8 Diva สาวเสียงดีแห่งวงการเพลงไทย

Musicarms จะพาไปแนะนำ Diva สาวเสียงดีแห่งวงการเพลงบ้านเราซักเล็กน้อย จะมีใครบ้างไปรับชมกันเลย

เจนนิเฟอร์ คิ้ม

หลายคนอาจเรียกว่าเจ๊คิ้ม แต่จริงๆแล้วชื่อเล่นของเธอคือ “ไก่” ชื่อจริงคือ พรพรรณ ชุนหชัย เกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2511 ในครอบครัวชาวจีนซึ่งรักเสียงเพลงตั้งแต่ยังเด็ก โดยก่อนจะเข้าวงการนั้นได้ทำงานเดินสายร้องเพลงกลางคืนมาก่อน ซึ่งหลายที่นั้นกลับไม่ต้อนรับเธอเพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอกไม่สวย ยังดีที่เจนนิเฟอร์ คิ้มนั้นมีพื้นฐานด้านเสียงร้องที่ดีจึงได้ลงประกวดเวทีสยามกลการในปี 2536 หรือที่สมัยนั้นใช้ชื่อว่านิสสัน อวอร์ดและนั่นคือเวทีแจ้งเกิดของเธอจนได้ออกอัลบั้ม JFK เมื่อปี 2539 แต่เพลงที่ทำให้คนรู้จักกับเจนนิเฟอร์ คิ้มกลับเป็นเพลงประกอบละครเช่นเพลง “ไม่ยอมหมดหวัง” ที่ประกอบประกอบละครเรื่อง เมืองมายา เดอะซีรีส์ 2 ต่อยอดด้วยเพลง”คิดถึงเธอ…ทุกที(ที่อยู่คนเดียว)” ที่ร่วมงานกับ โก้ Mr.Saxman จนได้รับการยกย่องว่าเป็น Diva นักร้องหญิงเสียงดีคนหนึ่งของประเทศไทย

มณีนุช เสมรสุต

ครูอ้วน มณีนุชที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเพราะเป็นคอมเมนเตเตอร์ในรายการ The Mask Singer เกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2504 โดยรักการร้องเพลงมาตั้งแต่ยังเด็ก จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยาด้านโปรแกรมวิชาดนตรีศึกษาและได้เข้าประกวดร้องเพลง Asian Amateur Singing Contest ที่ประเทศฮ่องกงและได้รับรางวัลชนะเลิศในปี 1980 ซึ่งเป็นนักร้องหญิงไทยคนที่ 2 ต่อจากคุณนันทิดา แก้วบัวสายที่ได้รับรางวัลนี้โดยใช้เพลง ” If You Go Away ” ในการประกวดซึ่งก่อนหน้าที่จะร้องเพลงนี้นั้นเธอได้สูญเสียคุณพ่อไปจึงทำให้ถ่ายทอดอารมณ์เพลงได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากนั้นครูอ้วนได้ออกอัลบั้มมาอีกหลายชุดแต่น่าเสียดายที่แนวเพลงโซลในขณะนั้นยังไม่นิยมในเมืองไทยมากนั้น งานเพลงของครูอ้วนจึงไม่ดังเปรี้ยงอย่างที่คาด แต่ครูอ้วนก็ฝากผลงานเพลงละครอย่าง ทายาทอสูร ในปี 2544 ให้คนได้รับรู้ถึงความเป็น Diva ก่อนจะไปเน้นด้านการสอนร้องเพลงซึ่งคนทั่วประเทศก็ยอมรับว่าเธอคือนักร้องหญิงแถวหน้าของไทย

มาลีวัลย์ เจมีน่า

เจ้าแม่เพลงเศร้าอย่างพี่มิ้นต์ มาลีวัลย์นั้นเกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2505 รักการร้องเพลงมาตั้งแต่ยังเล็กโดยเริ่มหัดร้องตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และเมื่อจนการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดีก็ได้ยึดอาชีพร้องเพลงเต็มตัว เพราะเธอเริ่มอาชีพนี้ตั้งแต่อายุ 15 ปีโดยร้องที่โรงแรมดุสิตธานี จากการตะเวนร้องเพลงเป็นอาชีพนี้เองทำให้เธอได้รู้จักกับคุณชรัส เฟื่องอารมณ์ซึ่งทำเพลงด้วยกันชื่อ “มาลีวัลย์และชรัส” ในปี 2528 และออกอัลบั้มเดี่ยวชุด “กับฉัน” ในปี 2529 กับค่ายเพลง ไนท์สปอร์ต ก่อนจะย้ายมาอยูที่ค่ายแกรมมี่ หลังจากเข้าแกรมมี่มาลีวัลย์ได้กลายเป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัวโดยอัลบั้มแรก ปรารถนาและอารมณ์ ในปี 2534 ดังเปรี้ยงปร้างอย่างรวดเร็ว มีเพลงฮิตอย่าง ขอเพียงที่พักใจ และ สงสารกันหน่อย แจ้งเกิดให้คนไทยได้รับรู้ทันทีว่ามี Diva แถวหน้าของวงการเพิ่มขึ้นอีกคนก่อนจะมีผลงานต่อเนื่องในค่ายแกรมมี่มาอีก 11 ชุด เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพเสียงของเธออย่างดี

รัดเกล้า อามระดิษ

นักร้องสาวเสียงดีคนนี้เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2512 โดยมีความสนใจในด้านดนตรีตั้งแต่วัยเด็กทั้งเรียนร้องเพลงและเปียโนที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการ จบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยนั้นก็รับหน้าที่นักร้องนำประเภทเพลงสากลของ C.U Band มาตลอด 4 ปี จนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเมื่อ สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ เปิด Audition หานักร้องในอัลบั้ม สมเกียรติ ซีมิกซ์ ซึ่งรัดเกล้าได้รับการคัดเลือกทำให้เธอได้เข้าไปอยู่สังกัดเบเกอรี่ มิวสิค โดยช่วงแรกนั้นเริ่มจากการร้องคอรัสให้กับศิลปินต่างๆเช่นเพลง ดาว ของคริสตีน ก่อนจะแจ้งเกิดด้วยเพลง โปรดเถิด ที่ร้องคู่กับโป้ โยคีเพลย์บอย และต่อเนื่องด้วยเพลง ลมหายใจ ที่ทำให้คนไทยรู้จักนักร้องสาวเสียงดีคนนี้มากขึ้น โดยรัดเกล้าออกอัลบั้มค่ายเบเกอรี่มิสิคทั้งหมด 3 อัลบั้ม และร่วมแจมกับศิลปินท่านอื่นอีกมากมาย นอกจากนี้แล้วรัดเกล้ายังเป็นนักร้องรับเชิญของวงบางกอกซิมโฟนีออร์เคสตราและวงเฉลิมราชย์ รวมทั้งมีโอกาสร้องเพลงในงานสำคัญของกระทรวงต่างประเทศ สถานทูต คอนเสิร์ตการกุศลต่างๆ อีกจำนวนมาก และเธอยังเป็นเจ้าของเสียงประกาศบนรถไฟฟ้า BTS อีกด้วย

เสาวลักษณ์ ลีละบุตร

พี่แอม เสาวลักษณ์ถือเป็นลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นเพราะเป็นบุตรสาวของคุณ ฉันทนา กิติยพันธ์ โดยเกิดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2508 สร้างชื่อจากวงหญิงล้วน สาว สาว สาว ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนคือคุณ แหม่ม พัชริดา และคุณปุ้ม อรวรรณเมื่อปี 2525 มีอัลบั้มกับวงทั้งหมด 10 ชุด ก่อนที่จะแยกมาออกอัลบั้มเดี่ยวเมื่อปี 2536 กับค่ายแกรมมี่ชื่ออัลบั้ม”บันทึกของดอกไม้เหล็ก” มีเพลงฮิตมากมายอย่าง กดดัน, แค่เสียใจไม่พอ ซึ่งอัลบั้มนี้ทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านตลับ และส่งผลให้เธอได้รับรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม จากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย และรางวัลสีสันอวอร์ด ศิลปินเดี่ยวหญิงยอดเยี่ยม ประจำปี 2536 และมีอัลบั้มกับค่ายแกรมมี่ทั้งหมดถึง 9 ชุดรวมไปถึงผลงานการแต่งเพลงอีกมากมาย จนตอกย้ำความเป็น Diva ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วประเทศกับคอนเสิร์ต”Green Concert Vol.11 Seven Divas” ในปี 2551

นิว-จิ๋ว เดอะสตาร์

สำหรับรายนี้เราขอยกมาเป็นยคู่เพราะเธอคือดูโอสาว Diva ขั้นเทพ โดยทั้งคู่เป็นชาวเชียงใหม่และรู้จักกันตั้งแต่ร้องที่ผับ The Cottage นภัสสร ภูธรใจ หรือที่รู้จักกันในนาม นิว เดอะสตาร์ เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2526 สร้างชื่อจากการเข้าประกวดเวทีเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 1 ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศ อันดับ 2 และ จิ๋ว ปิยนุช เสือจงพรู ที่ประกวดเวทีเดียวกันโดยได้รองชนะเลิศอันดับ 1 ก่อนที่ทางแกรมมี่จะไม่ปล่อยให้เพชรเม็ดงามคู่นี้หลุดมือจับเซ็นสัญญาให้ร้องดูโอคู่กันเพราะรู้จักกันดีตั้งแต่ก่อนประกวดและแนวเพลงรวมไปถึงเรนจ์เสียงนั้นใกล้เคียงกันอยู่แล้ว อัลบั้มแรกชื่อ NJ Together ปี 2548 ส่งเพลง”คนเจ้าน้ำตา”ยึดอันดับหนึ่งชาร์ตเพลงหลายคลื่นวิทยุ และมีผลงานร่วมกันทั้งหมด 4 อัลบั้ม มีเพลงฮิตมากมายเช่น รอแล้วได้อะไร และ ไม่รัก…ไม่ต้อง เป็นต้น

แก้ม เดอะสตาร์

วิชญาณี เปียกลิ่น หรือ แก้ม เดอะสตาร์ ผู้ชนะในการประกวดเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 4 เป็นสาวเสียงดีจากจังหวัดภูเก็ต เกิดเมื่อ 21 กันยายน 2532 มีเสียงร้องที่โดดเด่นและฉายแววมาตั้งแต่ยัเล็ก ซึ่งทางโรงเรียนสตรีภูเก็ตที่เธอศึกษาอยู่ก็ให้การสนับสนุนอย่างดีพาเดินสายประกวดหลายเวทีและได้รับรางวัลมาตลอด เพราะตัวแก้มเองร้องเพลงได้หลากหลายแนว จนได้เข้าประกวดเวทีระดับประเทศอย่างเดอะสตาร์ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้ผิดหวัง หลังจากชนะเลิศแล้วก็ได้เซ็นสัญญากับทางสังกัดเอ็กแซ็กท์ ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ออกอัลบั้มเดี่ยวเมื่อปี 2551 และยังเล่นละครเวทีเรื่อง ลมหายใจ และรักจับใจ เดอะมิวสิคัล ส่งเพลงฮิต ไม่เหลือเหตุผลจะรัก และ ความผูกพัน (ซื้อความรักไม่ได้) ให้แฟนเพลงได้ชื่นชมในความสามารถของเธอ ซึ่งชาวไทยส่วนใหญ่ก็ได้ยกให้แก้ม วิชญาณีนั้นเป็นหนึ่งในนักร้องสาวเสียงดีที่น่าจับตามอง เพราะมีเทคนิคการใช้เสียงที่ดีและมีพลัง รวมไปถึงการถ่ายทอดอารมณ์เพลงที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมในระดับแถวหน้าของเมืองไทย

นันทิดา แก้วบัวสาย

เจ้าของคอนเสิร์ต Nantida17 ที่กำลังจะมาถึงนี้เกิดวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2503 โดยรักในการร้องเพลงตั้งแต่ยังเด็กและที่บ้านให้การสนับสนุนอย่างดี เข้าวงการจากการประกวดนักร้องสมัครเล่นที่ทางช่อง 3 จัดขึ้นเมื่อปี 2521 โดยคุณสุดา ชื่นบานเป็นผู้ผลักดันเพราะได้ฟังเทปเดโมเสียงของพี่ตู่และชักชวนให้มาประกวด ซึ่งก็ได้รับรางวัลชนะเลิศและเป็นตัวแทนประเทศไทยประกวดการแข่งขันนักร้องสมัครเล่นของเอเชีย ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวังคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองและเป็นนักร้องหญิงไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้เมื่อปี 2522 และได้ออกเทปกับช่อง 3 ทันที โดยช่วงแรกนั้นเป็นการร้องเพลงลูกทุ่ง ก่อนจะย้ายมาอยู่กับค่ายแกรมมี่ และมีอัลบั้มแรก นันทิดา’27 เมื่อปี 2527ก่อนจะมีอัลบั้มเดี่ยวออกมาถึง 10 ชุด มีเพลงฮิตมากมายเช่น เขียนไว้ข้างเตียง, บอกหน่อยได้ไหม และ ขอเป็นคนหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งจากผลงานและรางวัลที่ผ่านมาเป็นเครื่องยืนยันว่าคอนเสิร์ตที่จะมาถึงนั้นคนฟังจะได้อิ่มเอมกับเสียงคุณภาพของ Diva แถวหน้าเมืองไทยอย่างแน่นอน

7 Diva ตัวแม่แห่งวงการเพลงโลก

Diva เป็นคำที่มีรากศัพท์มาจากภาษาอิตาลี ในสมัยก่อนจะใช้เป็นคำเรียกนักร้องหญิงที่เป็นเสียงหลักในการแสดงละครเวที จนปัจจุบันกลายมาเป็นคำยกย่องให้กับศิลปินหญิงที่มีความโดดเด่นในด้านเสียงร้อง รวมไปถึงความสามารถที่โดดเด่นจนสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองได้ ในวงการเพลงทั่วโลกก็จะมี Diva ในแต่ละแนวเพลง ซึ่งวันนี้ Musicarms จะขอยกรวมกันมาคร่าวๆ 7 รายชื่อซึ่งแต่ละคนนั้นเสียงร้องต้องบอกว่าทรงพลังสมกับที่ได้รับการยกย่องให้เป็นตัวแม่แห่งวงการเพลงอย่างแท้จริง

Image result for Kelly Clarkson

Kelly Clarkson

นักร้องสาวชาวอเมริกันรายนี้เกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน ปี 1982 ฉายแสงความเป็น Diva มาตั้งแต่การประกวดร้องเพลงในรายการอเมริกัน ไอดอลเมื่อปี 2002 ซึ่งเธอก็เป็นผู้ชนะเลิศ ก่อนจะออกซิงเกิ้ลแรกในชีวิต A Moment Like This และสามารถทะยานเข้าสู่อันดับ 1 ในบิลบอร์ดชาร์ต และออกอัลบั้มเต็มมาเมื่อปี 2003 ทำยอดขายถึง 4.5 ล้านแผ่นทั่วโลกในเพลงแนวป็อปร็อคจนได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อวอร์ด และในอัลบั้มที่ 2 นี้เองเธอก็สามารถพิชิตรางวัลแกรมมี่ในสาขา Best Pop Vocal Album ส่งเพลง Because of You โด่งดังไปทั่วโลกและออกอัลบั้มต่อเนื่องมา 6 ชุด ทั้งที่ในสมัยเด็กนั้นเธออยากเป็นนักร้องมากจนถึงขั้นทำเดโม่ไปเสนอค่ายเพลงต่างๆและโดนปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ซึ่งปัจจุบันค่ายเพลงเหล่านั้นคงจะเสียดายที่ปล่อยให้เพชรงามแห่งวงการดนตรีหลุดมือไป

Image result for Adele

Adele

Adele Laurie Blue Adkins หรือที่เรียกสั้นๆว่าอะเดลเป็นศิลปินจากอังกฤษ เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 1988 และประสบความสำเร็จอย่างมากตั้งแต่อายุยังน้อยเนื่องจากเส้นทางสายดนตรีของเธอนั้นต้องบอกว่าโชคดีเมื่อเพื่อนของคุณพ่อเป็นโปรดิวเซอร์และได้ยินเสียงอะเดลจึงชื่นชอบตั้งแต่ตัวเธอยังเรียนมัธยมด้วยซ้ำ หละงจากจบการศึกษาเมื่อปี 2006 ก็ได้ลงมือทำอัลบั้มของตนเองก่อนจะออกวางแผงในปี 2008 ซึ่งใช้ชื่อชุดเป็นอายุขณะที่ออกในทุกๆอัลบั้ม ในอัลบั้มที่ชุด “21” ก็ส่งเพลงดังอย่าง Someone like you และ Rolling in the deep ทะยานเข้าป้ายอันดับ 1 ในบิลบอร์ดชาร์ตทันทีและรับรางวัลแกรมมี่ในสาขาอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี รวมไปถึงรางวัลศิลปินหญิงยอดเยี่ยมของโลกจาก Billboard Music Award อีกเช่นกัน

Image result for Christina Aguilera

Christina Aguilera

นักร้องเพลงป็อปและ R&B ชาวอเมริกันที่ทำยอดขายอัลบั้มรวมกว่า 43 ล้านชุดทั่วโลกรายนี้เกิดเมื่อ 18 ธันวาคม 1980 เริ่มเส้นทางดนตรีมากับรายการมิกกี้ เม้าส์คลับของดิสนี่ย์ร่วมกับบริทนี่ย์ สเปียร์และจัสติน ทิมเบอร์เลคมาก่อน และเธอได้รับโอกาสให้ร้องเพลงประกอบภาพยนต์ของดิสนี่ย์ในเพลง Reflection เรื่องมู่หลาน ซึ่งเพลงนี้ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในสาขาเพลงประกอบภาพยนต์ยอดเยี่ยมส่งผลให้ชื่อของคริสติน่า อากีเลร่า ดังเป็นพลุแตกทันที จนได้ออกอัลบั้มแรกเมื่อปี 1999 และส่งเพลง Genie In A Bottle ขึ้นครองอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงอเมริกัน และนิตยสารโรลลิ่งสโตนได้จัดให้เธออยู่ในอันดับ 58 ใน 100 นักร้องที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ซึ่งเธอเป็นผู้อายุน้อยที่สุดใน 100 อันดับ และปัจจุบันก็มีอัลบั้มออกมา 5 ชุดแล้ว

Image result for Beyonce

Beyonce

นักร้องสาวแนว R&B รายนี้เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน 1981 โดยเริ่มร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆและได้เข้าเรียนโรงเรียนดนตรีฮิวส์ตันและเป็นนักร้องนำในวงดนตรีคณะประสานเสียงของโรงเรียน ต่อมาค่ายโคลัมเบียเร็คคอร์ดมีโครงการจะทำวงหญิงล้วนในแนว R&B บียอนเซ่จึงได้โอกาสเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการไปสมัครเดบิวต์และด้วยพลังเสียงที่หาตัวจับยากจึงได้ออกอัลบั้มกับวง Destiny Child เมื่อปี 1997 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากถึง 8 อัลบั้ม เพลงฮิตอย่าง Say my name คว้ารางวัลแกรมมี่อวอร์ดในปี 2001 ก่อนที่สมาชิกจะแยกตัวออกมาทำผลงานเดี่ยว ซึ่งบียอนเซ่ต่อยอดความเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้อย่างยอดเยี่ยมกับอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก Dangerously in Love มีเพลงดังอย่าง Crazy in Love ที่ร้องร่วมกับแร๊พเปอร์หนุ่ม Jay-C ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ตและทำยอดขายเกิน 3 แสนแผ่นในสัปดาห์แรก รวมไปถึงคว้ารางวัลแกรมมี่อวอร์ดเช่นเดียวกัน

Image result for Mariah Carey

Mariah Carey

นักร้องสาวชาวอเมริกันผู้ทำยอดขายซิงเกิ้ลเพลงกว่า 260 ล้านชุดทั่วโลก เกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 1970 โดยเส้นทางสายดนตรีของเธอนั้นได้รับช่วงต่อมาจากคุณแม่ที่เป็นนักร้องโอเปร่า เธอเริ่มหัดร้องเพลงด้วยอายุแค่ 3 ขวบเท่านั้นและได้ซึมซับเทคนิคการร้องจากเวทีละครที่ต้องเข้าไปหาคุณแม่อยู่บ่อยครั้ง จนได้เป็นนักร้องเสียงประสานให้แก่ เบรนด้า เค. สตารร์ และในปี 1988 จุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึงเมื่อเธอได้พบกับผู้บริหารจากค่ายเพลง “โคลัมเบีย” ชื่อ ทอมมี่ มอตโตล่า ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งซึ่งตัวทอมมี่นั้นประทับใจในเสียงของมารายห์เป็นอย่างมากและได้ดึงเข้าสังกัดในที่สุด ซึ่งเพียงแค่อัลบั้มแรกที่ออกมาเมื่อปี 1990 ก็ฉายแสงเต็มตัวด้วยการขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ต 11 สัปดาห์และได้รางวัลแกรมมี่อวอร์ดในสาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ส่งให้เธอเป็นที่รู้จักในนาม Diva lาวเสียงดีไปทั่วโลกทันที

Image result for Celine Dion

Celine Dion

Diva เสียงทรงพลังที่เกิดในแคนาดาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 1968 ซึ่งเชื้อสายเดิมของเธอคือชาวฝรั่งเศสทำให้ผลงานเพลงช่วงแรกนั้นเป็นภาษาฝรั่งเศสทั้งสิ้น จนกระทั่งเธอได้เรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจังและโชคชะตาพาไปรู้จักกับ เดวิด ฟอสเตอร์ โปรดิวเซอร์ชื่อดังจึงได้ออกอัลบั้มแรกในอเมริกาเมื่อปี 1990 ชื่ออัลบั้ม Unison แต่ผลงานที่สร้างชื่อให้โลกรู้จักเธอมากขึ้นคือการร้องเพลงประกอบภาพยนต์ Beauty and the Beast เมื่อปี 1991 และได้รับรางวัลออสการ์สาขาเพลงยอดเยี่ยม ก่อนจะต่อยอดความสำเร็จด้วยการได้รับเป็นผู้ร้องเพลงโอลิมปิคที่แอตแลนต้าปี 1996 และเพลงประกอบภาพยนต์ไททานิคอย่าง My heart will go on ที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันค่ายโซนี่ยืนยันความเป็น Diva ก้องโลกของเธอด้วยการประกาศว่า ดิออน คือศิลปินหญิงที่มียอดขายมากที่สุดในโลก

Image result for Whitney Houston

Whitney Houston

ตำนานเจ้าแม่ Diva ที่จากโลกนี้ไปด้วยวัยแค่ 48 ปี โดยวิทนี่ย์นั้นเกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1963 ออกผลงานมา 6 อัลบั้ม เริ่มเส้นทางดนตรีจากการเป็นนักร้องประสานเสียงในโบสถ์และร้องเพลงที่ไนท์คลับรวมไปถึงร้องแบ็คอัพให้กับศิลปินต่างๆควบคู่ไปกับการเป็นนางแบบ จนค่าย Arista Records มาเห็นแววของเธอในไนท์คลับแห่งหนึ่งที่กรุงนิวยอร์คและจับเซ็นสัญญาจนได้ออกอัลบั้มแรกในชีวิตเมื่อปี 1985 ผลงานที่สร้างชื่อให้กับวิทนี่ย์มากที่สุดคงไม่พ้นภาพยนต์เรื่อง The Bodyguard ในปี 1992 ซึ่งเธอรับหน้าที่ทั้งนักแสดงและผู้ร้องเพลงประกอบภาพยนต์ส่งผลให้เพลง I will aways love you กลายเป็นเพลงฮิตไปทั่วโลกทำยอดขายถึง 45 ล้านแผ่น และวิทนี่ย์ยังได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คอีกว่าเป็นนักร้องหญิงที่กวาดรางวัลมากที่สุดในโลกอีกด้วย

5 นักร้อง R&B ชายไทยสุดคูล

สงคราม R&B ของหน้ากากทุเรียนและหน้ากากจิงโจ้ใน The Mask Singer ได้จบลงไปแล้ว แต่สิ่งที่คนดูได้รับอย่างเต็มอิ่มคือเสียงร้องคุณภาพและอารมณ์ความสุขขณะฟังทั้งคู่ร้องเพลง ซึ่งถือว่านักร้องทั้งสองทำหน้าที่ถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม วันนี้ทาง Musicarms ก็จะขอแนะนำนักร้องสไตล์ R&B ชายที่เจ๋งๆคูลๆในเมืองไทยกันซักเล็กน้อย เผื่อว่าเพื่อนๆจะได้หาฟังเพลงที่ไพเราะลึกซึ้งเช่นเดียวกันที่สองหน้ากากนี้ร้องและได้อรรถรสในบทเพลงอีกครั้ง

 

ทอม Room39

ตัวเก็งที่จะเป็นหน้ากากทุเรียนรายนี้เริ่มต้นวงการบันเทิงด้วยการเป็นดาราเด็กสุดดังในบท”ส้มฉุน”จากละครเรื่องเรือนมยุราก่อนจะหายจากวงการเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่กลับมาครั้งนี้กลับโด่งดังกว่าเดิมเพราะรวมวงกับเพื่อนๆที่อเมริกาภายใต้ชื่อวง Room39 ซึ่งมาจากหมายเลขห้องพักที่พักอยู่ที่โน่นนั่นเอง โดยทอมและเพื่อนๆได้ร้องเพลงที่ร้านอาหาร”เครื่องเทศ” ซึ่งก้อนหน้าที่จะออกซิงเกิ้ลที่เมืองไทยตัวทอมเองก็ได้คัฟเวอร์เพลงลงยูทูปบ่อยครั้งและได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมเพราะเสียงร้องที่มีสเนห์ในสไตล์ R&B จนเมื่อทำเพลงกับค่าย Loveis ของบอย โกสิยพงศ์ซึ่งเป็นเจ้าพ่อเพลงแนวนี้อยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่จะดังเปรี้ยงและเป็นหนึ่งในนักร้อง R&B ที่คนไทยรักทั้งประเทศ

 

อ็อฟ ปองศักดิ์

หนุ่มเสียงดีขั้นเทพรายนี้แจ้งเกิดจากเวทีประกวด AF ครั้งแรก ซึ่งก็ได้โชว์พลังเสียงอันเป็นจุดเด่นของเขาตั้งแต่การประกวด แม้ว่าจะได้แค่รองชนะเลิศแต่ทาง AF ได้ประสานกับทางค่ายแกรมมี่จนอ็อฟ ปองศักดิ์มีอัลบั้มแรกในชีวิตชื่อว่า Aof V-Friend เพลงของอ็อฟอย่าง “จากคนรักเก่า” ก็เป็นเพลงแจ้งเกิดที่โด่งดังไปทั้งประเทศในสไตล์ R&B ช้าๆที่ฟังแล้วบาดลึกถึงอารมณ์ ก่อนที่อ็อฟจะได้ร้องเพลงแนวนี้มากขึ้นเพราะเป็นแนวถนัดของเจ้าตัวในอัลบั้มต่อๆมาอีก 5 อัลบั้มจนมีซิงเกิ้ลเพลง R&B ฮิตกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองไม่ว่าจะเป็น “แทงข้างหลัง…ทะลุถึงหัวใจ” และ “ผู้ชายคนนี้กำลังหมดแรง” จนทำให้ชื่อของอ็อฟ ปองศักดิ์ได้รับการยอมรับเป็นนักร้อง R&B แถวหน้าของประเทศและหลายคนยกให้เป็นนักร้อง Diva ฝั่งชายอีกด้วย

 

เป๊ก ผลิตโชค

นักร้อง R&B อีกรายที่มีผลงานดีๆมาให้แฟนๆได้ฟังกันเพียบ ซึ่งสิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือเป๊กเกือบจะได้ออกเทปเป็นวงบอยด์แบนด์ในชื่อวง G-boyz ร่วมกับฟิล์ม รัฐภูมิก่อนที่โปรเจ็คจะถูกพับไป และมาเป็นนักร้องเดี่ยวในสังกัดแกรมมี่แทน ซึ่งการออกเดี่ยวทำให้เป๊ก ผลิตโชคได้โชว์พลังเสียงในสไตล์ R&B ที่เขาชื่นชอบได้อย่างเต็มที่มากกว่าการเป็นบอยแบนด์ บทเพลงของเป๊กมากมายจึงฮิตติดหูคนฟังภายในเวลาไม่นานตั้งแต่อัลบั้มแรกด้วยเพลง “ไม่มีใครรู้” และ “หรือแค่ขำขำ” ก่อนจะได้มาร่วมงานกับนักร้องคุณภาพอีก 2 คน คือ อ็อฟ และ ไอซ์ ออกอัลบั้มเป๊ก อ็อฟ ไอซ์ ซึ่งก็ยังมีบทเพลงดังอย่าง”แค่คนโทรผิด”ซึ่งเป็นแนว R&B ตามถนัดเป็นเพลงดัง เป็นการยืนยันถึงความเป็น R&B ในตัวนักร้องหนุ่มผู้นี้ได้อย่างชัดเจน

 

บี พีระพัฒน์

นักร้องเสียงดีที่เป็นที่รู้จักในนามอดีตนักร้องนำวงดังอย่างเครสเซนโด ซึ่งก่อนหน้าที่บี พีระพัฒน์จะมาอยู่วงเครสเซนโดนั้น เขาเคยร่วมงานเป็นนักร้องนำวง RRR&B ในสังกัดแกรมมี่ ซึ่งมีเพลงฮิตคือเพลง”สองเรา”ที่ร่วมร้องกับ เทเรซ่า อากีล่าร์ในสไตล์ R&B (ซึ่งชัดเจนตั้งแต่ชื่อวง) หลังจากหมดสัญญากับทางค่ายก็ได้ตระเวนร้องเพลงตามผับและรับบันทึกเสียงในสตูดิโอ ซึ่งผับที่บี พระพัฒน์ไปร้องก็คือผับสไตล์แจ๊สเบอร์ 1 ของไทยอย่าง Saxophone Pub จนได้มาเจอเพื่อนๆวงเครสเซนโดและถูกชะตากันจึงชวนให้มาเป็นนักร้องนำวงเครสเซนโดก่อนจะมีเพลงฮิตอย่าง “ความจริงในใจ” และ “ดินแดนแห่งความรัก” ที่มีกลิ่นอาย R&B ดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง ภายหลังแยกมาออกอัลบั้มเดี่ยวยิ่งมีความเป็น R&B ชัดเจนยิ่งขึ้นในเพลง”พูดตรงๆ”เข้าไปอีกต่างหาก

 

เบน ชลาทิศ

นักร้องคุณภาพขั้นแนวหน้าของประเทศรายนี้เริ่มเส้นทางดนตรีจากการเข้าเรียนที่โรงเรียนดุริยางคศิลป์และรวมวงกับเพื่อนๆตั้งวงชื่อ “โมโนโทน” ขึ้นมา ซึ่งยุคนั้นการทำเพลงแบบอินดี้จะมาแรงมากศิลปินมีกจะทำเพลงเองและส่งให้คลื่นวิทยุช่วยเปิด โดยวงโมโนโทนก็ได้กระแสตอบรับค่อนข้างดี จึงเข้าตา บอย โกสิยพงศ์ ดึงตัวเบนมาร่วมร้องในหลายๆเพลงเช่น คนข้างล่าง, คะแนนชีวิต โดยสองเพลงนี้ก็ดึงความเป็น R&B ในตัวของเบน ชลาทิศออกมาถ่ายทอดให้คนฟังได้อย่างเต็มที่และแจ้งเกิดในวงการอย่างเต็มตัว ก่อนจะมาต่อยอดในนามวง B-Five ร่วมกับศิลปิน R&B อีก 4 ท่าน คือ บี พีระพัฒน์, มาเรียม, โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ และ คิว วงฟลัวร์ และยืนหยัดในเส้นทาง R&B มาอย่างยาวนานในวงการเพลงไทย ซึ่งความสามารถของเบนนั้นการันตีด้วยรางวัลดังๆเช่น ศิลปินเดี่ยวแห่งปี จาก “ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด เป็นต้น

Generation AXE 5 สุดยอดมือกีต้าร์บุกแดนสยาม

ช่วงนี้บรรดามือกีต้าร์น่าจะกำลังเก็บเงินอยากขะมักเขม้น เพราะในวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน ปีนี้ 5 เทพกีต้าร์ที่เคยบรรเลงดนตรีผ่านเส้นลวด 6 สายให้สะเทือนกันไปทั่วโลกต่างยกพลมาบุกเมืองไทยในคอนเสิร์ต Generation AXE กันครบครันไม่ว่าจะเป็น สตีฟ วาย, อิงเว มาล์มสทีน, แซค ไวลด์, นูโน่ เบ็ทเทนคอร์ต และ โทซิน อบาซี่ ซึ่งวันนี้ Musicarms จะขอมาเรียกน้ำย่อยถึงประวัติและผลงานของศิลปินทั้ง 5 ท่านนี้อย่างคร่าวๆก่อนจะไปรับชมฝีมือระดับพระกาฬกันไปคอนเสิร์ตอีกที

Image result for Steve Vai)

สตีฟ วาย

พ่อมดแห่งวงการกีต้าร์ผู้นี้เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1960 เป็นชาวอเมริกันที่ติดอันดับ 10 ของมือกีต้าร์ในหนังสือ Guitar World ด้วยยอดขายกว่า 15 ล้านแผ่นทั่วโลก สตีฟ วายเริ่มเส้นทางดนตรีเมื่ออายุ 18 โดยเป็นมือกีต้าร์แห่งวงแฟรงค์ ซัปปาในปี 1980 และออกผลงานร่วมกับวงในปี 1983 ต่อมาก็ได้ย้ายมาร่วมกับวงเดวิด ลี โรธและไวท์สเน็ค ก่อนที่จะมาออกผลงานของตนเองโดยตั้งวงขึ้นมาใหม่ในปี 1995 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจนได้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ดถึง 3 ครั้ง โดยสตีฟ วายได้รับคำยกย่องอย่างมากในการทำซาวด์ที่แปลกใหม่จนกีต้าร์ Ibanez ต้องจัดทำรุ่นพิเศษเพื่อตัวเขาและที่ขาดไม่ได้เลยคือคันโยกที่วายชอบเล่น รวมไปถึงการเรียบเรียงเมโลดี้ได้สวยงามกินใจชาวร็อคจึงไม่แปลกที่สตีฟ วายจะเป็นเทพเจ้ากีต้าร์ของใครหลายคน

Image result for Yngwie Malmsteen

อิงเว มาล์มสทีน

มือกีต้าร์ชาวสวีเดนรายนี้เป็นไอดอลของนักกีต้าร์สายปั่นทั่วโลก ผู้ที่เล่นกีต้าร์แนวนีโอคลาสสิคในสไตล์เมทัลได้อย่างลงตัวถึงขนาดนิตยสาร Time จัดให้เป็น 1 ใน 10 มือกีต้าร์ที่ดีที่สุดของโลก อิงเวเกิดเมื่อ 30 มิถุนายน 1963 โดยหลงใหลในเสียงกีต้าร์มาตั้งแต่ยังเล็กโดยมีไอดอลส่วนตัวดังๆอย่าง ริชชี่ แบล็คมอร์ (มือกีต้าร์ ดีพเพอร์เพิ่ล) และ ไบรอัน เมย์ (มือกีต้าร์วงควีน) อิงเวเริ่มเล่นกีต้าร์โดยแกะเพลงร็อคทั่วไปอย่างไฮเวย์ สตาร์โดยได้แนวคิดจากนักไวโอลินชื่อดังอย่าง Paganini เข้ามาสอดแทรก จนเจ้าตัวหันไปศึกษาดนตรีคลาสสิคอยู่พักหนึ่งเพื่อนำมาผสมผสานในแนวดนตรีที่เล่นจนกำเนิดคำว่า Neoclassic Rock ขึ้นมาและอิงเวก็ใช้ความสามารถถ่ายทอดได้อย่างยอดเยี่ยมจนมีอัลบั้มมาถึง 21 อัลบั้ม

Image result for Zakk Wylde

แซ็ก ไวลด์

มือกีต้าร์ชั้นอ๋องที่เล่นให้กับออสซี่ ออสบอร์นผู้นี้เกิดเมื่อ 14 มกราคม 1967 ในประเทศอเมริกาโดยไวลด์เริ่มเล่นกีต้าร์ตั้งแต่อายุ 8 ขวบเท่านั้น และพออายุ 14 ก็ได้เดินเข้าสู่เส้นทางดนตรีอย่างจริงจังโดยซ้อมกีต้าร์ถึงวันละ 12 ชม. ก่อนที่อายุ 19 จะได้ส่งเดโมเทปของตนเองไปยังวงออสซี่ ออสบอร์นและได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกวงตั้งแต่ปี 1987 ในที่สุด ซึ่งไวลด์สร้างชื่อเสียงอย่างมากจากการเป็นมือโซโล่ให้กับวงนี้ถึงขนาดกิ๊บสันแบรนด์กีต้าร์ดังต้องออกกีต้าร์ซิกเนเจอร์ให้กับไวลด์ 2 ทรงคือ ฟลายอิ้ง วี และ เลส พอล แม้ว่าไวลด์จะออกมาตั้งวงของตนเองในปี 1985 แต่เจ้าตัวก็ยังรับจ็อบเป็นมือกีต้าร์ทั้งสองวงได้อย่างสบายๆโดยกลับมาร่วมงานกับออสซี่ ออสบอร์นอีกครั้ง โดยมีผลงานกับออสซี่ถึง 8 อัลบั้ม

Image result for Nuno Bettencourt

นูโน เบตเทนคอร์ท

มือกีต้าร์คนดังแห่งวง Extreme เป็นชาวโปรตุเกสที่เกิดเมื่อ 20 กันยายน 1966 โดยนูโนหลงใหลในเสียงดนตรีมาตั้งแต่ยังเล็กซึ่งเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่เจ้าตัวเล่นคือ กลอง ก่อนจะมาจับกีต้าร์ในภายหลัง ซึ่งนูโนนั้นสามารถเล่นเครื่องดนตรีสากลได้แทบทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นกีต้าร์, เบส, เปียโน, ออร์แกน จนไปถึงเชลโล โดยไอดอลของนูโนในการหัดเล่นกีต้าร์ก็คือ เอ็ดดี้ ฟาน ฮาเลน และ ไบรอัน เมย์ รวมไปถึงวงบีทเทิ่ล ทำให้นูโนอยากที่จะเป็นทั้งมือกีต้าร์และนักแต่งเพลงชื่อดังของโลกอย่างเหล่าไอดอลบ้าง จนได้มีโอกาสรวมวงร็อคกับกลุ่มเพื่อนนักดนตรีที่บอสตันและก่อกำเนิดวง Extreme ที่โด่งดังขึ้นมาตั้งแต่ปี 1989 มีเพลงฮิตอย่าง More Than Words ที่รู้จักกันไปทั่วโลกสมความตั้งใจของเขา ซึ่งกีต้าร์ Washburn ได้ผลิตรุ่น N4 เป็นซิกเนเจอร์แก่มือกีต้าร์ผู้นี้อีกต่างหาก

Image result for Tosin Abasi

โทซิน อบาซี่

มือกีต้าร์ชาวไนจีเรียที่เกิดในกรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 7 มกราคม 1983 โดยวัยเด็กนั้นเจ้าตัวเรียนกีต้าร์ด้วยตนเองหลังจากได้ไปลองเล่นกีต้าร์ที่บ้านเพื่อนและเกิดความชอบ เมื่อทางบ้านเห็นพรสวรรค์ในตัวจึงได้ซื้อกีต้าร์ให้โทซินใช้ หลังจากหัดด้วยตนเองจนมีฝีมือแกล่งกล้าแล้วก้ได้เข้าร่วมวง PSI ในปี 2000 และสร้างความตกตะลึงให้กับบริษัท Prosthetic Records ที่เป็นเจ้าของค่ายอย่างมากจนยื่นข้อเสนอให้โทซินเซ็นสัญญาออกศิลปินเดี่ยว แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธไปก่อนเพราะคิดว่าตนเองยังไม่เก่งพอ จนโทซินได้เข้าเรียนโรงเรียนดนตรีอย่างจริงจังที่แอตแลนต้า และได้กลับมารับข้อเสนออีกครั้ง แต่ออกเป็นวงกับเพื่อนๆในชื่อวง Animals as Leaders ในปี 2009 และมีผลงานออกมาต่อเนื่องถึง 4 อัลบั้มจนโด่งดังไปทั่วโลก

7 วงไทยอมตะในยุคแรกเริ่ม

วันที่ 20 มีนาคมที่รอยัล พารากอน ฮอลล์นี้จะมีคอนเสิร์ต Music Never Died ของอาต้อย เศรษฐา ศิระฉายา อดีตนักร้องนำวงดิอิมพอสซิเบิ้ล ซึ่งน้องๆหลายคนอาจจะเกิดไม่ทันรับรู้ความดังของอาต้อยในสมัยนั้นก็สามารถไปชมคอนเสิร์ตนี้กันได้ และอาจจะงงกันว่าอาต้อยมีลุคแบบนี้ด้วยหรือเพราะช่วงหลังเห็นในมาดของพิธีกรเท่านั้น วันนี้ Musicarms ก็จะมาขอรำลึกความหลังวงดนตรียุคบุกเบิกของเมืองไทยในช่วงแรกๆ ที่การทำเพลงหรือรวมวงของพวกเขาเหล่านี้นั้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงวงการเพลงบ้านเราเหลือเกิน

 

ดิ อิมพอสซิเบิ้ล

วงสตริงคอมโบที่โด่งดังในเมืองไทยช่วงยุค 70 โดยสมาชิกแต่ละคนนั้นระดับหัวกะทิทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นอาต้อย เศรษฐาที่รับหน้าที่กีต้าร์และร้องนำคู่กับคุณวินัย พันธุรักษ์ คุณอนุสรณ์ตีกลองและคุณพิชัยเล่นเบสซึ่งสมาชิกช่วงแรกนั้นมี 4 คนก่อนจะค่อยๆทยอยเพิ่มมาในตอนหลังซึ่งหนึ่งในนั้นคืออาเต๋อ เรวัติ พุฒินันท์ คนดังแห่งค่ายแกรมมี่นั่นเอง วงดิ อิมพอสซิเบิ้ลชื่อเดิมคือ จอยท์ รีแอ็กชั่นซึ่งใช้ในการประกวดวงสตริงคอมโบจัดโดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ได้รับรางวัลชนะเลิศ 3 ปีติดต่อกัน ในช่วงปี 2512-2515 ก่อนเปลี่ยนชื่อวงเป็น ดิอิมพอสซิเบิ้ล โดยอัลบั้มชุดแรกของวงคือเพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง โทน ก่อนจะมีเพลงฮิตติดหูวัยรุ่นในสมัยนั้นมาอย่างต่อเนื่อง เช่น โอรัก, ไหนว่าจะจำ และ เป็นไปไม่ได้ ดิ อิมพอสซิเบิ้ลยังโด่งดังถึงขั้นได้ไปเล่นดนตรีที่ฮาวายและยุโรปเหนือ เป็นเวลากว่า 3 ปี ก่อนจะกลับมาเมืองไทยเมื่อปี 2519 และประกาศยุบวง

 

แกรนด์เอ็กซ์

วงดนตรีที่ก่อตั้งมาเมื่อปี 2513 โดยกลุ่มนักเรียนวิทยาลัยบพิตรภิมุข นำโดย นคร เวชสุภาพร (กีต้าร์และหัวหน้าวง) ซึ่งก็คือคุณพ่อของ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ นั่นเอง ได้รวบรวมเพื่อนวิทยาลัยเดียวกันอีก 6 ท่านเข้าร่วมประกวดวงสตริงคอมโบ้ชิงแชมป์ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2515 ประเภทนักเรียนนักศึกษา โดยเล่นแนวเพลงร็อคซึ่งยังไม่บูมมากในสมัยนั้นเพราะทางวงชื่นชอบ จิมมี่ เฮนดริกซ์ เป็นการส่วนตัว แต่ลุคของวงในสมัยนั้นยังเป็นแนวเรียบร้อยใส่เสื้อเชิตผูกเนคไทเล่นคอนเสิร์ตจึงเป็นที่แปลกตาและเก๋ไก๋เป็นอย่างมาก สมาชิกในวงมีการเปลี่ยนเข้าออกค่อนข้างบ่อยครั้งซึ่งแต่ละท่านนั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในยุคปัจจุบันเช่น พี่แจ้ ดนุฟล แก้วกาญจ์ (ร้องนำ), จอนนี่ แอนโฟเน่ (กลอง,คีย์บอร์ด) ออกอัลบั้มจนถึงปี 2531 มีเพลงฮิตมากมายเช่น เชื่อฉัน, เพียงสบตา และ พรหมลิขิต ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามเส้นทาง

 

ดิ อินโนเซนต์

วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นไทยในยุค 1980 มีผลงานในช่วงระหว่างปี 2523 – 2532 กับสังกัดนิธิทัศน์โปรโมชั่น แต่เดิมนั้นมีสมาชิกแค่ 3 คนคือ พีรสันติ จวบสมัย เป็นหัวหน้าวง, สายชล ระดมกิจ และสิทธิศักดิ์ กิจแต่ง เป็นวงดนตรีแนวโฟล์คซองซึ่งได้รางวัลมากมายจากการประกวดที่จังหวัดราชบุรีก่อนจะเข้ามาทำอัลบั้มในกรุงเทพซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนและเพิ่มสมาชิกเพราะดนตรีป็อปร็อคในสมัยนั้นกำลังมาแรงในประเทศไทย และหนึ่งในสมาชิกที่มาเพิ่มนั้นคือ โอม ชาตรี คงสุวรรณ มือกีต้าร์มากความสามารถนั่นเอง โดยช่วงแรกของวงนั้นยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเพราะยังติดภาระเรื่องการศึกษา ก่อนจะมาบูมอย่างเต็มตัวในอัลบั้ม”เพียงกระซิบ”ซึ่งเป็นแนวเพลงป็อปร็อคเมื่อปี 2526 และฝากฝังผลงานเพลงดังๆไว้มากมายเช่น ฝันและใฝ่, เพราะเธอหรือเปล่า,ฝากรัก และเพียงกระซิบ

 

พลอย

วงนี้เริ่มมาจากพี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจ์ อดีตนักร้องวงแกรนด์เอ็กซ์ที่แยกมาออกอัลบั้มเดี่ยวและต้องการฟอร์มวงแบ็คอัพของตนเองขึ้นมา จึงรวมกับ โอม ชาตรี คงสุวรรณและสมาชิกท่านอื่นๆในชื่อวง”แจ้และพลอย”ขึ้นมา ซึ่งแต่ละท่านนั้นชื่อเสียงคุ้นเคยกันดีเช่น พี่ติ๊ก ชีโร่ รับหน้าที่มือกลอง, พี่มืด ไข่มุก ขณะนั้นเล่นเพอร์คัสชั่น หรือพี่ป้อม อภิชัย เย็นพูนสุข โปรดิวเซอร์ชื่อดังเล่นเปียโน โดยวงพลอยออกอัลบั้มกับแจ้ได้ชุดเดียวก็แยกมาออกเป็นวงเองไม่ใช่แบ็คอัพอีกต่อไป และพี่โอมชาตรีก็ได้ออกจากวงเพื่อไปทำหน้าที่กับวงดิ อินโนเซนต์ต่อ โดยได้จิ๊บวสุ แสงสิงแก้วเป็นนักร้องนำซึ่งชุดแรกคือ”สุภาพบุรุษนักฝัน”เมื่อปี 2530 และมีผลงานมาทั้งหมด 3 อัลบั้ม มีเพลงฮิตมากมายเช่น จิ๊บ ร.ด., สูตรรักนักเรียน, ปลงซะ และ ไม่ได้เจตนา ก่อนที่จิ๊บวสุ จะขอลาออกจากวงเพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศและติ๊ก ชีโร่แยกไปทำอัลบั้มเดี่ยวทำให้สมาชิกที่เหลือได้ประกาศแยกวงในที่สุด

 

รอยัลสไปรท์ส

“เจ็ง เจ็ง เจ็งกิสข่าน” เชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยินเพลงนี้มาเพราะนี่คือซิกเนเจอร์ของวงรอยัลสไปรท์สที่ใส่เนื้อเพลงไทยลงในทำนองเพลงต่างชาติ วงนี้เริ่มก่อตั้งในปี 2512 มีหัวหน้าวงคือ อำนาจ ศรีมา มือกีตาร์ได้รวบรวมเพื่อนๆ ที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนเพาะช่าง โดยมีนักร้องนำคือ อดิศักดิ์ ประคุณหังสิต เป็นวงแนวป็อปร็อคและดิสโก้เข้าประกวดวงสตริงคอมโบเมื่อปี 2513 ได้ตำแหน่งรองแชมป์โดยแพ้ให้กับวง ดิ อิมพอสซิเบิ้ล มีอัลบั้มแรกเมื่อปี 2522 ซึ่งเปลี่ยนนักร้องนำเป็นสุนทร สุจริตฉันท์ โดยอัลบั้มแรกก็สามารถสร้างชื่อเสียงและความฮืฮากับเพลงเจ็งกีสข่านได้ทันที และยังมีเพลง น่าอาย กับ อาลีบาบาที่โด่งดังอีกด้วย รอยัลสไปรท์สยังสานต่อความดังต่อเนื่องด้วยเพลง รักสิบล้อ รอสิบโมงซึ่งเพลงโปรดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงขนาดนำไปพูดในสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่สมาชิกวงจะแยกย้ายไปทางเส้นทางส่วนตัวเมื่อปี 2530

 

แม็คอินทอช

วงดนตรีแนวสตริงที่ฟอร์มวงกันตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนมี สมบัติ ขจรไชยกุล มือกี้ตาร์และนักร้องนำรับหน้าที่หัวหน้าวง โดยมีคุณ เสกสรรค์ ภู่ประดิษฐ์ พิธีกรชื่อดังจากรายการโลกดนตรีเป็นผู้ให้การสนับสนุนในช่วงแรก ก่อตั้งวงเมื่อปี 2520 ก่อนที่จะได้มาออกเทปเมื่อปี 2524 ชุดผมอยากดังซึ่งก็สร้างชื่อเสียงได้ในระดับหนึ่ง จนผลงานชุดที่สองคือชุด”ใจสยิว”จึงเปรี้ยงปร้างขึ้นมาด้วยภาพลักษณ์ของพี่ต้นมือกลองและพี่อู๋มือคีย์บอร์ดซึ่งโดนใจสาวๆในขณะนั้นทำให้ชื่อเสียงของวงพุ่งขึ้นมาอยู่แถวหน้าของเมืองไทยทั้งเรื่องฝีมือและรูปร่างหน้าตา วงแม็คอินทอชได้ร่วมแสดงภาพยนต์เรื่อง วันวานยังหวานอยู่และร้องเพลงประกอบภาพยนต์จนร้องกันได้ทั่วประเทศ ออกอัลบั้มมาทั้งหมด 7 ชุด จนระยะหลังที่สมาชิกของวงเริ่มสนใจอยากทำดนตรีจริงๆจังๆมากกว่าการแสดง วงแม็คอินทอชจึงแยกย้ายกันไปเมื่อปี 2530 ซึ่งแต่ละท่านก็ได้เข้าสู่เส้นทางดนตรีจนเป็นเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยคุณภาพ

 

ชาตรี

วงดนตรีแนวโฟล์คซองที่ก่อตั้งมาเมื่อปี 2512 โดยนักศึกษาปี2 แผนกช่างภาพ วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ 3 คน คือ นราธิป กาญจนวัฒน์, ประเทือง อุดมกิจนุภาพ และ คฑาวุธ สท้านไตรภพ อยู่ต่อมาอีกไม่นานนัก วงชาตรีก็เกิดมีความคิดอยากจะได้มือกลองขึ้นมา จึงชักชวนอนุสรณ์ คำเกษม เพื่อนร่วมห้องอีกคนหนึ่งมาเล่นกลอง วงชาตรีเริ่มจากการประกวดโฟล์คซองที่จัดโดยชมรมโฟล์คซอง แม้ว่าจะสละสิทธิ์ในรอบ 2 แต่คุณครูไพบูลย์ ศุภวารี ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินครั้งนั้น เห็นแววจึงได้ชวนไปอัดเสียงในรายการวิทยุ วึ่งกระแสตอบรับดีมากมีคนขอเพลงมากันเยอะ วงชาตรีจึงได้มีแผ่นเสียงเป็นของตนเองภายใต้ชื่อชุด “จากไปลอนดอน”เมื่อปี 2518 และออกอัลบั้มมาอย่างต่อเนื่อง 15 ชุดในเวลา 10 ปี สร้างเพลงฮิตทั่วประเทศทั้ง สวัสดีคุณครู, รักแล้วรอหน่อย และแอบรัก ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคเทปคาสเซ็ทซึ่งทำให้แผ่นเสียงนั้นขายไม่ดี วงชาตรีจึงยุติลงเมื่อปี 2528 ด้วยคอนเสิร์ตที่ลานโลกดนตรีเป็นคอนเสิร์ตสุดท้าย