุณภาพอย่างตัว Nut ที่ทำจากตะกั่วสึกหรอยากสายไม่เพี้ยน บริดจ์แบบใส่สายด้านหลังและลูกบิดของ Schecter เอง ซึ่งถือว่าจัดเต็มมาเกินราคามาก การดีไซด์สวยงามด้วยอินเลย์ลายกางเขนที่เฟรต 12 ทุกอย่างมาครบในราคาแค่นี้ต้องบอกว่าค่าย Schecter ใจถึงอย่างแรง

Cort G-110

สุดยอดกีต้าร์แห่งความคุ้มค่าด้วยราคาไม่ถึง 5000 (4500 บาท ซื้อได้ที่ Music Arms) ด้วยวัสดุที่เลือกสรรกันมาอย่างดีทั้งบอดี้ไม้อกาธิสและคอไม้เมเปิ้ล ซาวด์กีต้าร์กว้างเล่นได้ทุกแนวดนตรี และทรงแบบ Dubble-Cutaway จับง่ายถนัดมือ ทรงคอและบอดี้ถือว่าบางเฉียบเหมาะสำหรับมือใหม่อย่างแรงซึ่งจะไม่เทอะทะเวลาหัดเล่นกีต้าร์ ปิ๊กอัพที่ให้มายังครบครันทั้งแบบ Humbucking และ Single-Coil รวมถึงซีเล็คเตอร์ 5 ทางปรับจูนกันสบายตามความชอบ แบรนด์ Cort มีชื่อติดหูชาวไทยมานานด้วยคุณภาพกีต้าร์ที่ได้มาตรฐาน แล้วมาออกรุ่นราคาย่อมเยาแบบนี้คงไม่ซื้อไม่ได้แล้ว

ทั้ง 10 รุ่นนี้เป็นกีต้าร์ที่ทำมาได้ตอบโจทย์นักดนตรีที่ทุนทรัพย์อาจจะไม่มากได้เป็นอย่างดี ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเป็ฯทรงหรือยี่ห้อที่เพื่อนๆสามารถเลือกซื้อกันได้และทาง Music Arms ก็มีวางจำหน่ายครบทั้ง 10 รุ่น หากใครกำลังมองหากีต้าร์ราคาถูกไว้ซ้อมก็หวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อกีต้าร์ของเพื่อนๆ และอยากได้แวะมาลองเสียงกันที่ Music Arms ทั้งสองสาขาซึ่งรับรองได้ว่าคุณภาพกีต้าร์ที่แนะนำไปนั้นคุ้มค่าเกินราคาและน่าเป็นเจ้าของจริงๆ

บทความและรูปภาพจาก Musicarms