LINE


Yamaha FSX-315C VS Epiphone PRO-1 ULTRA

ไปซื้อ Yamaha FSX-315C VS Epiphone PRO-1 ULTRAที่สาขา

ถ้าเอ่ยถึงแบรนด์กีต้าร์โปร่งยี่ห้อดังๆที่หลายคนเชื่อถือ ยี่ห้อ Yamaha และ Epiphone น่าจะอยู่ลำดับต้นๆของโลกกันเลย เพราะ 2 แบรนด์นี้มีประวัติการผลิตกีต้าร์มายาวนานเกือบ 100 ปี สร้างกีต้าร์ชั้นนำสู่มือนักดนตรีอาชีพมากว่า 1000 คน รวมถึงผลิตกีต้าร์ราคาย่อมเยาคุ้มค่ามาสู่มือสมัครเล่นอีกด้วย หลายครั้งเวลาเลือกซื้อกีต้าร์มักจะมีคำถามว่ารุ่นไหนดี วันนี้ทาง Musicarms จึงขอเอากีต้าร์โปร่งของทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ในราคาที่ใกล้เคียงมาเทียบจะๆไปเลยว่ามีข้อดีข้อด้อยตรงไหนบ้าง ซึ่งก็คือ Yamaha FSX-315C และ Epiphone PRO-1 ULTRA ก่อนอื่ยเราไปดูสเปคคร่าวๆของสองรุ่นนี้กันก่อน

Yamaha FSX-315C

ราคา : 8,400 บาท
ประหยัดพิเศษ
Face cover Yamaha FSX315C
ข้อมูล : 

Yamaha FSX-315C กีต้าร์คุณภาพเยี่ยมที่ให้เสียงนุ่ม หนา กังวาน รุ่นนี้จะเป็นทรงคอนเสิร์ตที่มีลักษณะแคบลงเล็กน้อย ส่วนท้ายของกีต้าร์จะทรงกลมขึ้นกว่าปกติเล็กน้อยทำให้เล่นง่ายเหมาะกับสรีระคนเอเชีย ไม้หน้าทำจากไม้สปรู๊ซที่มีชื่อด้านความใสของเสียง ด้านหลังและด้านข้างค่อนข้างแปลกกว่ากีต้าร์ตัวอื่นตรงที่ใช้ไม้โทนวู้ดเขตร้อน โดยไม้โทนวู้ดก็คือต้นไม้ที่เติบโตเหมือนต้นอื่นๆ ทั่วไป พอโตได้ขนาดก็ถูกคัดเกรด คัดลาย แล้วมาผ่านกรรมวิธีบ่มไม้ เพื่อลดความชื้นให้อยู่ในเกณฑ์ หรือจะเรียกว่าไม้คัดเกรดก็ได้ ปกติแล้วนิยมใช้ในการผลิตไวโอลิน

ด้วยความที่เนื้อไม้โทนวู้ดเป็นไม้คัดเกรด ทำให้ซาวด์ของกีต้าร์รุ่นนี้จะหนานุ่มมีเสียงเบสปนอยู่ และลายของไม้โทนวู้ดจะเป็นไม้เนื้อละเอียดทำให้คอที่ทำจากไม้นี้เคลือบด้านแล้วออกมาสวยงาม ในขณะที่บอดี้เคลือบเงาก็สะดวกต่อการทำความสะอาดเช่นกัน จุดเด่นอีกอย่างคือ ภาคไฟฟ้ารุ่น SYSTEM68 A.R.T (ย่อมาจาก Acoustic Resonance Transducer)  ใช้ถ่าน AA 2 ก้อน ช่วยลดเสียงจี่ และมีจูนเนอร์ในตัว คาแรคเตอร์เสียงก็ตามชื่อที่จะมีความกังวานแบบกีต้าร์โปร่ง วัสดุอื่นๆตามเกรดมาตรฐานยามาฮ่าทั้งลูกบิดชุบโครเมี่ยมและปิ๊กการ์ดลายกระดองเต่า ใครกำลังมองหากีต้าร์เจ๋งๆเสียงขั้นเทพซักตัว บอกเลยว่ายี่ห้อนี้ไม่ทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว

สเปค : 

รายละเอียดกีต้าร์ Yamaha FSX-315C

  • บอดี้ทรงคอนเสิร์ตแบบคอเว้า
  • ไม้ปะหน้าใช้ไม้สปรู๊ซ
  • ไม้ด้านข้างและหลังใช้ไม้โทนวู้ดเขตร้อน
  • คอทำจากไม้โทนวู้ดเขตร้อน
  • ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้โรสวู้ด
  • ความยาวช่วงสาย 25 นิ้ว
  • ความยาวบอดี้ 19.56 นิ้ว
  • ความกว้างบอดี้ 14.93 นิ้ว
  • ความหนาบอดี้ 96-116 มม.
  • ความยาวกีต้าร์ 19.18 นิ้ว
  • บริดจ์ทำจากไม้โรสวู้ด
  • นัทและแซดเดิ้ลทำจากวัสดุยูเรีย
  • หมุดยึดสายรุ่น ABS สีดำ
  • ขอบกีต้าร์สีดำ ครีม
  • ลายโพรงกลางบอดี้สีดำ ขาว
  • บอดี้กีต้าร์เคลือบเงา ส่วนคอเคลือบแบบด้าน
  • ลูกบิดชุบโครเมี่ยม
  • ปิ๊กการ์ดลายกระดองเต่า
  • ภาคไฟฟ้ารุ่น SYSTEM68 + ART1
  • แผงคอนโทรงมีปุ่มโวลุ่ม โทน และจูนเนอร์
  • มีช่องเสียบไลน์เอาท์
  • สายกีต้าร์เบอร์ 0.12
  • อุปกรณ์แถมเป็นเหล็กขันคอและถ่านขนาด AA 2 ก้อน


Epiphone PRO-1 ULTRA

ราคา : 8,550 บาท
9,500 บาท
ประหยัด10%
Guitar-Post
ข้อมูล : 

Epiphone PRO-1 ULTRA กีต้าร์ท็อปโซลิดในราคาเบาๆ ไม้หน้าเป็นไม้แท้แผ่นเดียวที่ยิ่งนานไปจะได้เสียงที่นุ่มละมุนกว่าเดิมเมื่อไม้แห้ง ด้านหลังและด้านข้างเป็นไม้มะฮอกกานีแบบคัดเกรดกันมาอย่างดี และยังปรับขนาดบอดี้ให้บางลงกว่าเดิม ทำให้เล่นง่ายมากขึ้น คอใช้ไม้โอกูเม่เป็นส่วนประกอบโดยทำทรงคอเป็นแบบ D รุ่นใหม่เพื่อช่วยให้จับกระชับมือ เชื่อมคอโดยใช้กาวไม่มีน็อตมากั้นระหว่างไม้ เสียงจึงเปิดชัดเจน

วัสดุอื่นๆเลือกสรรกันมาอย่างดีตามมาตรฐาน Epiphone  Nut และ Saddle ทำจาก GraphTech ยึดสายแน่นหนา รุ่นนี้จะมีความยาวสายที่ค่อนข้างสั้น เพื่อการเฃ่นง่ายและแรงตึงสายไม่มาก กดสบายไม่เจ็บนิ้ว ลูกบิด Epiphone Deluxe มั่นใจได้ว่าขันสายแน่นไม่มีเพี้ยน ดีไซด์อื่นๆทำได้สวยงามสมราคา ใครกำลังมองหากีต้าร์ไม้แท้ในราคาเบาๆ จัดว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ

สเปค : 

รายละเอียดกีต้าร์ Epiphone PRO-1 ULTRA

  • ไม้หน้าเป็นท็อปโซลิดสปรู๊ซ
  • ไม้หลังและด้านข้างเป็นลามิเนทมะฮอกกานีแบบคัดเกรด
  • บอดี้ปรับให้มีขนาดบางลง
  • คอทำจากไม้โอกูเม่ทรงคอ EZ Pro D
  • Truss Rod แบบ Dual-Action
  • Truss Rod ทำจากวัสดุ PVC สีขาว
  • ความยาวสเกล 24.75 นิ้ว
  • ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากวัสดุ PRO-Ease
  • อินเลย์ลายจุด
  • Nut และ Saddle ทำจาก GraphTech
  • จำนวน 20 เฟรต ขนาด Jumbo
  • บริดจ์ reverse belly
  • ลูกบิด Epiphone Deluxe
  • ปิ๊กการ์ดพลาสติกสีดำ


ก่อนอื่นเรามาดูบอดี้ภายนอกกันก่อน จะเห็นได้ว่า Yamaha FSX-315C นั้นเป็นทรงคอนเสิร์ตที่เหมาะกับคนตัวเล็ก ข้อดีของทรงนี้คือกะทัดรัด พกพาง่าย ผู้หญิงเล่นได้สบายๆ แต่ต้องแลกมาด้วยข้อด้อยที่เสียงเบสนั้นจะไม่พุ่งเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับทาง Epiphone PRO-1 ULTRA ซึ่งเป็นทรงเดรทน็อต เสียงของ Epiphone จะมาเต็มกว่าเนื่องจากบอดี้ใหญ่ เสียงก้องชัด แต่ขนาดจะเล่นยากนิดนึง ตรงนี้ต้องอยู่ที่ผู้ซื้อว่าชอบแบบไหน จะเอาซาวด์แน่นหรือเล่นถนัดตามใจชอบ

เรื่องวัสดุไม้ตรงนี้ดูเหมือน Epiphone จะเหนือกว่านิดๆ เพราะไม้หน้าเป็นท็อปโซลิดหรือไม้แท้ โดยเป็นไม้สปรู๊ซเช่นเดียวกับ Yamaha ด้านข้างนั้นแตกต่างกันทาง Epiphone ใช้ไม้มะฮอกกานี แต่ทาง Yamaha ใช้ไม้โทนวู้ดเขตร้อน ไม้ของทาง Yamaha มีข้อได้เปรียบเนื่องจากเป็นไม้ในเขตอากาศเดียวกับประเทศไทย ทำให้เวลาเจอความร้อนแล้วไม้ไม่หดตัวเท่าไหร่นัก กีต้าร์จะทนกว่า ถือเป็นข้อดีอย่างมากในการเก็บรักษา ตรงนี้ผู้ซื้อก็ต้องเลือกว่าชอบไม้แท้หรือไม้ทนๆ

เรื่องงานประกอบคงไม่ต้องห่วงอะไรมากเพราะแบรนด์ระดับโลกแบบนี้ กว่าที่กีต้าร์จะออกมาจากโรงงานต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบอย่างดี ซึ่งทาง Musicarms ลองเล่นแล้วก็รู้สึกว่างานเนี๊ยบสมแบรนด์จริงๆ อะไหล่แต่ละชิ้นก็เลือกใช้ของดีทั้งคู่ เรื่องงานประกอบและเรื่องอะไหล่นี้ให้เสมอกันไปแบบสูสี

เรื่องเสียงก็ต้องบอกว่าคล้ายคลึงกันอย่างมากในภาคเสียงโปร่ง เพราะไม้โทนวู้ดเขตร้อนให้เสียงที่ใกล้เคียงไม้มะฮอกกานี แต่เสียงโปร่งของ Epiphone จะออกมาเต็มกว่าโดยเฉพาะย่านเบส ถ้าใครชอบสตรัมคอร์ดหนักๆเลือก Epiphone จะดีกว่า แต่ถ้าเล่นแนวฟิงเกอร์สไตล์เบาๆอาจจะชอบทาง Yamaha มากกว่าเพราะโทนเสียงแหลมชัดเจนกว่า

ข้อดีของ Yamaha FSX-315C

  • บอดี้เล็ก เล่นง่าย
  • โทนเสียงแหลมออกชัด
  • ราคาถุกกว่า

ข้อดีของ Epiphone PRO-1 ULTRA

  • บอดี้ใหญ่ เสียงเบสออกชัด
  • ไม้หน้าท็อปโซลิด

บทสรุปของ Yamaha FSX-315C VS Epiphone PRO-1 ULTRA ต้องบอกว่ามีดีในตัวคนละแบบ จากที่ยกมาก็ต้องแล้วแต่ผู้ซื้อจะเล่นสไตล์ไหนและชอบเสียงแบบไหน เพราะทั้งคู่ถือเป็นงานคุณภาพเกรด A จากแบรนด์ดัง และเพื่อนๆสามารถเลือกซื้อกีต้าร์ทั้งสองรุ่นนี้ได้ที่ร้าน Musicarms ทั้ง 4 สาขา โดยทางทีมงานจะดูแลเอาใจใส่ให้ความรู้เพื่อนๆอย่างดีตอนเลือกซื้อ เพื่อให้ได้กีต้าร์ที่ดี มีคุณภาพ อย่าลืมนะครับ ถ้าคิดถึงเครื่องดนตรี ขอให้คิดถึงเรา Musicarms เป็นชื่อแรกนะครับผม

 

×