LINE


Shure SLX-D24A/B58-M55 ไวเลสไมโครโฟน Wireless Microhone ดิจิทัลแบบ 100%

ไปซื้อ Shure SLX-D24A/B58-M55 ไวเลสไมโครโฟน Wireless Microhone ดิจิทัลแบบ 100%ที่สาขา

SLX-D ไมค์โครโฟนจาก Shure ที่ตอบสนองความเป็น Professional ของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีและเป็นที่รู้จักยอมรับกันในเวทีต่าง ๆ ทั่วโลกเพราะเสียงที่เป็นคาแร็คเตอร์ของ Shure เองหากท่านเป็นแฟนตัวยงของเสียงที่เป็นตำนานจาก Shure Beta58, Shure SM58 ก็คงจะนึกถึงเสียงออกใช่มั้ยละครับในครั้งนี้ SLX-D เค้าได้พัฒนาออกแบบเพิ่มประสิทธิภาพแบบเต็มสูบจากเดิมที่ SLX รุ่นก่อนหน้านั้นจะเป็นแค่การส่งสัญญาณแบบอนาล็อค (Analog) แต่ครั้งนี้เค้าได้จัดเต็มเป็นการประมวลผลดิจิตอลแบบ 100% เต็มตามชื่อ D ด้านหลังของเค้านั่นเอง เอาละ Shure SLX-D24A/B58-M55 นั้นจะมีคุณสมบัติอะไรบ้างเราไปอ่านบทความนี้กันครับ

Shure SLX-D ตัวนี้นะครับจะมาพร้อมจุดเด่นของเค้าเลยคือมีคลื่นความถี่ด้วยกัน 2 สัญญาณครับก็คือ 694-703 MHz และ 748-758 MHz ในเครื่องเดียว เป็นการประมวลผลดิจิตอลให้ความละเอียด 24-bit มีค่าความหน่วงของสัญญาณหรือ Latancy อยู่ที่ 3.2 ms. มีกำลังส่งสูงสุดอยู่ที่  10 mW  ใน Shure SLX-D ตัวนี้สามารถรับส่งสัญญาณได้ไกลถึง 100 M. (ในที่โล่งแจ้ง) หากต้องการสัญญาณที่ไกลขึ้นก็สามารถซื้อเสาร์สัญญาณชนิดอื่น ๆ ที่ลองรับกับ Shure SLX-D มาใส่เพิ่มเติมได้โดยสามารถดูได้จาก คู่มือ (Manual) ที่แถมมาในกล่องสินค้าได้เลยครับ มีการจูนสัญญาณแบบ RF Tuning ที่สามารถทำได้แบบ Group + Chanel หรือจะตั้งค่าด้วยมือ Manual โดยการหมุน Knop ก็ได้ Shure SLX-D มีค่า Sensitivity -97 dBm ที่ตรวจสอบสัญญาณได้แม่นยำและไวมาก ๆ ยังมีค่า RF Rejection ที่ >70dB และ Dynamic range 118 dB (A) (ในกรณีนี้หมายถึงเสียงที่อยู่ใน Noise floor กับเสียงที่อยู่ในระบบที่สามารถรับได้มีความต่างกันถึง 118 dB ซึ่ง Shure SLX-D เค้าให้มาเยอะมาก ๆ ครับ) Shue SLX-D ตัวนี้เป็นไมโครโฟนไร้สาย ไวเลสไมโครโฟน Wireless Microphone ประเภท Dynamic รูปแบบการรับเสียงเป็นแบบคาร์ดิออย Cardioid การตอบสนองความถี่อยู่ที่ 20Hz – 20kHz จากสเปคคราว ๆ ที่ทาง Music Arms ได้พูดถึงไปนั้นผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ในคุณภาพและเชื่อใจได้ในสัญญาณว่า Shure SLX-D นั้นจะส่งสัญญาณที่มั่นคงไม่ทำให้สัญญาณนั้นขาดหายมั่นใจได้ทุกงานตั้วแต่งานเวทีห้องประชุมเล็ก ห้องสัมมนาขนาดใหญ่ อีเว้นท์ฮอลล์ หรือ เทศกาลดนตรี ฯลฯ นั่นเอง ครับ

ตัวด้ามจับไวเลสไมโครโฟน Wireless Microphone ของ SLX-D นั้นทำจากโลหะทั้งหมดซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน หัวไมค์ที่ให้มาด้วยก็คือหัวไมค์ SM58 ซึ่งสามารถซื้ออัพเกรดได้เพิ่มเริ่มตั้งแต่หัว SM58, Beta58A, SM86, Beta87A, KSM8 นั่นเองและหากคุณไม่ชอบใช้ไมค์มือถือแล้วละก็ SLX-D ของ Shure นั้นสามารถใช้งานกับ Body Pack SLX-D1 ที่ใช้งานกับไมโครโฟนชนิดอื่น ๆ ทั้งไมโครโฟนแบบลาวาเลียร์, ไมโครโฟนแบบคล้องหู, ไมค์คลิปหนีบปกเสื้อ หรือจะใช้กับเครื่องดนตรีก็สามารถใช้งานได้เช่นกันกับ SLX-D1 *ผู้ใช้งานสามารถดูได้จาก คู่มือ (Manual)

ด้านการใช้งานสามารถใช้งานถ่าน AA ขนาด 2 ก้อนที่สามารถใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมง และยังสามารถใช้งานได้กับ Battery pack ของ Shure ได้คือ Shure SB903 สามารถใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน (การใช้งาน Shure SB903 เหมาะกับหน่วยงานที่ใช้งบประมาณในการเบิกงบวัสดุสิ้นเปลืองซึ่งหากใช้ SB903 นั้นก็จะทำให้ไม่เจอปัญหาในการเบิกงบประมาณของท่านนั่นเอง) ตัวไมค์มือถือมีการแสดงผลที่หน้าจอมอนิเตอร์บนตัวไมค์ที่แม่นยำว่าแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานได้กี่ชั่วโมง กีนาที มีระบบ Cycle คำนวณการชาร์จของแบตเตอรี่ว่าชาร์จไปแล้วกี่ครั้ง พร้อมกับระบบที่บ่งบอกว่าสุขภาพแบตเตอรี่นี้มีสุขภาพเป็นอย่างไร (Battery Health)

*ซึ่งระบบเช็คค่าแบตเตอรี่ต่าง ๆ ของ Shure SLX-D โดยส่วนตัวMusic Arms คิดว่ามันเป็นระบบที่ทำมาเพื่อดูประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เพิ่มเติมจากการเพียงแค่ดูว่าแบตเตอร์รี่จะหมดหรือยัง หรือแบตเตอรี่จะเต็มหรือยังซึ่งระบบตรงนี้หากใครใช้อุปกรณ์ IT อื่น ๆ มันจะช่วยในความสะดวกสบายและจะได้รู้ได้ด้วยว่าอุปกรณ์นั้นมีการเสียหายจากแบตเตอร์รี่ แบตเตอร์รี่เสื่อมหรือป่าวนั่นเองครับ

คุณสมบัติการสแกนหาช่วงคลื่นเสียงที่ดีที่สุด แบบอัตโนมัติ โดยหลัก 2 สามารถใช้งานได้ 2 วิธีโดยหากใครเป็นสายเทคนิคอล ชำนาญการใช้งานอยู่แล้วก็สามารถใช้งานสแกนหาคลื่นได้จาก คอมพิวเตอร์ในโปรแกรม Wireless Workbench 6 ที่เป็นตัวควบคุมการใช้งานได้ทั้งหมด ผ่านคอมพิวเตอร์เช่น การสแกนคลื่นความถี่ที่ดีที่สุดหากคุณเชื่อมต่อ Shure SLX-D ตัวนี้ถึง 23 จากการเชื่อมต่อสายผ่านพอร์ต (LAN) RJ45 ทุกอย่างก็จะขึ้นอยู่หน้าจอโปรแกรมของคุณให้คุณสามารถรู้สาเหตุหรือปัญหาต่าง ๆ ได้แบบ Realtime นั่นเอง หรืออยากให้สะดวกกว่านั้นก็ใช้งานปรับแบบมือ (Manual) ก็ใช้วิธีการที่ 2 โดยการกดสแกนหน้าเคลื่อนเพื่อหาสัญญาที่ดีที่สุดโดยกดไปที่ตัวเครื่องปุ่ม knob Receiver ไปที่เมนู Frequency Setup > Guided Frequency Setup > Group Scan > Channel Scan > Manual Frequency Setup (โดย Transamitter ไปสแกนที่หน้าจอผ่าน IR sync ก็สามารถใช้งานได้แล้วครับ) การใช้งานผ่าน Application ที่สะดวกบนมือถือด้วย ShurePlus Channels ที่ยกคำสั่งหรือเมนูต่าง ๆ จาก Shure SLX-D มาไว้บนตัวมือถือของคุณนั่นเอง

มาถึงคุณสมบัติที่ทาง Music Arms นั้นชอบมากเลยนะครับก็คือ คุณสมบัติที่มีชื่อว่า HH Offset, และ BP Offset เป็นตัวช่วยในเรื่องของการชดเชยความดัง การชดเชยสัญญาณเมื่อผู้ใช้งาน ใช้งานระหว่างไมค์ถือไปใช้งาน Body Pack โดยปกติแล้วความดังของไมค์ถือและ Body Pack จะไม่เท่ากันถ้ามีการเปลี่ยนการใช้งานผู้ใช้งานก็ต้องดันเสียงที่ Mixer แต่ฟังชั่นนี้จะชดเชยความดังที่ไม่เท่ากันให้เราไม่ต้องไปปรับที่ตัว Mixer นั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ Shure SLXD24A/B58-M55 ไวเลสไมโครโฟน Wireless Microphone ก็จะมีข้อมูลคราว ๆ ประมาณนี้นะครับสำหรับท่านผู้อ่านท่านใดที่อ่านบทความนี้จบแล้วอยากจะลองเข้าไปพูดคุยหรือสอบถามเกี่ยวกับสินค้าของ Shure SLX-D สามารถเข้าไปได้ที่หน้าร้านของ Music Arms ทั้ง 7 สาขาได้เลยนะครับหรือจะติดต่อทางช่องทางออนไลน์ของ Music Arms ก็ติดต่อได้ในทุก ๆ ช่องทางเลยนะครับวันนี้ Music Arms ขอตัวลาไปก่อนนะครับสวัสดีครับ -/\-

 

               คลิ๊กที่นี่ เพื่อดูสินค้า ไวเลสไมโครโฟน Wireless Microphone เพิ่มเติม

×