LINE


5 ความแตกต่างของ Gibson Les paul VS. Gibson SG

ไปซื้อ 5 ความแตกต่างของ Gibson Les paul VS. Gibson SGที่สาขา

Gibson ถือเป็นยี่ห้อกีต้าร์ไฟฟ้าลำดับต้นๆที่มือกีต้าร์ทั่วโลกอยากได้ โดยกีต้าร์ Gibson นั้นจะมีทรงที่เป็นเอกลักษณ์จนกีต้าร์แบรนด์เล็กๆต้องใช้เป็นแม่แบบนั่นก็คือทรง Les Paul และทรง SG ที่อยู่คู่กับ Gibson มาอย่างยาวนาน ทั้ง 2 ทรงนี้มีผู้ให้กำเนิดคนเดียวกันคือ คุณปู่ Les Paul มือกีต้าร์ผู้ล่วงลับ โดยทั้งสองทรงนี้ออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในช่วงยุค 50 ก่อนที่จะมีการพัฒนามาตามยุคสมัยเรื่อยๆ ถือเป็น 2 ทรงที่ขายดีที่สุดของ Gibson มาตลอด วันนี้ Musicarms จะพาไปรู้กันว่า เจ้า SG และ Les Paul นั้นมีจุดแตกต่างตรงไหนกันบ้าง ทำไมถึงต้องแยกทำออกมา แล้วทรงไหนเหมาะกับแนวไหน วันนี้เราไปไขคำตอบกันเลย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ gibson Les paul

ก่อนอื่นเรามาดูประวัติกันคร่าวๆ ทรง Les Paul นั้นถือเป็นทรงรุ่นพี่ที่ออกมาในปี 1952 เนื่องจากตอนนั้นทาง Fender ได้ผลิตทรง Stratocaster ออกมาวางจำหน่ายจนขายดีไปทั่วโลก Gibson จึงต้องผลิตกีต้าร์แบบใหม่มาสู้โดยเน้นลำตัวตัน เพราะช่วงแรกนั้นกีต้าร์ Gibson จะมีรู F Hole แบบ Semi-Hollow จึงกำเนิด Les Paul ออกมา แต่ด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก ทำให้ทาง Gibson ได้ไปขอร้องคุณปู่ Les Paul อีกครั้งในช่วยคิดกีต้าร์ที่เบาลง ให้ซาวด์แนวร็อคมากขึ้น จึงกลายเป็นที่มาของทรง SG ที่วางจำหน่ายในปี 1960 เอาล่ะ เราไปดูกันว่า 5 จุดที่แตกต่างกันนั้นมีอะไรบ้าง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ gibson Les paul อvs sg

ทรงกีต้าร์

แน่นอนว่าจุดที่เห็นได้ชัดที่สุดคือทรงกีต้าร์ ทรง Les paul นั้นจะเป็นทรงโค้งมน เพราะในช่วงแรก Gibson เน้นตีตลาดนักดนตรีทุกกลุ่มโดยเฉพาะบลูส์และแจ๊ส ที่เป็นแนวดนตรีนิยมในช่วงยุค 50 ส่วน SG นั้นออกมาช่วงต้นยุค 60 กับดนตรีแนวร็อคแอนด์โรลด์มากขึ้น กีต้าร์จึงต้องออกแบบให้มีความทันสมัยและเป็นร็อคด้วยการใช้บอดี้เป็นลักษณะแหลมดูดุดัน และจุดสำคัญคือทรง SG จะมีน้ำหนักที่เบากว่า Les Paul เพราะการคิดค้น SG ขึ้นมาในช่วงแรกนั้นทาง Gibson ต้องการแก้ปัญหาเรื่องน้ำหนักกีต้าร์ที่หลายๆคนบ่นกัน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ pickup gibson

ปิ๊กอัพ / เสียง

นอกจากทรงบอดี้ที่ทาง SG ทำออกมาในแนวร็อคแล้วเรื่องเสียง SG นี้มักจะทำซาวด์ออกมาให้เป็นแนวเพลงร็อคอย่างชัดเจน อย่าง Gibson SG Standard 2018 ก็ปรับมาเป็นรุ่น 61R และ 61T หรือจะเป็นตัว Gibson SG Special 2017 T  ก็ใช้ปิ๊กอัพรุ่น 490R และ 490T ที่ให้ซาวด์ในแนวดนตรีร็อคเช่นเดียวกัน ส่วนของ Les paul นั้นจะเน้นความคลาสสิคอยู่เสมอ โดยมากปิ๊กอัพจะเป็นแนวย้อนยุค อย่าง Gibson Les Paul Classic 2017 T ที่ใช้ปิ๊กอัพ  ’57 Classic Humbucker ซึ่งชื่อรุ่นก็บอกแล้วว่าซาวด์จะออกแนววินเทจเหมือนปี 57 และเป็นฮัมบัคเกอร์ที่ให้เสียงอวบหนาของ Gibson ดั้งเดิมแท้ๆ ซาวด์ของ Les paul จะเล่นได้กว้างกว่าเพราะเป้าหมายคือการตีตลาดนักดนตรีแจ๊สและบลูส์

และด้านล่างนี่คือตัวอย่างของ 2 ทรงนี้ที่เสียงแตกต่างกันอย่างชัดเจน

Gibson SG Special 2017 T

ราคา : 29,700 บาท
33,000 บาท
ประหยัด10%
Gibson-SG-Special-2017-T
ข้อมูล : 

Gibson SG Special 2017 T กีต้าร์ทรง SG ที่โด่งดังของแบรนด์ Gibson รุ่นนี้จะเป็นแบบพิเศษคือมี 24 เฟรต ทำให้เหมาะมากกับมือโซโล่ที่ต้องการไปถึงโน๊ตที่สูงกว่าเดิม บอดี้และคอนั้นทำจากไม้มะฮอกานีจึงให้เสียงที่อวบหนาในสไตล์ Gibson อย่างชัดเจน อีกทั้งยังเพิ่ม Sustain ให้ยาวมากขึ้นซึ่งเป็นเอกลักษณืของกีต้าร์แบรนด์นี้อีกด้วย ทรงคอปรับโฉมใหม่เป็นแบบ Slim taper ที่บางลงกว่าเดิมจับง่ายถนัดมือมากขึ้น

ปิ๊กอัพที่ติดมาเป็นรุ่น 490R Humbucker และ 490T Humbucker ซาวด์จึงออกมาค่อนข้างพุ่งแตกต่างจากรุ่นอื่นๆของ Gibson ที่เน้นเสียงวินเทจ ซึ่งซาวด์ชนิดนี้จะเหมาะกับมือกีต้าร์สายร็อคสมัยใหม่อย่างแรง ตัวบอดี้เคลือบด้านจับง่าย Nut ยังทำจาก Tektoid หรือพลาสติคสังเคราะห์ผสมยางเพิ่มการลากเสียง เท่ากับว่าโดยรวมแล้วออกแบบมาเพื่อสายร็อคแท้ๆ แบรนด์นี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง รับรองว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์

สเปค : 

รายละเอียดกีต้าร์ Gibson SG Special 2017 T

  • บอดี้ทรง SG แบบ Solidbody
  • บอดี้ทำจากไม้มะฮอกกานีเกรด A
  • เคลือบบอดี้แบบด้านด้วยแลคเกอร์
  • คอทำจากไม้มะฮอกกานี
  • ทรงคอ Slim taper
  • ความโค้งของฟิงเกอร์บอร์ด 12 Radius
  • ความยาวช่วงสาย 24.75 นิ้ว
  • ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้โรสวู้ด
  • อินเลย์อะคริลิครูปสี่เหลี่ยม
  • จำนวนเฟรต 24 เฟรต
  • ความกว้าง Nut 1.695 นิ้ว
  • Nut ทำจาก Tektoid
  • บริดจ์แบบ tune-o-matic อะลูมิเนียมชุบโครเมี่ยมใส่คันโยกไม่ได้
  • ลูกบิดแบบวินเทจ
  • ปิ๊กอัพคอรุ่น 490R Humbucker
  • ปิ๊กอัพบริดจ์รุ่น 490T Humbucker
  • แผงควบคุม 2 โวลุ่ม 2 โทน
  • สวิทช์ปิ๊กอัพปรับได้ 3 ทาง
  • สายเบอร์ 0.9
  • อุปกรณ์แถมเป็นซอฟท์เคส


Gibson Les Paul Classic 2017 T

ราคา : 64,800 บาท
72,000 บาท
ประหยัด10%
Gibson-Les-Paul-Classic-2017-T-3
ข้อมูล : 

Gibson Les Paul Classic 2017 โฉมคลาสสิคของทรง Les Paul ปีล่าสุดที่จัดเต็มมาครบทั้งรูปลักษณ์ภายนอกจนถึงเรื่องซาวด์ เริ่มจากบอดี้ที่ใช้ไม้มะฮอกกานีแบบโมเดิร์นทำให้มีน้ำหนักเบากว่าเดิม เป็นการลดข้อด้อยของทรง Les Paul ที่มือกีต้าร์หลายคนบ่นว่าหนักเวลาสะพายนานๆได้เป็นอย่างดี ไม้ปะหน้าเป็นไม้เมเปิ้ลเสริมย่านเสียงกล่งและแหลมให้กับซาวด์กีต้าร์ และตัวไม้ยังคัดเป็นเกรด A มาอย่างดีเพื่อเสียงที่ได้คุณภาพ เคลือบเงาบอดี้ด้วยไนโตรแลคเกอร์ที่มีความเงาทำให้กีต้าร์ดูหรูหรา Hi-end

ปิ๊กอัพที่ติดมานั้นเป็นรุ่น  ’57 Classic Humbucker ซึ่งชื่อรุ่นก็บอกแล้วว่าซาวด์จะออกแนววินเทจเหมือนปี 57 และเป็นฮัมบัคเกอร์ที่ให้เสียงอวบหนาของ Gibson ดั้งเดิมแท้ๆ รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องเสียงคลีนเพราะ ใส ตัวปิ๊กอัพสลับสีขาวดำมาให้เพื่อความสวยงาม Nut ทำจากวัสดุไนลอนยึดสายแน่นหนาไม่เพี้ยนง่าย วัสดุอื่นๆบนตัวกีต้าร์ชุบนิกเกิลให้เงางามดูแลรักษาง่าย ลูกบิดเป็นของ Grover ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหนืดอยู่แล้ว เรียกว่าได้ของคุณภาพแทบทุกส่วนของกีต้าร์ ใครชอบความคลาสสิคกับทรง Les Paul น่าจะถูกอกถูกใจกันไป

สเปค : 

รายละเอียดกีต้าร์ Gibson Les Paul Classic 2017

  • บอดี้ทรง Les Paul แบบ Solid-body
  • ไม้ส่วนบอดี้เป็นไม้มะฮอกกานี 2 ชิ้น น้ำหนักเบาแบบโมเดิร์น
  • ไม้หน้าเป็นไม้เมเปิ้ลเกรด A
  • เคลือบเงาบอดี้ด้วยไนโตรแลคเกอร์ ทำขอบบอดี้สีครีม
  • สี Green Ocean Burst, Cherry Burst และ Gold Top
  • คอทำจากไม้มะฮอกกานี ทรงคอ Slim
  • ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้โรสวู้ด อินเลย์ลายสี่เหลี่ยมคางหมูฝังมุก
  • จำนวนเฟรต 22 เฟรต
  • ความยาวช่วงสาย 24.75 นิ้ว
  • ความกว้าง Nut ส่วนคอ 1.695 นิ้ว
  • Nut ทำจากวัสดุไนลอน
  • บริดจ์รุ่น ABR ตัวเพลททำจากอะลูมิเนียมชุบนิกเกิลยึดด้วยตะปูโลหะ
  • ลูกบิดของ Grover
  • ปิ๊กอัพคอรุ่น ’57 Classic Humbucker สลับสีขาวดำ
  • ปิ๊กอัพบริดจ์รุ่น ’57 Classic+ Humbucker สลับสีขาวดำ
  • แผงควบคุม 2 โวลุ่ม 2 โทน สวิทช์ปิ๊กอัพปรับได้ 3 ทาง
  • สายกีต้าร์เบอร์ 0.90
  • อุปกรณ์แถมเป็น Hard Case


คอกีต้าร์

แม้ว่าช่วงหลังทาง Gibson จะใช้นวัตกรรมใหม่ปรับคอกีต้าร์ให้บางลง แต่คอกีต้าร์ของสองรุ่นนี้ยังมีความแตกต่างกันพอสมควร เพราะทาง SG นั้นถูกออกแบบมาให้เล่นแนวดนตรีร็อค คอกีต้าร์จึงมีความบางมากกว่าในหลายๆรุ่น เช่น Gibson SG Standard 2018 ปรับคอเป็น SLimTaper บางเล่นได้ง่าย ส่วนทาง Les Paul นั้นในหลายๆรุ่นยังใช้โมเดลการผลิตแบบย้อนยุค ทำให้คอกีต้าร์ยังคงเป็นทรง Rounded หรือทรงกลมแบบยุคเก่า คอแบบนี้จะค่อนข้างอวบหนา เหมาะกับการเล่นเพลงบลูส์ ที่ต้องใช้การดันสายอยู่ตลอด ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้เล่นว่าจะชอบแบบไหน

ราคา

เป็นที่รู้กันดีกว่าทรง Les paul นั้นเป็นหนึ่งในทรงรุ่นคลาสสิคของทาง Gibson ดังนั้นจึงมีกีต้าร์ Les Paul หลายปีที่เข้าขั้นเกรด “นักสะสม” รุ่นเก่าๆ Les paul Gold Top ปี 1959 เคยถูกประมาณราคาไว้สูงถึง 1 ล้านบาท ในขณะที่ SG นั้นยังไม่มีรุ่นที่นักสะสมคัดเกรดกันเท่าไหร่นัก ทำให้ราคาตอนที่ออกวางจำหน่ายนั้นทรง Les paul จะค่อนข้างแรงกว่ามากพอสมควร แม้ว่าช่วงหลังทาง Gibson จะผลิตทรง Les Paul mี่มีราคาย่อมเยาออกมาแต่ก็ถือว่าสูงกว่าทรง SG อยู่นิดๆ ยิ่งถ้าเป็นรุ่นสูงๆของ Les Paul นี่ไม่ต้องพูดถึงกันเลยเพราะวัสดุที่ใช้นั้นแตกต่างกันพอสมควร ทำให้การเป็นเจ้าของกีต้าร์ Les paul ต้องใช้ทุนสูงกันซักนิด

แนวเพลงที่นำเอาไปใช้เล่น

แม้ว่ากีต้าร์ไฟฟ้าของทาง Gibson จะผลิตออกมาให้เล่นได้ทุกแนว แต่น้อยครั้งที่เราจะเห็นคนเอาทรง SG ไปเล่นแนวแจ๊สหรือบลูส์ ผิดกับทรง Les paul ที่เรามักจะคุ้นตากว่าพอสมควร สาเหตุแรกคือเรื่องเสียงของปิ๊กอัพที่มีความแตกต่างชัดเจน ทำให้ทรง SG ไปเล่นนวอื่นที่ไม่ใช่ร็อคแล้วซาวด์จะแปลกๆไป ส่วนอีกประการหนึ่งคือรูปทรงที่ดูขัดหูขัดตากับการนำไปเล่นแนวดนตรีนั้นๆ และด้วยความที่ทาง Gibson เน้นกลุ่มเป้าหมายของ Les Paul เป็นวงกว้างกว่า ทำให้แม้ว่ากีต้าร์จะมีน้ำหนักที่มากกว่าแต่หลายคนก็ยังนำไปใช้เล่นแนวดนตรีที่หลากหลายกว่านั่นเอง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ gibson Les paul อvs sg

และนี่คือความแตกต่างชองสองทรงสุดฮิตจากทาง Gibson จะเห็นได้ว่าทรง Les Paul นั้นมีความหลากหลายมากกว่าพอสมควร แต่ด้วยราคาที่สูงกว่า และถ้าใครที่เน้นแนวดนตรีร็อคอาจใช้แค่ทรง SG ก็เพียงพอ นอกจากนี้แล้วยังต้องดูความชอบแต่ละคนอีกด้วย เพราะหากได้จับกีต้าร์ที่ตนเองชื่นชอบแล้ว ความหยากเล่นมันก็จะตามมาจนทำให้เล่นได้อย่างชำนาญมากขึ้น รักทรงไหน ก็เลือกทรงที่ชอบ แล้วความสุขในการเล่นจะตามมาเอง

×