LINE


9 นักร้องดังจากเวทีสยามกลการ

ไปซื้อ 9 นักร้องดังจากเวทีสยามกลการที่สาขา

ปัจจุบันวงการบันเทิงเมืองไทยได้มีเวทีประกวดร้องเพลงขึ้นมามากมาย ซึ่งแต่ละรายการก็จะมีจุดขายที่แตกต่างกันไป ซึ่งถ้าหากใครยังจำได้กันได้ หนึ่งในเวทีรุ่นแรกๆที่โด่งดังก็คือเวทีสยามกลการ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น KPN หลังจากการจากไปของ คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช ผู้บริหารธุรกิจยานยนต์อย่างสยามนิสสันและยังเป็นผู้รักในเสียงเพลงอีกด้วย โดยช่วงหลังแนวรายการกลายเป็นการโหวตจาก SMS ผู้ชมทางบ้าน ทำให้เป็นที่น่าเสียดายเวทีที่เคยมีมนต์ขลังในอดีตซึ่งปั้นนักร้องชั้นนำมาประดับวงการเพลงไทยหลายคนกลายเป็นเวทีคะแนนเสียงมหาชนเช่นเดียวกับรายการอื่นๆ วันนี้ Musicarms จะขอพาไปรำลึกกันว่าเวทีนี้เคยปั้นใครมากันบ้างซึ่งเชื่อว่าชื่อแต่ละรายนั้นโด่งดังไปทั่วประเทศอย่างแน่นอน เป็นเครื่องยืนยันความขลังที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเวทีร้องเพลงอันดับ 1 ในอดีต

 

ธิติมา ประทุมทิพย์

ธิติมา ประทุมทิพย์ หรือที่รู้จักกันในนามแอน คูณ3ซูเปอร์แก๊งค์ มีความสนใจในการร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ได้รับรางวัลจากการประกวดร้องเพลงมากมาย ซึ่งหนึ่งในเวทีที่เธอมาคว้ารางวัลก็คือเวทีสยามกลการแห่งนี้ โดยเข้าประกวดเมื่อปี 2534 ร่วมกับพี่สาว อารียา ประทุมทิพย์ และโชว์พลังเสียงได้อย่างประทับใจทั้งคู่ จนแอน ธิติมาไปถึงรอบชิงชนะเลิศระดับเยาชนและได้รางวัลนักร้องดีเด่นประเภทยุวชน โดยขณะนั้นอายุเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น ซึ่งเพลงที่เธอใช้ประกวดคือ Flashdance What a Feeling ของ Irene Cara (ไอรีน คารา) ก่อนจะสร้างชื่อเสียงในเวลาต่อมาด้วยการร้องเพลงประกอบละครอีกหลายเรื่องจนได้ทำเพลงกับค่ายแกรมมี่ในนามวง “คูณ 3 ซูปเปอร์แก๊งค์” โดยภายหลังแยกมาออกอัลบั้มเดี่ยวก็ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง มีเพลงดังติดหูอย่าง ฝันไปรึเปล่า และ เสียงของหัวใจ ที่ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง

 

ขนมจีน กุลมาศ

กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์ หรือ ขนมจีน นักร้องสาวจากค่ายกามิกาเซ่ได้ลงประกวดเวทีสยามกลการในปี 2547 ซึ่งยุคนั้นเป็นชื่อ KPN ไปเรียบร้อย เพลงที่เธอใช้ประกวดคือเพลง เล่นของสูง ของวงบิ๊กแอสและได้ชนะเลิศระดับยุวชน โดยหนึ่งคู่ต่อกรของขนมจีนในรอบสุดท้ายก็คือ หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ ก่อนที่จะเข้าสู่สังกัดกามิกาเซ่และได้ออกอัลบั้มเมื่อปี 2550 ในชื่อชุดขนมจีน ส่งเพลงฮิต ตามใจปาก และ แพ้ไม่เป็น ติดหูคนฟังภายในเวลาอันรวดเร็ว กระแสตอบรับดีจนมีผลงานกับทางค่ายมาอีก 4 อัลบั้ม และมีเพลงดังๆมากมายไม่ว่าจะเป็น ระหว่างเพื่อนกับแฟน และ เป็นเพื่อนเธอไม่ได้จริง ๆ จนได้รับรางวัล รางวัลนักร้องหญิงที่สุดแห่งปี 2013 จาก Daradaily The Great Awards ครั้งที่ 5 ช่วงหลังขนมจีนเริ่มมีผลงานการแสดงควบคู่กับการร้องเพลงรวมไปถึงงานละครเวทีอีกเช่นกัน

 

กัน นภัทร

แชมป์จากรายการเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปีที่ 6 รายนี้เคยเข้าประกวดเวทีสยามกลการเมื่อปี 2543 ในประเภทยุวชนเพลงลูกท่ง ซึ่งขณะแข่งนั้นใช้ชื่อว่า ดช. ชนินทร์ อินทร์ใจเอื้อ และอายุแค่ 9 ปีเท่านั้น โดยเพลงที่ใช้ประกวดคือ ละครชีวิต ซึ่งก็สามารถคว้ารางวัลนักร้องยุวชนดีเด่น ประเภทเพลงไทยลูกทุ่ง หลังจากนั้นก็เดินสายเวทีประกวดมาจนคว้าแชมป์เดอะ สตาร์ โดยหนุ่มจากเมืองสุพรรณรายนี้ก็ได้เซ็นสัญญากับแกรมมี่ปล่อยซิงเกิ้ลเพลง ระยะทำใจ มาให้แฟนเพลงได้ฟังเป็นเพลงแรกและต่อด้วยอัลบั้มแรกในชีวิตชื่อชุด กันเอง แต่ระยะหลังผลงานของกัน นภัทรนั้นเน้นไปทางละครเวทีเสียมากกว่าซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดีกับเรื่อง สีแผ่นดิน เดอะ มิวสิคคัล, ลมหายใจ เดอะมิวสิคคัล และ มิสไซง่อน จนเบนเขมมาทางการแสดงในละครโทรทัศน์อีกหลายๆเรื่อง

 

ปนัดดา เรืองวุฒิ

นักร้องสาวเสียงดีดีกรีนักร้องดีเด่นเวทีสยามกลการซึ่งขณะนั้นเปลี่ยนชื่อเป็น KPN เมื่อปี 2538 โดยเพลงที่ใช้ประกวดคือเพลง รักที่หลุดลอยของ มณีณุช สเมรสุต และเพลง Free Again ของ Barbra Streisand (บาร์บรา สไตแซนด์) ซึ่งขณะนั้นเธออายุแค่ 16 ปีเท่านั้น เรียกว่าเกินอายุเวทีเด็กนิดเดียวจนต้องมาประกวดเวทีผู้ใหญ่ แต่ปนัดดากลับทำให้ผู้ชมและกรรมการต้องตะลึงด้วยเสียงร้องอันทรงพลังเกินวัยเอาชนะคู่แข่งที่เป็นผู้ใหญ่หลายต่อหลายคนแบบพลิกหักปากกาเซียน จนได้เข้าชิงชนะเลิศรอบสุดท้าย แม้จะไม่ได้ตำแหน่งนักร้องยอดเยี่ยมแต่ก็ได้เข้าไปทำอัลบั้มกับค่ายแกรมมี่โดยมีอัลบั้มออกมาทั้งหมดรวม 15 ชุด มีเพลงฮิตติดหูเช่น ดาวกระดาษที่สร้างชื่อเสียงให้ปนัดดาโด่งดังเป็นพลุแตกทันที และเพลง ดอกไม้ในหัวใจ, คนเลวที่รักเธอ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วยังได้ร่วมแสดงละครเวทีอีกหลายเรื่อง เช่นเรื่อง แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคคัล

 

เจินเจิน บุญสูงเนิน

ประเชิญ บุญสูงเนิน หรือชื่อที่ใช้ในวงการคือ เจินเจิน เป็นคนโคราชที่ได้ศึกษาต่อไปมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยขณะที่กำลังศึกษาอยู่นั้นก็รับจ็อบเป็นนักร้องตามร้านอาหาร และได้มาประกวดเวทีสยามกลการเมื่อปี 2527 รุ่นเดียวกับเบิร์ดธงไชย เพลงที่ใช้ประกวดคือเพลง สุดเหงา และได้รับรางวัลนักร้องดีเด่น แต่ยังไม่ได้เข้าวงการดนตรีจนเมื่อปี 2533 ได้พบกับเจ้าของบริษัทเลปโซ่สตูดิโอขณะร้องเพลงอยู่ร้านอาหารและชักชวนให้ออกอัลบั้มชุดแรกชื่อชุด ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ส่งเพลงดังอย่าง ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง และ ต้องสู้…จึงจะชนะ โด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง และมีอัลบั้มออกมาทั้งหมด 5 ชุดซึ่งติดหูคนไทยหลายเพลงเช่น ข้าคือคนไทย ปัจจุบันเปิดกิจการร้านขายซาลาเปาและเกี๊ยวกุ้งในชื่อ เจินเจินซาลาเปาเกี๊ยวกุ้ง ที่ซอยโชคชัยร่วมมิตร

 

ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด

ตั๊ก ศิริพร หรือที่รู้จักกันในนาม ตั๊ก ลีลา สาวจากนครสวรรค์ เริ่มเส้นทางดนตรีด้วยการเดินสายประกวดร้องเพลงตามเวทีต่างๆในจังหวัด ก่อนที่จะเข้าประกวดเวทีสยามกลการเมื่ออายุได้ 17 ปี ซึ่งเธอก็สามารถคว้ารางวัลนักร้องดีเด่นมาครองได้ โดยเพลงที่ใช้ประกวดคือเพลง เพลงสุดท้าย ของ สุดา ชื่นบาน ซึ่งจากเวทีนี้เองเสียงร้องของเธอก็ได้ไปเข้าตา แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ โดยเป็นนักร้องในสังกัดอีเทอร์ทัล ค่ายเพลงของดนุพล มีอัลบั้มออกมาทั้งสิ้น 9 ชุด ในสังกัดนี้ มีเพลงฮิตอย่าง ฉันไม่ใช่นางเอก, ไม่มีฝีมือ และ หมดห่วง จนคว้ารางวัลศิลปินหญิงเดี่ยวยอดเยี่ยม จากสีสันอะวอร์ดส์ ปี 2535 นอกจากการร้องเพลงแล้ว ผลงานการแสดงหลายๆเรื่องของเธอยังตราตรึงในใจคนทั้งประเทศจนล่าสุดก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับกรรมการการประกวดร้องเพลงหลายรายการในจอทีวี

 

เจนนิเฟอร์ คิ้ม

เจนนิเฟอร์ คิ้ม หรือที่ตอนประกวดใช้ชื่อจริงว่า พรพรรณ ชุนหชัย เป็นนักร้องตามผับกลางคืนมาก่อนที่จะเข้าประกวดเมื่อปี 2536 ซึ่งเธอก็ทำได้ดีจนเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยเพลงที่ใช้ในการประกวดนั้นคือ ต่อไปนี้ไม่มีใคร ของใหม่ เจริญปุระ และเพลง This Is My Life ของ Shirley Bassey (เชร์ลี่ย์ บาสซี่ย์) แต่เธอก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันพลาดรางวัลนักร้องยอดเยี่ยมอย่างน่าเจ็บใจ ซึ่งน่าเสียดายว่าปีที่เธอประกวดนั้นอายุครบเพดานที่กำหนดคือ 25 ปี พอดีจึงมาแก้ตัวปีหน้าไม่ได้แล้ว แต่เพชรย่อมเป็นเพชรอยู่วันยังค่ำเพราะแม้จะไม่ชนะเลิศแต่เจนนิเฟอร์ คิ้มก็ยังรักในการร้องเพลงต่อจนได้ออกอัลบั้ม ชุด JFK ของตนเองปี 2539 และปัจจุบันเมืองไทยยอมรับว่าเธอคือหนึ่งในนักร้องเสียงดีแถวหน้าโดยมีงานอีเวนต์โชว์ตัวต่อคิวยาวเหยียด แบบนี้เรียกว่าไม่ชนะก็ดังได้

 

ทาทา ยัง

อมิตา ทาทา ยัง ผู้สร้างปรากฏการณ์แฟชั่นกางเกงทรงใหญ่ทั่วฟ้าเมืองไทยได้เข้าประกวดเวทีสยามกลการเมื่อปี 2535 ในรุ่นจูเนียร์เพราะขณะนั้นเธออายุแค่ 11 ปีเท่านั้น โดยใช้เพลง One Night Only ของ Jennifer Hudson ซึ่งเธอรักการร้องเพลงมาตั้งแต่ยังเล็กและได้เรียนร้องเพลงกับครูอ้วน มณีณุช สเมรสุตจนครูอ้วนบอกว่าประทับใจในความสามารถของลูกศิษย์รายนี้ และเธอก็ไม่ทำให้เวทีสยามกลการรวมไปถึงผู้ฝึกสอนต้องผิดหวังเพราะสามารถแจ้งเกิดเต็มตัวตั้งแต่อัลบั้มแรกกับค่ายแกรมมี่ในชุด อมิตา ทาทา ยัง โดยทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านคลับและขึ้นแท่นซุปเปอร์สารต์หญิงเบอร์ 1 ของวงการเพลงไทยภายในเวลาไม่นาน ก่อนที่จะทำอัลบั้มเพลงไทบมาทั้งหมด 8 ชุด และยังได้ออกกับค่าย Sony ทำเพลงภาษาอังกฤษชื่อชุด I Believe อีกเช่นกัน

 

ธงไชย แมคอินไตย์

ซุปเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของเมืองไทยอย่างพี่เบิร์ดลงประกวดเวทีสยามกลการเมื่อปี 2527 ทั้งที่ชีวิตวัยเด็กนั้นแค่ฝึกร้องกันเองภายในครอบครัวไม่ได้เรียนร้องเพลงที่ไหนด้วยซ้ำ โดยบทเพลงที่พี่เบิร์ดนำมาร้องคือเพลง ชีวิตคือละคร ของคุณ ธานินทร์ อินทรเทพ และได้รางวัลนักร้องดีเด่น ซึ่งหลังจากการประกวดเวทีนี้เสียงร้องของเบิร์ด ธงไชยก็ได้ไปเข้าตา เรวัติ พุฒินันท์ เข้าอย่างจัง จนพี่เต๋อเรวัติต้องดึงตัวมาสู้แกรมมี่ จากนั้นจุดเริ่มตต้นของตำนานนักร้องเบอร์ 1 ของไทยก็เริ่มขึ้น โดยยอดขายอัลบั้มของพี่เบิร์ดนั้นได้รับการบันทึกว่าเกิน 25 ล้านชุด โดยุดรับแขกที่ออกมาเมื่อปี 2545 ทำสถิติเป็นอัลบั้มเพลงเมืองไทยที่มียอดขายสูงสุดเกิน 5 ล้านตลับ และคอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ที่สร้างปรากฏการณ์ผู้ชม 120000 คนมากที่สุดของอิมแพค อารีน่า จนคนไทยทั้งประเทศยอมรับว่าเบิร์ด ธงไชยคือศิลปินเบอร์ 1 แห่งยุคของทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัย

×